พญาครุฑอุ้มสม ๒

72.0K · จบแล้ว
รดามณีนัฐฐ์
36
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

พญาครุฑอุ้มสม เล่ม ๒ #บทนำ " นรีทิพย์! " "....." ไม่มีเสียงตอบกลับมา ห้องบรรทมใหญ่ที่เคยมีเสียงขานรับของอัปสรตัวน้อยยามเขาเรียกหาทุกครั้ง บัดนี้กลับเงียบสงบไร้วี่แววของนาง " นรีทิพย์! " พญาครุฑหนุ่มเดินเข้าไปดูในห้องฉลององค์ และเดินเข้าไปห้องสรงน้ำพร้อมกับเอ่ยเรียกอัปสรน้อยอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบนรีทิพย์ เมื่อไม่พบนรีทิพย์ ความกังวลเริ่มกัดกินจิตใจเขา เดินหานางจนทั่วห้องหับ แต่ก็ไม่พบนาง ก่อนจะหันไปมองหน้าต่างที่เปิดอยู่ ..หนีไปอย่างนั้นหรือ? ได้เยี่ยงไรกัน? ราวกับว่าฟ้าผ่าลงกลางใจ พญาครุฑหนุ่มวิ่งพรวดออกมาจากพระตำหนักอย่างรวดเร็ว พรึบ! ปีกใหญ่สยายออกก่อนจะพวยพุ่งทยายสู่เวหาเบื้องบนทันใด พึบพึบ! พึบพึบ! พระมหิงส์เวหะกระพือปีกบินอยู่กลางเวหา กวาดสายตามองท้องเวหาอันกว้างไกล แต่ก็มองไม่เห็นอัปสรตัวน้อยแม้แต่เงา.. ฟึก! " สิงห์หะ!! " พญาครุฑหนุ่มเรียกองครักษ์คู่กายทันทีที่ลงถึงพื้น " พ่ะย่ะค่ะพระโอรส " " เรียกเหล่าองครักษ์มาพบข้าบัดเดี๋ยวนี้! " " เกิดอันใดขึ้นพ่ะย่ะค่ะ? แล้วพระชายา... " " นรีทิพย์.. หนีไปแล้ว " " ห๊า! / หนี? " สิงห์หะและจามรีรวมไปถึงวินตา ต่างเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่พญาครุฑหนุ่มจะหันกลับไปถามครุฑีรับใช้ทั้งสองนางด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด " มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? " เพราะต้องมีสาเหตุ ไม่อย่างนั้นนรีทิพย์คงไม่หนีไปเช่นนี้แน่ จามรีและวินตารีบหมอบลงกับพื้นตัวสั่น **** # คำเตือน นิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับนักอ่านที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี โปรดใช้วิจารณญาณก่อนอ่าน ** ผู้เขียน : รดามณีนัฐฐ์ ภาพปก : Dayny_white พิสูจน์อักษร : รดามณีนัฐฐ์ นิยายเรื่องนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามทำการคัดลอด เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วน ใดส่วนหนึ่งของานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ****

นิยายรักแก้แค้นแฟนตาซี พระชายาเทพสงครามศัตรูกลายคนรักตั้งครรภ์ราชวงศ์/ชนชั้นเจ้ารักแท้จักรวรรดิ

ตอนที่ ๔๕ สรรพนามใหม่

อัปสรน้อยก้มหน้าลงอย่างใช้ความคิด ปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันแน่น ความสับสนฉายชัดในแววตา เมื่อรู้สึกกังวลถึงบางอย่างจึงไม่กล้าที่จะเอ่ยตอบออกไป

“ เจ้ากังวลอันใดนรีทิพย์? หรือเจ้ากลัวว่าบิดา มารดาของเจ้าจักทำร้ายพระมหิงส์? ” กษัตริย์ครุฑที่สังเกตุเห็นสีหน้ากังวลของนรีทิพย์ก็เอ่ยถามขึ้น..

...ก็ไม่แปลกหรอกที่นางจะกังวล ไปฉุดลูกสาวของเขามา พ่อแม่ที่ไหนจะยอม

อัปสรน้อยผงกศีรษะลงอย่างอ่อนน้อม ก่อนจะเอ่ยตอบพระกันตะเวหาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล

“ เจ้าค่ะ..”

แต่ความจริงสิ่งที่นรีทิพย์อัปสรกังวล กลับมิใช่พระบิดาหรือพระมารดาของนาง ที่นรีทิพย์อัปสรกังวล คือพระสุวรรณเมฆาต่างหากล่ะ..

“ หากเป็นเรื่องนั้น ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่จักต้องเจรจากันเถิดหนาลูก ..เจ้ามิต้องเป็นกังวลไปดอก บอกนามบิดาแลมารดาของเจ้ามาเถิด ”

“ เจ้าค่ะ... พระบิดาของข้า มีพระนามว่าสุเวร พระมารดาพระนามว่านราภรณ์ เป็นอัปสรจากชั้นดาวดึงส์ เจ้าค่ะ...”

!! “.....”

คำตอบของนรีทิพย์ทำเอาพระกันตะเวหาชะงักค้างไปชั่วขณะ มิมีผู้ใดที่มิรู้จักพระนามสุเวรหรือท้าวสุเวร

ท้าวสุเวรเป็นหนึ่งในเทพชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

..เมื่อพระกันตะเวหาทรงได้รู้ว่าพระบิดาของอัปสรน้อยนางนี้เป็นถึงองค์มหาเทพ พระองค์ก็แค่นหัวเราะอยู่ในลำคอก่อนจะพึมพำออกมาเบาเบา

“ หึ.. เจ้าลูกชายข้า.. ช่างหาญกล้านัก ริอาจเอื้อมไปแตะต้องของสูง..” ว่าพร้อมกับส่ายพระพักตร์ไปมา

ก็อยากจะชมโอรสของตนอยู่ดอกหนา ตาถึงไม่เบา ถ้าไม่ติดว่าไปฉุดคร่านางมานี่แหละ มันน่าตีนัก! ก่อนที่จะหันไปเอ่ยกับโกสีองครักษ์คู่กาย

“ ไปตามพระมหิงส์มา..”

“ พ่ะย่ะค่ะ..” โกสีขานรับบัญชาก่อนจะออกไปตามพระมหิงส์เวหะ

.

.

?

“ เจ้าออกไปรอข้างนอกก่อนหนาลูก นรีทิพย์.. พ่อมีเรื่องที่จักต้องพูดคุยกับพี่เขาสักครู่หนา ”

หลังจากที่พระมหิงส์เวหะเข้ามาข้างในแล้ว พระกันตะเวหาก็รับสั่งให้นรีทิพย์ออกไปรอข้างนอก เพื่อที่เขาจะพูดคุยกับโอรสของตน

“ เจ้าค่ะ ” ร่างเล็กย่อตัวลงอย่างอ่อนน้อมก่อนจะหันหลังเดินออกไป

“ เจ้ารักนางอย่างนั้นรึ? ”

ยังไม่ทันที่นรีทิพย์จะก้าวพ้นประตู ผู้เป็นบิดาก็เอ่ยถามคำถามแรกกับโอรสหนุ่ม ราวกับว่าต้องการให้นรีทิพย์อัปสรนั้นได้ยินด้วย

“ พระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ.. ลูกรักนรีทิพย์ ” พญาครุฑหนุ่มตอบพระบิดาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

นรีทิพย์อัปสรที่ยังก้าวเท้าไม่ทันจะพ้นประตู ก็ได้ยินที่พญาครุฑหนุ่มพูดอย่างชัดเจน ทำเอาใจดวงน้อยถึงกับเต้นแรงระรัวแทบจะกระเด็นออกมานอกอก

“ เช่นนั้นพ่อจักขอถามเจ้าสักหน่อย ว่าเจ้าใคร่จักให้นรีทิพย์อยู่ในฐานันดรใด..”

“ นรีทิพย์จักต้องเป็นพระชายาของลูก พระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ ”

“ พระชายาที่ยังมิได้ตบแต่งน่ะหรือ? ”

“......”

“ หากใคร่จักให้นางเป็นพระชายา เจ้าก็ควรทำให้มันถูกต้อง นางมีพ่อมีแม่หนาพระมหิงส์ ก่อนที่เจ้าจักฉุดคร่านางมา เจ้ารู้หรือไม่ว่านางเป็นลูกเต้าเหล่าใคร? ”

“ ลูกมิทราบพระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ ”

จะรู้ได้อย่างไรกันหละ ที่เขาฉุดคร่านรีทิพย์มา ก็เพียงเพราะรู้ว่านางเป็นญาติผู้น้องของพระสุวรรณเมฆา.. แต่นั่นมันเป็นเพียงข้ออ้างที่จะจับนางมาเท่านั้น

.. เพราะความจริงแล้ว เขาต้องตาต้องใจนรีทิพย์ตั้งแต่แรกพบต่างหาก..

“ พ่อจักไปสู่ขอนรีทิพย์ให้เป็นเรื่องเป็นราวเสีย ”

“ เอ่อ.. ” ได้ยินอย่างนั้นพญาครุฑหนุ่มก็นิ่งไปพลันมีสีหน้าครุ่นคิด

“ เจ้ามีอันใดขัดข้องหรือพระมหิงส์? ”

พระกันตะเวหาเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าข้องใจ เมื่อเห็นสีหน้าของโอรสหนุ่ม

“ ลูกมิมีอันใดขัดข้องดอกพระพุทธเจ้าข้า แต่เรื่องไปสู่ขอนรีทิพย์.. ชะลอเอาไว้ก่อนจักได้หรือไม่ท่านพ่อ คือลูก... ยังมิพร้อมพระพุทธเจ้าข้า ”

“ ยังมิพร้อม? ..มีเรื่องอันใด ที่เจ้ายังมิได้บอกพ่ออีกหรือไม่พระมหิงส์? ”

“ มิมีอันใดดอกพระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ เพียงแต่เพลานี้ลูกยังมิพร้อมจริง ๆ พระพุทธเจ้าข้า ”

“ เอาล่ะ ๆ เช่นนั้นก็ไปพูดกับน้องให้เข้าใจก่อนก็แล้วกัน พ่อพร้อมที่จักไปสู่ขอน้องให้ได้ทุกเมื่อ แต่อย่าได้ชักช้านักเล่าเจ้าจักต้องขึ้นครองราชให้เร็วที่สุด พ่อใคร่จักสละราชบัลลังณ์เต็มทีแล้วหนา ”

“ พระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ เช่นนั้นลูกพานรีทิพย์ไปพักก่อนนะพระพุทธเจ้าข้า นางป่วยมาหลายวันแล้ว ”

“ น้องป่วยอย่างนั้นหรือ? ”

“ พระพุทธเจ้าข้า..”

“ เช่นนั้นก็รีบพาน้องไปพักผ่อนเสีย ..อีกไม่กี่วันอัศฎีพี่ชายของภชณี แลบิดาของมาฑุวา ก็จักมาถึงอาณาจักรของเราแล้วหนา เจ้าควรดูแลน้องให้ดี จักได้พาน้องมางานเลี้ยงต้อนรับพระราชอาคันตุกะของเราด้วย ”

แล้วพระกันตะเวหาก็รับสั่ง ให้เขาพาอัปสรน้อยมางานเลี้ยงพระราชอาคันตุกะด้วย ทำเอาพระมหิงส์ยิ้มหน้าบาน ก่อนจะเอ่ยตอบพระบิดาด้วยความดีใจ

“ พระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ ลูกจักดูแลน้องให้ดี เช่นนั้นลูกทูลลานะพระพุทธเจ้าข้า..”

“ อืม ไปเถิด..”

ร่างหนารีบเดินกลับไปหาอัปสรตัวน้อยที่ยืนรออยู่หน้าพระตำหนักใหญ่ด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าผู้เป็นบิดา จะถูกอกถูกใจว่าที่ลูกสะใภ้นางนี้เข้าให้แล้วกระมัง

.

.

?

พญาครุฑหนุ่มพาอัปสรตัวน้อยกลับมาถึงพระตำหนักอย่างอารมณ์ดี ทว่า!ต่างจากนรีทิพย์อัปสรที่กำลังรู้สึกแย่เมื่อในหัวของนางมันเต็มไปด้วยคำถาม

ตอนแรกนรีทิพย์ดีใจมาก ที่พญาครุฑหนุ่มตอบพระบิดาว่าเขารักนาง แต่เพราะความอยากรู้ ว่าพระกันตะเวหากับพระมหิงส์เวหะนั้นพูดคุยเรื่องอันใดกัน นรีทิพย์จึงยอมเสียมารยาทแอบฟังอยู่ครู่หนึ่ง

แต่หลังจากที่นางได้ยิน ที่พญาครุฑหนุ่มขอให้พระบิดาชะลอเรื่องไปสู่ขอนางกับพระบิดา อัปสรน้อยก็หันหลังแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เมื่อไม่อาจทนฟังต่อ

อัปสรน้อยนิ่งคิดอย่างไม่เข้าใจ เพราะด้วยเหตุใดพญาครุฑหนุ่มถึงต้องชะลอเรื่องไปสู่ขอนาง

“ เจ้ามีอันใดขัดข้องหรือพระมหิงส์? ”

“ ลูกมิมีอันใดขัดข้องดอกพระพุทธเจ้าข้า แต่เรื่องไปสู่ขอนรีทิพย์.. .. ชะลอเอาไว้ก่อนจักได้หรือไม่ท่านพ่อ คือลูก...ยังมิพร้อมพระพุทธเจ้าข้า ”

“ ยังมิพร้อม? ..เจ้ามีเรื่องอันใด ที่เจ้ายังมิได้บอกพ่ออีกหรือไม่พระมหิงส์? ”

“ มิมีอันใดดอกพระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ เพียงแต่เพลานี้ลูกยังมิพร้อมจริง ๆ พระพุทธเจ้าข้า ”

จู่ ๆ บทสนทนาของสองพญาครุฑ ก็ผุดขึ้นมาในหัวของนรีทิพย์อีกครั้ง

‘ ที่ท่านมิพร้อมจักไปสู่ขอข้า.. เป็นเพราะท่านกังวลเรื่องเจ้าพี่พระสุวรรณ.. หรือว่าท่านกังวลเรื่องครุฑีนางนั้นกันแน่พระมหิงส์ ’ นรีทิพย์อัปสรคิดขึ้นในใจ

ร่างเล็กนอนในท่าตะแคงหันหลังให้กับพญาครุฑหนุ่ม เพราะไม่อยากให้เขาเห็นว่านางยังไม่หลับ นรีทิพย์อัปสรไม่อาจข่มตาหลับลงได้เลย ดวงตาคู่สวยมองเหม่อพลางถอนลมหายใจเบา ๆ แต่มันก็ทำให้พญาครุฑหนุ่มรับรู้ได้ ว่าอัปสรน้อยยังไม่นอน

“ เหตุใดยังมินอนอีก ฮื้ม? รีบเข้านอนเถิดหนา พรุ่งนี้พี่จักให้หมอหลวงมาตรวจดูอาการของน้อง.. ”

น้ำเสียงห่วงใยมาพร้อมสรรพนามใหม่ที่เอ่ยเรียก ทำให้นรีทิพย์ชะงักไปครู่หนึ่ง พลันคิดขึ้นว่านางคงหูฝาดไปแน่ ๆ ก่อนจะหันกลับมาแล้วตอบพญาครุฑหนุ่ม

“ ข้ามิได้ป่วยสักหน่อย ใยต้องตามหมอหลวง ท่านมิต้องตามหมอหลวงมาตรวจข้าดอกเจ้าค่ะ ”

“ น้อง..”

ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องสบตาอัปสรน้อยนิ่งพร้อมกับเอ่ยคำนั้นขึ้น

“ (O_O?) นะ..น้อง หรือเจ้าคะ? ”

เมื่อได้ยินคำนั้นอีกครั้ง นรีทิพย์อัปสรก็ชะงักไปอีกหน ก่อนจะเอ่ยทวนคำนั้น เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงง ใช่แล้ว! นางไม่ได้หูฝาด!

.

.

?