2 ยาคืนวสันต์
หลี่หยวนหยวนหย่อนกายลงในอ่างอาบน้ำ ไป๋เยว่มองดูรอยตามเนินอกของนางแล้วหน้าสลด “หวางเฟย เมื่อคืนท่านอ๋องอ่อนโยนกับท่านหรือไม่เจ้าคะ”
หวางเฟยคนงามมองดูท่อนแขนที่มีรอยช้ำทั้งสองข้าง นางถูกเขากระชากขึ้นบนเตียงและจับพลิกคว่ำพลิกหงายตามใจอยู่ทั้งคืน ส่วนรอยที่เนินหน้าอกและต้นขา หญิงสาวก้มลงมองแล้วหน้าร้อนผ่าว เขาทำเพื่อระบายความกรุ่นโกรธผสมอารมณ์พิศวาสที่พลุ่งพล่าน
“เธอ เอ๊ย! เจ้าอย่าคิดมาก เขาทำให้ข้าช้ำ มีรอยพวกนี้ได้ ข้าก็กัดเขาไปหลายทีเหมือนกัน ไม่เสียเปรียบเลยสักนิด” หลี่หยวนหยวนนึกถึงตอนที่ท่านอ๋องทำหน้าเหวอตอนที่นางกัดหัวไหล่เขา
‘เรื่องอะไรฉันจะยอมเจ็บตัวอยู่คนเดียว ป่านนี้ตานั่นคงมีรอยฟันของฉันอยู่ตามตัวไม่น้อยหรอก’
แม้การตอบโต้อ๋องบ้าผู้นั้นจะทำให้เขารุนแรงกับเธอมากกว่าเดิม แต่เธอก็ไม่ได้ยอมให้อีกฝ่ายรังแกได้ง่ายนัก สถานการณ์บนเตียงเมื่อคืนไม่ต่างจากสงครามครั้งใหญ่ ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับความบอบช้ำ เพียงแต่เธอเรี่ยวแรงน้อยจึงเป็นฝ่ายที่ถูกเขาทำให้ต้องร้องขอชีวิต
‘คนชั่วช้า! น่าเสียดายที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกัน’
หลี่หยวนหยวนไม่อยากจะยอมรับว่าบางขณะนางก็เคลิบเคลิ้ม แต่โดยรวมแล้ว ป่าเถื่อนไปสักหน่อย
“กัดหรือเจ้าคะ” ไป๋ซวงร้องครางออกมา
ไป๋ซวงกับไป๋เยว่พากันตกตะลึง หนิงเฉิงอ๋องเป็นบุรุษที่ไม่ควรจะล่วงเกินเลยสักนิด ก่อนหน้านี้หลี่หยวนหยวนตอนยังเป็นคุณหนูรองจวนป๋อเคยถูกท่านอ๋องตวาดและชักกระบี่พาดคอข่มขู่ยังแข้งขาอ่อนทรุดตัวลงปิดหน้าร้องไห้อยู่เลย เหตุไฉนยามนี้ถึงกับกล้าทำหน้าภูมิใจที่ได้กัดท่านอ๋อง
“หวางเฟย ท่านจำไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะว่าท่านอ๋องมีสมญานามว่าปีศาจหน้าหยก” ไป๋เยว่รีบสำทับ
หลี่หยวนหยวนนิ่งไปครู่ ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมในส่วนนี้ก็ผุดขึ้นมาอีกคราหนึ่ง หนิงเฉิงอ๋องได้สืบต่อบรรดาศักดิ์เนื่องจากบิดาของเขาสละชีพในศึกใหญ่ชายแดนเพื่อพิทักษ์แผ่นดินต้าหลง เขาได้รับสิทธิ์ในการปกครองเมืองเฉินม่ายที่อยู่ค่อนไปทางชายแดนตอนใต้ของแคว้น
ระหว่างที่หยางหลีเหว่ยออกศึกกับชนเผ่าหมาป่าที่ชายแดนเมืองจู๋หลิงซึ่งอยู่ถัดไปจากเมืองเฉินม่าย ไท่เฟยผู้เป็นมารดาถูกนำตัวมาอยู่จวนในเมืองหลวง พอชายหนุ่มได้รับชัยชนะกลับมาก็ได้รับข่าวร้ายว่ามารดาเป็นโรคร้ายที่ยากจะเยียวยา
ฮ่องเต้ทรงมอบหมายให้หัวหน้าหมอหลวงมาช่วยตรวจรักษา สุดท้ายพบว่ายาที่สามารถรักษาได้นั่นเป็นสูตรยาลับประจำตระกูลหลี่
“ที่ข้าได้แต่งงานก็เพราะท่านอ๋องต้องการยา คนเขาจะไม่ชอบใจข้าก็ย่อมเป็นเรื่องปกติ”
“หวางเฟย ท่านลืมอีกเรื่องไปอีกแล้วเจ้าค่ะ”
“เรื่องใดอีก”
“ท่านอ๋องมีไมตรีกับคุณหนูเซียวจวนเฉิงซิ่นโหวมาก่อน เป็นท่านที่ไปชิงวาสนารักผู้อื่นมาเจ้าค่ะ” ไป๋ซวงแย้งอ่อยๆ คุณหนูใหญ่ของนางไม่เพียงแต่ความรู้ตื้นเขิน ทุกอย่างที่คิดล้วนทำไปตามใจ
คราวนี้หลี่หยวนหยวนอึ้งไปจริงๆ หญิงสาวยกนิ้วขึ้นกดขมับ ความทรงจำที่เข้ามาก็คือข่าวลือระหว่างหนิงเฉิงอ๋องกับเซียวหว่านเป็นที่รู้กันทั่วเมืองหลวง ทั้งสองฝ่ายกำลังสานไมตรีกัน เป็นหลี่หยวนหยวนผู้นี้ที่เข้าไปแทรกตรงกลาง อ๋องหนุ่มรูปงามกำลังจะตกลงหมั้นหมายกับเซียวหว่านแต่เพราะท่านป๋อหลี่บิดาของหลี่หยวนหยวนที่ยื่นข้อเสนอเด็ดขาด...ท่านอ๋องจำต้องตกปากรับคำแต่งกับนาง
“ปวดศีรษะหรือเจ้าคะ” ไป๋เยว่รีบใช้สองมือช่วยนวดขมับ
“ใช่ คราวนี้ข้าปวดหัวจริงๆ แล้ว เรื่องมันยุ่งเหยิงถึงเพียงนี้ มิน่าเล่า...” หลี่หยวนหยวนนึกถึงคำพูดบนเตียงเมื่อคืนของเขา เจ้าบ่าวที่ถูกบังคับให้แยกจากคนรักมาแต่งงานกับนางด้วยความจำใจ ไม่แปลกที่จะแสดงท่าทีชิงชังถึงเพียงนั้น
หลี่หยวนหยวนเริ่มทบทวนหาเหตุที่ตนต้องเข้ามาอยู่ในร่างของสตรีผู้นี้ ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างเดิมจะสิ้นใจตายไปก่อนการมาถึงของนางเพียงครู่เดียว ซ้ำยังเป็นการตายแบบฉับพลัน
ความเจ็บที่คอเตือนให้รู้ว่าร่างนี้ถูกปักเข็มเข้าที่คออย่างรวดเร็ว ยาพิษนั่นแล่นเข้าสู่หัวใจเพียงอึดใจเดียว เจ้าของร่างเดิมก็สิ้นชีวิต
...คงมิใช่ว่าหนิงเฉิงอ๋องวางยาฆ่าหลี่หยวนหยวนตัวจริงให้ตายในคืนแต่งงานหรอกนะ...
หญิงสาวตัวชาวาบ! นางช่างเคราะห์ร้ายนัก หนิงเฉิงอ๋องมีอำนาจและกองทัพในมือ กระทั่งฮ่องเต้ยังต้องดูสีหน้าเขาก่อนตัดสินพระทัย หลี่หยวนหยวนผู้นี้ขวัญกล้าเทียมฟ้าจริงๆ กล้าบังคับให้บุรุษเช่นนี้แต่งนางเป็นพระชายา สถานการณ์ไม่ต่างจากกดศีรษะพยัคฆ์เอาไว้ แต่...จะกดข่มไว้ได้นานเพียงใดก็ยากจะรู้ ถึงวันนั้นคงถูกพยัคฆ์ฉีกทึ้งร่างจนไม่มีชิ้นดี
“เสี่ยวซวง เจ้าไปดูที่ใต้โต๊ะกลมทีว่ามีเลือดอยู่กองหนึ่งหรือไม่”
“เจ้าค่ะ” ไป๋ซวงขมวดคิ้ว นางรีบเดินไปดูตามที่หวางเฟยสั่ง แต่พอไปถึงก้มลงมองใต้โต๊ะก็เห็นเลือดอยู่วงหนึ่ง นางตกตะลึงรีบกลับมารายงาน “มีจริงเจ้าค่ะ เป็นสีแดงปนดำ นี่มิใช่ว่า...”
“เป็นเลือดที่ข้ากระอักออกมาเมื่อคืนเพราะโดนพิษ เจ้าเอาผ้าเช็ดหน้าที่ขาวไปซับเลือดนั้นแล้วเก็บไว้เป็นหลักฐาน”
สาวใช้ทั้งสองตกใจ พวกนางอยู่ในจวนสกุลหลี่มาตั้งแต่เด็กจึงได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับยาสมุนไพรและยาพิษมาบ้าง เมื่อคืนอาหารทุกอย่างที่ถูกนำมาวางในห้องหอล้วนถูกตรวจสอบเพื่อป้องกันการวางยาพิษ แล้วหลี่หยวนหยวนถูกพิษได้อย่างไร
ไป๋ซวงเก็บหลักฐานใส่กล่องเรียบร้อยก็กลับมายืนข้างอ่างอาบน้ำ สีหน้าสงสัยของสาวใช้ทั้งสองทำให้หลี่หยวนหยวนรีบเฉลย
“เมื่อคืนมีคนลอบเข้ามาในห้องหอแล้วปักเข็มพิษเข้าที่ลำคอของข้า พิษพุ่งเข้าสู่หัวใจ ข้าจึงหมดสติไปครู่หนึ่ง หลังจากกระอักเลือดออกมาจึงได้ฟื้นในตอนที่ท่านอ๋องเข้าห้องหอ” หลี่หยวนหยวนนึกชมตนเองที่คิดคำโกหกได้อย่างคล่องแคล่ว “ข้าต้องหาตัวคนร้ายให้เจอ”
“รายงานท่านป๋อดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่ได้! เรื่องนี้ห้ามบอกท่านพ่อเด็ดขาด ให้ข้าสืบเองเสียก่อน”
สีหน้าและท่าทางที่เปลี่ยนไปของหลี่หยวนหยวนทำเอาสองสาวใช้ตะลึงไปอีกหน เดิมทีคุณหนูรองหลี่ผู้นี้สติปัญญาน้อย ไร้มารยาท เอาแต่ใจตนเอง มีข้อดีอยู่เพียงเป็นคนตรงไปตรงมา และเมตตาคนรับใช้ข้างกาย ไม่ว่าเกิดเรื่องใดมักโวยวายจนทำให้เสียเรื่อง แต่ครั้งนี้ถูกวางยาพิษกลับห้ามมิให้พวกนางเก็บปากเก็บคำและจะสืบด้วยตนเอง
...หวางเฟย ท่านมีความสามารถเยี่ยงนี้เมื่อใดกัน คิดจะสืบคดีก็ต้องเริ่มจากเก็บสีหน้าอาการให้ได้ก่อนเถิดเจ้าค่ะ...
“พอเถิดเจ้าคะ น้ำเย็นแล้ว” ไป๋เยว่เอ่ยเตือนและประคองนายหญิงของตนให้ลุกจากอ่างน้ำ
คราวนี้หลี่หยวนหยวนดูทึ่มทื่อไปแล้วจริงๆ นางปล่อยให้สาวใช้คนสนิททั้งสองช่วยแต่งกาย ระหว่างนั้นก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
“เมื่อคืนในสุรามงคลนั่น....”
“หวางเฟยนึกออกแล้วหรือเจ้าคะ ซุนมามาทำตามที่ท่านสั่งเจ้าค่ะ สูตรยาที่คุณหนูใหญ่เคยใช้ได้ผลดีมิใช่หรือเจ้าคะ” ไป๋เยว่เอ่ยยิ้มๆ
“สูตรยา...” หลี่หยวนหยวนทวนคำ พลันในหัวก็ผุดความทรงจำขึ้นมา ในตระกูลหลี่มีสูตรยาคืนวสันต์ที่ช่วยให้มีบุตรได้ง่ายขึ้นโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ยาตำรับพิเศษนี้มีใช้เพียงในสกุลและนำถวายฮ่องเต้
ใช่แล้ว! เมื่อคืนท่านอ๋องปากก็ด่าทอ ทว่ามือไม้และริมฝีปากกลับไม่ผละออกจากร่างของนาง เขารู้ว่าในสุรามงคลใส่ยาปลุกกำหนัดนี้ลงไป ที่เขาร่วมรักกับนางก็เป็นเพราะยา ในใจย่อมมีแต่ความคับแค้น
‘หลี่หยวนหยวนนะหลี่หยวนหยวน เธอมันช่างไร้ยางอายจริงอย่างที่เขาด่า มิน่า...เมื่อคืนถึงจะทำแบบนั้นเขาถึงได้เอามือปิดหน้าเธอไว้ เฮ้อ!’
หญิงสาวทอดถอนใจ คืนแต่งงานที่ฝันถึงนับครั้งไม่ถ้วนว่าจะเป็นความทรงจำที่สวยงาม กลับเป็นค่ำคืนที่ผู้หนึ่งมึนงงและอีกผู้หนึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชัง จุดเริ่มต้นเช่นนี้ก็คือจุดจบมิใช่หรือ
...ช่างเถอะ ในเมื่อสายน้ำไร้ไมตรี เหตุใดดอกไม้ต้องมีน้ำใจ...
แต่...ต่อให้หลี่หยวนหยวนเลวร้ายถึงขั้นบังคับเขาแต่งงาน หนิงเฉิงอ๋องก็ไม่มีสิทธิ์จะฆ่านาง หญิงสาวตัดสินใจที่จะสืบหาความจริงเพื่อเปิดโปงความเลวร้ายของชายโฉดให้จงได้
**************
