ฝ่าบาท ท่านช่วยไปไกลๆข้าที

56.0K · จบแล้ว
หมอนบนโซฟา
43
บท
16.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ยามข้ารักท่าน ท่านมิห่วงหา ยามข้าหมดใจ ไร้ซึ่งยินดียินร้าย เหตุใดท่านต้องแสร้งนึกถึงความหลัง เหนี่ยวรั้งข้าไว้ข้างกายเช่นนี้” เรื่องย่อ : เพราะเขาทนมองนางตายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างเลือดเย็น เช่นนี้นางยังผูกใจรักเขาได้อยู่อีกหรือ บุรุษเช่นนี้หรือที่นางใฝ่หา เสิ่นหนิงจิน ฮองเฮาแห่งต้าหยาง เคยพยายามทุกวิถีทางให้นางได้อยู่ในสายตาชายที่รัก แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรความสัมพันธ์อันเก่าก่อนของนางและเขาก็มิอาจหวนกลับ ‘จินเอ๋อร์ของอวี่เกอ’ ยากจะหวนกลับ คงหลงเหลือเพียง ‘ฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งต้าหยาง’เท่านั้น เจิ้งเฟยอวี่ x เสิ่นหนิงจิน “หากเป็นเมื่อก่อนเจ้าคงไม่มองข้าด้วยสายตาเช่นนี้” “มิต้องกังวลไปเพคะ หม่อมฉันอยู่มองพระองค์ด้วยสายตาเช่นนี้อีกไม่นานนักหรอก” “หมายความว่าอย่างไร...” “หม่อมฉันมิอยากเป็นฮองเฮาแล้วเพคะ” “...” “หากฝ่าบาทจะกรุณา ช่วยมอบอิสระให้หม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ”

นิยายจีนโบราณนิยายย้อนยุคฮองเฮาฮ่องเต้พลิกชีวิตวังหลังยกโทษ/โอกาสอีกครั้งจีนโบราณรักหวานๆกลอุบายในวัง

1. ไร้เงา (1)

‘เมื่อใดกันที่ในใจท่าน ไร้ซึ่งเงาของข้า หรืออันที่จริง...มันมิเคยมีข้าอยู่ในนั้นตั้งแต่แรก’

.

.

.

สตรีสูงศักดิ์ในชุดปักดิ้นทอง กำลังใช้สองแขนตะเกียกตะกายอยู่ในผืนน้ำเย็นเฉียบ พยุงตัวให้ใบหน้าโผล่พ้นเพื่อกอบโกยเอาลมหายใจเข้าไปเต็มปอด ทว่าร่างกายกลับเหมือนจะถูกฉุดดึงลงสู่ก้นสระ

“อึก ช่วย-” ฮองเฮาของแผ่นดิน ผลุบโผล่อยู่กลางสระน้ำที่หนาวเหน็บ ตากลมมองไปรอบข้าง มีผู้คนลอยคออยู่ในสระเกือบสิบชีวิต เพราะเหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น

ช่วงสายของวันเหล่าสตรีของฮ่องเต้เจิ้งเฟยอวี่ ผู้ปกครองแคว้นต้าหยาง พากันมานั่งเรือชมทิวทัศน์กลางสระหลวง บ้างก็มาเก็บดอกบัวที่กำลังเบ่งบาน แต่กลับเกิดเหตุเรือชนกัน จนทำให้เรือของฮองเฮาเสิ่นหนิงจินและสนมขั้นกุ้ยเฟย ซ่งรั่วซีล่มลงกลางสระ

ขันทีกำนัลต่างหวีดร้องขอความช่วยเหลือ แน่นอนว่าผู้ที่พวกเขาหวังให้รอดชีวิตคงไม่พ้นสตรีทั้งสองนางขององค์กษัตริย์

“ฝะ ฝ่าบาท-” ภายใต้ความยากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่ หนิงจินก็มีความหวังขึ้นมา เมื่อเห็นว่าสวามีของตนและเหล่าองครักษ์กำลังโดดลงกลางสระ

เสิ่นหนิงจินถีบยันมวลน้ำพยุงร่างกาย ในใจนึกเพียงว่าหากไม่หยุดยั้งความพยายาม อีกเพียงเสี้ยวลมหายใจผู้เป็นสวามีก็จะเข้ามาช่วย

ทว่ารอยยิ้มและแววตาแห่งความหวังก็เหือดหายไป ยามเห็นชายคนรักโอบอุ้มเอาสตรีอีกนางที่กำลังจะจมน้ำขึ้นแนบอก

ดวงใจราวกับถูกเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มแทง เรี่ยวแรงพลันหมดไปในพริบตา ทุกส่วนของร่างกายหยุดการเคลื่อนไหวจมลงสู่ก้นสระ

เปลือกตากะพริบมองไปทางใดก็มีแต่ความมืดมิด มวลน้ำมากมายไหลเข้ามา จนแสบร้อนไปทั่วโพรงจมูก แต่นั่นกลับไม่เจ็บเท่ากับรับรู้ว่า เขาทนเห็นนางตายไปต่อหน้าต่อตาได้จริงๆ

‘หากเจ้าจะเป็นเช่นนี้ ต่อให้ตายอยู่ตรงหน้า ข้าก็จะไม่สนใจเจ้าอีก’

ฝ่าบาท พระองค์ทำเช่นที่พูดได้จริงๆ

หนิงจินหนอหนิงจิน เจ้าช่างโง่งมนัก หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ วันนั้นนางจะไม่เผลอใจให้เขาเป็นอันขาด

“เฮือก!” ร่างผ่ายผอมเกร็งกระตุก สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝันที่แสนเจ็บปวด

“ฮองเฮา! ฮองเฮาฟื้นแล้ว ใครอยู่ด้านนอกไปตามหมอหลวงเร็วเข้า!”

“ฮองเฮาเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ็บปวดที่ใดหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“...” นัยน์ตาสีสวยเหลือบมองรอบข้างพบว่าเป็นห้องบรรทมในตำหนักของตนเอง สตรีที่คลานเข่าเข้ามานั่งข้างเตียงคือซูถิง แม่นมที่ดูแลเสิ่นหนิงจินมาตั้งแต่เกิด ส่วนอีกสองคนก็คงเป็นขันทีฟ่งหนาน กับองครักษ์อู่เต๋อคุน

“ฮองเฮาเพคะ อย่าได้เงียบเช่นนี้เลยเพคะ หม่อมฉันใจคอไม่ดี”

“ข้าหิวน้ำ”

“กระหม่อมไปเอาให้เองพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์หนุ่มหันหลังวิ่งออกจากห้องบรรทมของนายเหนือหัวอย่างรวดเร็ว ท่าทางดื้อซนเช่นนั้นทำให้หนิงจินขำออกมาเบาๆ ทั้งที่แววตายังคงเศร้าหมอง

“ข้ายังไม่ตายสินะ” เรื่องที่เกิดขึ้นมิใช่ความฝัน ความเจ็บปวดพวกนั้นล้วนจริง

“ตรัสสิ่งใดเพคะ มิเป็นมงคลเอาเสียเลย” มือเหี่ยวของนางกำนัลอาวุโสแตะลงบนแขนคนงามที่ยามนี้ซูบผอม ซูถิงรู้อยู่เต็มอกว่านายของตนเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากเท่าใด

เจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ

“...”

“น้ำมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนำชาอุ่นๆ มาให้ด้วย” องครักษ์อู่ถือถาดเข้ามาวางบนโต๊ะ ขันทีฟ่งจึงรับหน้าที่รินน้ำใส่ถ้วยหยกเนื้อดี

“ขอบใจเจ้านักเต๋อคุน เจ้าคงเป็นคนช่วยข้าไว้อีกแล้วใช่หรือไม่”

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมว่ายน้ำไม่คิดชีวิต แต่ก็ยังช้า ปล่อยให้ฮองเฮาจมน้ำหมดสติไปกว่าครึ่งเดือน” เต๋อคุนทำหน้าหมอง หากวันนั้นเขาว่ายน้ำเร็วกว่านี้ ฮองเฮาคงไม่ประชวร

“นี่ข้า หลับไปครึ่งเดือนเลยหรือ”

“เพคะ หมอหลวงเอ่ยว่าฮองเฮาได้รับไอเย็นจากน้ำ จึงมีอาการป่วยไข้ร่วมด้วย”

“ลำบากพวกเจ้าแล้ว ช่วยพยุงข้าที” ซูถิงยื่นมือไปช่วยพยุงร่างมารดาแผ่นดิน ให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนที่จะรับน้ำจากขันทีฟ่งมาป้อนให้หนิงจินถึงปาก

คนถูกปรนนิบัติอย่างดีส่งยิ้มบางๆ ให้ข้ารับใช้ นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบไปเห็นดอกหลีฮวาที่ตนเองชอบ (梨花 ดอกแพร์)

“ดอกไม้นี่ของผู้ใดหรือ” มืออ่อนแรงเอื้อมไปหยิบดอกหลีฮวาที่ถูกเด็ดและมัดรวมกันเป็นช่อเล็กๆ