
บทย่อ
คุณเคยถูกบลูลี่จากคนรอบข้างไหม ... เวลาที่คุณโดนคนอื่นรังแก และต่อว่าคุณคิดยังไง... คุณอ้วน... คุณไม่สวย... คุณเหมือนช้างน้ำ... คุณเหมือนอึ่งอ่าง... คุณสกปรก
ตอนที่1 โดนบลูลี่
Ep 01...ผู้พิทักษ์รักยัยอ้วน
สวัสดีค่ะเราชื่ออุบอิบค่ะ นางสาวเกศินี ไพร่สินนาค ค่ะ ตอนนี้อายุ18-19ปีแล้ว ค่ะ สูง166หนัก70ก.ก มีน้องชาย1คนชื่อ เอ็กซ์ น้องชายอายุ16ปี เกิดหลังเรา2ปี ตอนนี้เราอยู่ ป.ว.ส. 1แล้วค่ะ อุบอิบกำลังศึกษาอยู่ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงพอสมควร ตอนนี้อุบอิบยังไม่มีเพื่อนค่ะ เนื่องจากเป็นคนตัวอ้วน เพื่อนๆเลยไม่อยากคบ แต่อุบอิบก็พยายาม ที่จะปรัับตัวเข้าหาเพื่อนๆ ตลอดนะคะเผื่อว่าสักวันเพื่อนๆจะคบอุบอิบเป็นเพื่อนบาง...
“ อุบอิบลูก เสื้อนักศึกษามันตัวเล็กไปหรือเปล่าลูก” นั่นเสียงแม่ของเราเอง... แม่เป็นทุกๆอย่างในชีวิตของเราเลย ครอบครัวเราไม่มีพ่อ พ่อทิ้งเรากับแม่ไปตั้งแต่3ปีที่แล้ว ก็ยังดีที่ไปแต่ตัว เรา3คนเลยไม่ลำบาก
“ ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่... อุบอิบยังใส่ได้อยู่ อุบอิบไปเรียนก่อนนะคะคุณแม่”
“ จร้าลูก... มองซ้ายขาวด้วยนะ เก็บกระเป๋าดีๆทุกวันนี้มิจฉาชีพมันยิ่งเยอะอยู่ด้วย”
“ ค่ะคุณแม่...”
เรารีบเดินออกมาจากบ้าน พร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ที่มีหนังสือเรียนอยู่ในนั้น เราเป็นคนอ้วน เราก็ค่อนข้างที่จะเดินต้วมเตี้ยม สองมือจับสายกระเป๋า แล้วก็เดินไปด้วยฟังเพลงในโทรศัพท์ไปด้วย เราทำแบบนี้ทุกๆวันเพื่อที่จะมารอรถเมล์ ที่่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอย
เราเดิมมาถึงป้ายรถเมล์ เราก็ยืนรอด้วยความใจเย็น เราเจอเพื่อนที่อยู่คณะเดียวกันกับเรา เรายิ้มให้กับเขาอย่างเป็นมิตร... แต่เขากับมองเราด้วยสายตาเหยียดหยามเราพร้อมกับเบะปากใส่เรา เราก็เลยยืนอยู่นิ่งๆ
“ กิ๊ก... มึงอย่าไปใกล้มันนะเดียวมันจะตกมันใส่มึงนะ” เสียงของผู้หญิงอีกคนพูดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้สนใจ
“ อ้วนก็อ้วน ขึ้นรถเมล์ไป รถเมล์จะยางแตกไหมว่ะมึง แต่กูคงไม่ไปยืนใกล้มันหรอกนะ เพราะกูกลัวยางมันว่ะมึงเคยเห็น เคยเห็นอึ่งยาง5555... อีนี่มันเหมือนอึ่งยางเลยมึง” พวกเขาก็หัวเราะชอบใจ ส่วนเราถึงจะเจ็บปวด ก็ต้องทนทำหน้านิ่งๆไว้ เราคิดเสมอว่าไปเรียน ต้องตั้งใจเรียนจะไม่มีปัญหากับใครเด็กขาด... สักพักรถเมล์ก็มาถึงเราก็รีบขึ้นรถไปทันที
“ แปลกนะมึงรถเมล์เขาให้ช้างขึ้นมานั่งบนรถด้วยหรอว่ะ ” เราไม่สนใจ... แต่ในใจแทบอยากจะร้องไห้ออกมาเลย
“ ช้างน้ำใช่ไหมมึง555555”
“ คนอ้วนไม่มีสิทธิ์อะไรเลยหรอ ทำไมพวกเธอต้องดูถูกน้องเขาแบบนี้ด้วย สวยซะเปล่าแต่ไม่มีความเป็นผู้ดีเลย ที่บ้านพ่อแม่ไม่สอนเรื่องมารยาทหรอครับ”สองคนนั้นนิ่งเงียบเลย เราหันหน้าไปมองรุ่นพี่คนนั้น ที่กำลังต่อว่าสองคนนั้นอยู่... เราแทบตกใจ เพราะเขาคือพี่เซฟ พี่เซฟเป็นนักร้องชื่อดังของมหาลัยเราเลย
“ ขอบคุณพี่มากๆนะคะ” เราหันหน้าไปพูดกับพี่เขาพร้อมยกมือขึ้นไหว้ แต่พี่เขากลับลุกขึ้นแล้วก็เดินไปที่ประตูก่อนจะกดกริ่งให้คนขับรถหยุด โดยที่ไม่ได้มองเราเลย... เห้อออ คนอุตส่าห์จะขอบคุณซะหน่อย ... หน้านิ่งแต่หล่อแถมใจดีด้วย ถึงจะหยิ่งๆก็เถอะ... ทุกวันพี่เขาจะขับรถเบนซ์ส่วนตัวไปที่มหาลัยนะ... แต่วันนี้เราโชคดีมากที่ได้เจอพี่เซฟบนรถเมล์
มหาลัย...
เราเดินลงจากรถเมล์ กำลังเข้ามาที่รั่วมหาลัย ก็เหมือนมีคนมาผลักเราให้ล้มลงกับพื้น
“ โอ๊ยยยย”
“ สมน้ำหน้าอีอ้วนช้างน้ำเดินไม่ดูเอง 5555”
“ ตัวก็ใหญ่ เดินยังกินถนนอีกไปเรียนที่อื่นไป ฐานะก็ยากจนมาเรียนที่นีได้ไงว่ะ” เราร้องไห้ ผู้ชาย3คนและผู้หญิงอีก4-5คน ต่อว่าเราใหญ่เลย ฮึก... ฮือ... ฮือ..
“ เฮ้ย.... พวกมึงมาดูช้างร้องไห้เร็วๆ 5555”
“ นี้ๆขึ้นรถเมล์มาเมื่อกี้ยางรถเมล์ไม่แตก ก็บุญของรถเมย์คันนั้นแล้ว”
“ 55555” เสียงหัวเราะจากคนที่ยืนรอบๆตัวของเรา... พวกมันปาอะไรก็ไม่รู้ใช่เรา เราอายมาก เราผิดอะไร ทำไมทำกับเราแบบนี้ ฮือ.. ฮือ.. ฮือ..
TALK. เซฟ..
เซฟ ธีรยุท วิโรจน์ศิลาธาร อายุ22ปี กำลังศึกษาอยู่ปี3 สาขา วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ...และเป็นนักร้องดังประจำมหาลัย ตอนนี้ยังไม่มีชื่อวงค์... แต่อีกไม่นานก็คงจะมีแน่นอน
“ ไอ้เซฟพวกน้องๆมันรุมทำอะไรกันว่ะ” เสียงไอ้บอยเพื่อนของผมเอ่ยปากถาม ผมรีบวิ่งเข้้าไปดูทันที ผมตระโกนบอกให้น้องๆหยุด แล้วผมก็เห็นผู้หญิงคนเดิม ที่ผมเจอบนรถเมล์เธอกำลังโดนเพื่อนๆ รังแกพร้อมกับต่อว่าเธออยู่เธอร้องไห้อย่างน่าสงสารมาก
“ ตัวอะไรว่ะ 5555” ไอ้ทีพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง ผมมองหน้าเธอ เธอมองหน้้าผมเธอน่าสงสารมาก เพราะตอนนี้คนรอบข้างกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่
“ หยุดได้แล้ว... พี่ไม่รู้หรอกนะ ว่าน้องคนนี้เขาเป็นอะไร แต่ที่น้องๆทำมันไม่ถูกนะครับ” ผมเอ่ยปากพูดขึ้น
“ ไม่ถูกยังไงว่ะ ไอ้เซฟมึงก็ดูสิทั้งอ้วน ทั้งปัญญาอ่อน แต่งตัวแบบนี้มึงไปเรียนที่ศรีธัญญาดีกว่าไป”
“ ไปกันเถอะเซฟ มึงอย่ายุงเลย” ไม่บอยรีบดึงมือผมให้ออกมาจากตรงนั้น สายตาที่เธออ้อนวอนผม มันทำให้ผมรู้สึกผิดมาก ผมตั้งสติอยู่สักพักก่อนที่ผม จะเดินกลับไปหาเธอ ทุกๆคนต่างมองผมเป็นตาเดียวกัน ผมนั่งลงประคองเธอลุกขึ้น ใครจะว่ายังไงผมไม่สนเพราะตอนนี้ เธอคือคนที่ผมต้องช่วยเหลือ
“ ต่อไปนี้ถ้ากูรู้ว่าใครทำร้ายเธออีก กูไม่ไหวหน้าแน่ ไอ้พวกหน้าตัวเมีย ผู้หญิงมึงยังทำร้ายได้ลงคอ มึงเตรียมขึ้นห้องฝ่ายปกครองได้เลย” พวกมันเงียบกันหมด แม้กระทั่งเพื่อนผมที่ชื่อว่าที เพราะมันรู้ว่าถ้าผมโมโหขึ้นมาจริงๆ ไม่มีใครเอาผมอยู่แน่นอน
ผมประคองผู้หญิงคนนี้มานั่งอยู่โต๊ะม้าหินอ่อน เธอทั้งร้องไห้ ทั้งน่าสงสาร น้ำตาผมแทบไหลเลย เพราะผมไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เธออ้วนก็จริง เธอก็ไม่ได้ขี้เหร่ขนาดนั้น เธออาจจะดูนิสัยเหมือนเด็ก เธอก็ไม่ได้มีพิษมีภัยกับใคร ขนาดเขาด่าเธอบนรถเมล์ เธอก็ยังไม่สนใจเลย
