ผู้(ผัว)ปกครอง ตอนที่ 2
(Plaifah talk)
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในรถตู้VIPหรูสีดำคันหนึ่ง ซึ่งกำลังขับตามรถสปอร์ตคันหรูของคุณวิลด์ไป หลังจากที่ฉันตอบตกลงอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไปกับเขา ฉันก็ถูกลูกน้องเขาเชิญให้มาขึ้นรถตู้สีดำเงาหรูหราคันนี้ ทั้งคันมีฉันนั่งแค่คนเดียวค่ะ แล้วก็มีคนขับอีกหนึ่งคน ส่วนรถคุณวิลด์อยู่คันหน้า ซึ่งก็มีคนขับรถเช่นกัน เขาไม่ได้ขับเอง
พอนั่งรถมาได้ประมาณเกือบ 30 นาที รถก็ได้เลี้ยวเข้าบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งฉันคุ้นตามาก ที่คุ้นเพราะเห็นในหนังสือหรือนิตยสารพวกสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหลาย แต่ฉันก็ไม่เคยอ่านรายละเอียดหรอกค่ะว่ามันทำเกี่ยวกับอะไร
ครืดด~
ฉันแอบสะดุ้งให้กับประตูที่ค่อยๆ เปิดออกด้วยระบบไฟฟ้า มีชายชุดดำร่างบึกบึนยืนอยู่ที่ปากประตู ส่งสายตาบอกกับฉันว่าให้ลงมาจากรถ
เฮ้ออ~ พูดสักคำดอกพิกุลจะร่วงหรือไง
พอฉันลงมาแล้ว ชายคนนั้นก็ผายมือเชิญฉันให้ไปขึ้นรถอีกคัน ซึ่งเป็นคันเดียวกับที่คุณวิลด์นั่งมา ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ลงค่ะ
ฉันรีบเดินไปขึ้นรถคันดังกล่าว มีการ์ดชุดดำเปิดประตูรอให้ฉันขึ้นไป พอขึ้นมาแล้ว ความเย็นในรถก็ทำให้ฉันต้องบีบตัวเล็กน้อย แต่พอหันไปมองคนข้างๆ ขนฉันกลับลุกขึ้นมาเพราะความเยือกเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างกายกำยำของเขา คุณวิลด์ไม่ได้ชายตามองฉันสักนิด ดวงตาคมทอดมองออกไปนอกกระจกรถเหมือนกำลังตรวจเช็คอะไรบางอย่าง คล้ายคนที่ไม่ได้เห็นสถานที่นี้มานาน
แล้วรถก็เคลื่อนตัวอ้อมไปด้านหลังบริษัท คนขับรถขับพุ่งเข้ามาในห้องห้องหนึ่งซึ่งตอนแรกมันปิดอยู่ค่ะ หลังจากนั้นคนขับก็ลงจากรถไป แต่คุณวิลด์กลับนั่งนิ่ง ฉันเองก็ได้แต่พยายามทำตัวให้นิ่งเข้าไว้ ได้แต่มองตัวเองที่นั่งอยู่ในรถซึ่งรถก็จอดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ผนังรอบข้างเป็นสีเทา ไฟด้านบนเป็นสีส้ม สักพักฉันก็รู้สึกเหมือนว่ามันขยับ คล้ายเรากำลังขึ้นลิฟท์ตามสถานที่ทั่วไป
ติ๊ง!
จากนั้นผนังสีเทาด้านหน้าที่เคยปิดตายก็แยกตัวออกจากกัน เผยให้เห็นสิ่งอำนวยความสะดวกข้างในที่เรียกว่าบ้าน
นี่คือ เพ้นเฮาส์ของคุณวิลด์อย่างนั้นเหรอ?
แกร็ก!
ทันทีที่ร่างสูงเปิดประตู ฉันเองก็รีบเปิดตามแล้วลงจากรถ เดินตามเขาเข้าไปข้างในอย่างเงียบๆ เห็นฉันประหม่าแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยใกล้ผู้ชายนะคะ ปกติก็นั่งชงเหล้าให้ลูกค้าอยู่แล้ว และถึงฉันจะเอ็นเตอร์เทนลูกค้าผู้ชายเก่งก็ใช่ว่าฉันจะช่ำชองเรื่องอย่างว่า ให้พูดกันตามตรงฉันไม่เคยนอนกับผู้ชายเลยสักคนเดียวค่ะ และเรื่องนี้ฉันไม่ได้บอกกับพี่อิม เพราะกลัวเขาจะไม่ให้ฉันลงงาน และฉันคงจะไม่มีเงินก้อนไปใช้หนี้พนันที่พ่อไปสร้างไว้
"อย่าแตะข้าวของของฉันโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต! เข้าไปรอฉันที่ห้องนั้นแล้วเตรียมตัวให้พร้อม" เสียงเข้มทรงอำนาจสั่งขึ้นขณะถอดนาฬิกาโยนลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาตัวหรู และตอนนี้กำลังปลดกระดุมเสื้อและข้อมือ จากนั้นก็พับแขนเสื้อขึ้นไปสองสามทบ เสียงของเขาทำเอาฉันต้องสะดุ้งเบาๆ เพราะกำลังมองนู่นมองนี่เพลินๆ
ถึงเขาไม่สั่งฉันก็ไม่คิดจะแตะอยู่แล้วล่ะค่ะ ฉันไม่ใช่คนเสียมารยาทแบบนั้น
"ค่ะ" ฉันตอบรับคำสั่งของคุณวิลด์เสียงนุ่ม ก็นะ...ฉันเองก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ที่ไหนทำอะไร จะให้มาปากเก่งหรือชักสีหน้าตามความคิดเผลอๆ ได้ตายก่อนได้ใช้หนี้
ฉันเดินไปที่ห้องห้องหนึ่งตามที่สายตาคมดุมองไปตอนที่สั่งฉัน ก่อนจะเปิดบานประตูสีแดงเข้าไปข้างใน จึงพบว่ามันคือห้องนอนที่ไม่ได้มีไว้สำหรับนอน คนรวยอย่างเขาคงจะมีห้องนี้ไว้ทำกิจกรรมอย่างว่าโดยเฉพาะสินะ
แกร็ก!
"ทำไมยังไม่ถอดเสื้อผ้าอีก หรือต้องให้ฉันสอน?" เสียงเข้มดุนั้นดังขึ้นอีกครั้งหลังเสียงประตูถูกเปิดเข้ามา ฉันเองก็อดสะดุ้งหันไปมองเจ้าของเสียงไม่ได้ จึงเห็นว่าเขากำลังจ้องหน้าฉันด้วยแววตาเย็นชาทอประกายความดุดันเล็กน้อย
ฉันเพิ่งเข้ามาได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยนะ จะให้ฉันถอดเสร็จเร็วแค่ไหนกัน
"เอ่อ ขะ..ขอโทษค่ะ" สุดท้ายฉันก็ต้องยอมขอโทษเขา เพราะจำสิ่งที่พี่อิมกับพี่ซูซี่บอกได้ขึ้นใจเลย นั่นก็คือห้ามขัดใจคุณวิลด์เด็ดขาด!
ฉันเริ่มถอดเสื้อผ้าออกโดยการค่อยๆ ดึงสายเดรสลงมาทีละข้าง ยอมรับว่าประหม่าและนึกกลัวอยู่ตลอดเวลาค่ะ แต่นี่เป็นสิ่งที่ฉันเลือกเอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ฉันต้องทำคือข่มตาและทำใจให้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
"จึส์!" คุณวิลด์ออกอาการหงุดหงิดพลางกลอกตาใส่ฉันเหมือนรำคาญ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะก้าวเข้ามาหาฉันที่ยืนอยู่ปลายเตียงพร้อมกับถอดเสื้อโยนทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
"อ๊ะ!"
ตุบ!
ใจฉันสั่นระรัวจนรู้สึกเหมือนหัวใจจะวายเมื่อจู่ๆ มือหนาก็ผลักฉันลงบนที่นอนนุ่ม ซึ่งฉันก็ปลิวล้มลงมานอนหงายพร้อมกับทำหน้าตื่นตระหนกใส่คนที่คลานขึ้นมาคร่อมตัวฉันไว้
"ไม่รู้ว่าคุณอิมไปขุดผู้หญิงอย่างเธอมาจากไหน ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง! ถ้าฉันมีความอดทนมากพอคงจะไล่เธอกลับไปแล้ว!"
แควก!!
"อ๊ะ! นี่คุณ..." ฉันเผลอทำหน้าไม่พอใจใส่คนด้านบนเมื่อจู่ๆ เขาก็ฉีกชุดของฉันจนขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี
นี่ฉันจะตายก่อนได้เงินหรือเปล่าเนี่ย!
"จะถอดเองหรือจะให้ฉันฉีก?"
"ฉะ..ฉันถอดเองค่ะ" เสียงเข้มถามฉันพลางมองลงมาที่ชุดชั้นในลูกไม้สีดำที่ฉันใส่อยู่ เพราะกลัวว่าจะไม่เหลืออะไรใส่กลับบ้านฉันเลยต้องกุลีกุจอรีบถอดออกให้เขา
ถามว่าอายไหม? ฉันอายมากค่ะ แต่ถ้าปล่อยให้เขาฉีกจนขาด ฉันจะอายมากกว่านี้ถ้าต้องแก้ผ้ากลับบ้าน
หลังจากร่างกายฉันเปลือยเปล่าหมดแล้ว ความหนาวเหน็บก็เล่นงานฉันทันทีค่ะ คุณวิลด์เปิดแอร์ไว้เย็นมาก จากที่กลัวเขาจนตัวสั่นอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งสั่นเข้าไปอีก
ดวงตาคมนัยน์ตาสีเทาจ้องมองร่างกายของฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พลางปลดเข็มขัดออกแล้วถอดกางเกงเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไปใยดี และสิ่งที่ทำให้ฉันขนลุกซู่ยิ่งกว่าอากาศเย็นๆ และความอัมหิตที่สะท้อนออกมาจากแววตาของเขานั่นก็คือความเป็นชายที่แข็งผงาดชี้หน้าฉันอยู่
มะ..มัน...ใหญ่มากค่ะ!
"คะ..คุณวิลด์จะทำเลยเหรอคะ?" ฉันรีบถามออกไปเมื่อมือหนาจับขาของฉันแหวกออกจากกัน ฉันเกือบเผลอเอามือไปปิดของสงวนกลางกายเอาไว้ แต่ดีที่นึกขึ้นได้เลยกำมือแล้วเก็บลงวางไว้ที่หน้าท้อง
"เธอคิดว่านอกจากร่างกายเธอตอนนี้ เธอยังมีอะไรที่ฉันต้องสนใจเป็นพิเศษงั้นเหรอ?" ฉันกะพริบตาปริบๆ ให้กับคำถามนั้น คือ...ฉันไม่ได้หมายความว่าจะต้องให้เขามาเอาอกเอาใจอะไรหรอกค่ะ ที่พูดไปแบบนั้นเพราะฉันตื่นเต้นแล้วก็กลัว...เอ่อกลัว...เจ้าท่อนเอ็นลำยักษ์ของเขาเท่านั้นเอง
"มะ..ไม่มีค่ะ" ฉันส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเม้มปากลง
"ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นงานมากน้อยแค่ไหน ฉันสนแต่อารมณ์ตัวเอง และเธอก็ต้องรับมันให้ได้ ต่อให้จะขาดใจตายก็ห้ามหยุดถ้าฉันไม่สั่ง!" เสียงเข้มไร้ความปรานีเอ่ยออกมาพร้อมกับสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก
ขะ..เขารุนแรงขนาดนั้นเชียวเหรอ?
จากที่ฉันศึกษามาจากหนังเอวี ส่วนมากพวกผู้ชายมักจะลงแรงหนักจริงๆ แต่ฉันคิดว่าฉันน่าจะรับได้ แค่อดทนครั้งเดียวเอง ครั้งเดียวเท่านั้น!
"และฉันก็ไม่มีความคิดที่จะเล้าโลมให้ใคร เซ็กซ์สำหรับฉันคือการสนองความใคร่ให้ตัวเอง เสียบ กระแทก น้ำแตก คือจบ!"
