บท
ตั้งค่า

คำว่าพี่น้อง

"ไหนนายบอกว่าจะกลับอังกฤษไง..?"

อัยรินทร์เดินเข้ามาในห้องทำงานของอัชวินทร์โดยที่ไม่ได้เคาะประตูจนเขาตกใจ เพราะกำลังเดินสำรวจไปทั่วห้องด้วยความตะลึงในความใหญ่โตของห้องทำงานตัวเอง

"ทำไมนายถึงไม่กลับอังกฤษไป..?"

"เพราะผมลองมาคิดดูแล้วถ้าผมจะต้องทิ้งสมบัติหลายหมื่นล้านของพ่อไปง่ายๆก็คงโง่ตายเลย...พี่ว่าจริงไหม..?"

"..."

เธอมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจนัก แต่เขาก็ยิ้มออกมาอย่างดูเจ้าเล่ห์

"ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะอยู่ที่นี่และทำงานที่บริษัทคู่กับพี่ เราจะช่วยกันบริหารงานให้กับบริษัทของพ่อด้วยกัน..แต่ผมเพิ่งเข้ามาทำงานผมคงต้องรบกวนให้พี่ช่วยสอนงานผมหน่อยนะครับ.."

"..."

"มีอะไรหรือเปล่าครับทำไมพี่ดูนิ่งไป..?"

เธอมองหน้าเขาอย่างรู้สึกแปลกๆทั้งที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขายังพูดอยู่เลยว่าทำใจไม่ได้หากต้องอยู่ใกล้เธอ

"ถ้านายยังมองฉันเป็นแค่พี่สาวไม่ได้..ฉันว่าเราควรอยู่ให้ห่างกันจะดีกว่านะ.."

"...."

เขามองหน้าเธอนิ่งๆไม่ได้พูดอะไร

"แต่ถ้านายยังยืนยันว่าจะทำงานที่นี่ต่อก็ตามใจ ส่วนเรื่องงานในบริษัทฉันจะให้คุณกิตติช่วยมาอธิบายงานทั้งหมดให้นายฟังเองก็แล้วกัน.."

เธอพูดจบแล้วก็กำลังจะเดินออกไป

"ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะลืมเรื่องที่ผ่านมาให้หมด แล้วมองพี่เป็นแค่พี่สาวคนหนึ่งเท่านั้น หลังจากวันนี้เราจะเป็นแค่พี่น้องกันไม่มีความรู้สึกอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเด็ดขาดพี่โอเคไหม..?"

"..."

เธอหันมามองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะไม่คิดว่าเขาจะตัดใจจากเธอได้ง่ายดายขนาดนี้

"พี่จะยอมเป็นคนสอนงานให้ผมเองได้แล้วใช่ไหม..?"

"อืม..งั้นฉันจะเป็นคนสอนงานให้นายเอง.."

เขายิ้มออกมาด้วยความชอบใจที่ได้ยินคำตอบของเธอ

1 เดือนผ่านไป

และหลังจากวันนั้นเธอก็เป็นคนสอนงานให้กับเขาด้วยตัวเองตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา จนเขารู้สึกทึ่งในความเก่งและความใจเด็ดของเธอ มันต่างจากผู้หญิงขี้เมาที่นั่งร้องไห้ระบายเรื่องอกหักที่ถูกแฟนหักอกในวันนั้นอย่างสิ้นเชิง

"วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยมาต่อเรื่องเซ็นเบิกงบประมาณ.."

"ขอบคุณพี่มากนะครับ.."

"อืม.."

เธอลุกขึ้นกำลังจะเดินออกจากห้องก็เห็นทนายเจมส์เดินเข้ามาพอดี

"สวัดีครับคุณอัย.."

"สวัสดีค่ะทนายเจมส์...มีอะไรหรือเปล่าคะทำไมถึงมาถึงนี่เลย..?'

"ผมจะพาคุณโอมไปส่งที่คอนโดของคุณท่านนะครับ เพื่อส่งมอบห้องให้ตามพินัยกรรม."

"งั้นอัยขอตัวกลับก่อนนะคะ.."

"ครับ.."

ทนายเจมส์มองตามอัยรินทร์ออกไปด้วยสายตาหวานเยิ้มจนอัชวินทร์รู้สึกได้

"ทนายเจมส์.."

"ครับ..?"

"มองพี่สาวผมตาหวานเยิ้มขนาดนี้ ไม่ต้องเดาเลยนะครับว่าคุณคิดยังไงกับพี่สาวผม.."

"เอ่อ..!"

"คุณชอบพี่สาวผมใช่ไหม..?"

"ชอบครับ...ผมชอบคุณอัยมาตั้งนานแล้วครับ"

"แล้วคุณเคยบอกพี่สาวผมหรือยังครับ..?'

"ผมไม่กล้าหรอกครับ"

"ทำไมละครับ..?"

"คุณอัยเป็นลูกสาวของคุณท่านผมไม่กล้าอาจเอื้อมหรอกครับ.."

"แต่ถ้าผมเป็นคุณผมจะบอกความรู้สึกของผมให้เธอได้รับรู้..เพราะผมไม่สนว่าใครจะคิดยังไงผมสนแค่ว่าผมรู้สึกยังไงกับเธอมากกว่า.."

"ขอบคุณมากนะครับที่ให้กำลังใจผม ผมจะลองใช้ความกล้าสารภาพความในใจให้พี่สาวคุณได้รู้...แต่ถ้าผมอกหักกลับมาวานคุณโอมช่วยปลอบใจผมอีกรอบนะครับ..”

อัชวินทร์ยิ้มในคำพูดของเขา แต่ภายในใจกลับรู้สึกกังวลมากที่ได้รู้ว่าทนายเจมส์ชอบอัยรินทร์อยู่จริงๆ

คอนโดหรูใจกลางเมือง

“นี่ห้องของคุณครับ..ผมให้คนเข้ามาตกแต่งห้องให้ใหม่พร้อมทั้งทำความสะอาดห้อง แล้วก็จัดการเก็บข้าวของเครื่องใช้ของคุณไว้ให้เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้วนะครับ..”

เขาอึ้งกับสภาพภายในห้องมากๆเพราะมันใหญ่กว่าห้องในอพาทเมนต์ที่เขาอาศัยอยู่กับแม่ที่อังกฤษเป็น 100 เท่า

“นี่มันใหญ่เท่ากับบ้าน 1 หลังได้เลยนะครับเนี้ย ผมไม่เคยเห็นห้องที่กว้างใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย..”

“คุณท่านตั้งใจซื้อที่นี่เอาไว้เพื่อรอคุณครับ..”

“พ่อตั้งใจซื้อที่นี่ไว้ให้ผมหรอครับ..?”

“คุณท่านรู้ว่าตัวเองล้มป่วยลงก็เริ่มให้คนออกตามหาตัวคุณกับแม่ของคุณ แล้วก็ซื้อที่นี่เอาไว้เพื่อรอคุณกับแม่ของคุณกลับมา คุณท่านยังคงคิดถึงพวกคุณเสมอนะครับ..”

“...”

“ผมไม่ทราบเรื่องระหว่างคุณท่านกับคุณแม่ของคุณมากนัก เพระมันเป็นเรื่องตั้งแต่สมัยผมยังเด็กๆ แต่พ่อเล่าให้ผมฟังว่าคุณท่านรักคุณแม่ของคุณมาก ตลอด 27 ปีที่ผ่านมาคุณท่านจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้ไม่เครียดและก็ไม่อยากคิดมากเรื่องของพวกคุณอีก..”

อัชวินทร์ได้ฟังเรื่องของพ่อแล้วก็รู้สึกดีใจที่พ่อของเขายังรักแม่แล้วก็ตัวเขามากขนาดนี้

“ผมดีใจนะครับที่คุณมาช่วยคุณอัยบริหารงานในบริษัทวัฒนะกรุ๊ป เพราะถ้าปล่อยให้คุณอัยบริหารคนเดียวเธอคงแย่แน่ๆ..”

“ทำไมละครับ..ที่จริงพี่อัยก็น่าจะบริหารงานเองคนเดียวได้ดูเธอออกจะคล่องแคล่ว..”

“คุณอัยเก่งครับผมยอมรับ แต่ถ้าเก่งอยู่คนเดียวแล้วไม่มีพวกเลยผมว่าไม่น่ารอด..”

“ทนายเจมส์พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ..?”

อัชวินทร์ถามทนายเจมส์ขึ้นมาด้วยความในความสงสัยในสิ่งที่เขาพูด เพราะไม่เข้าใจที่เขาต้องการจะสื่อ

...

คฤหาสน์ตระกูล วัฒนะเลิศ

“วันนี้อารู้มาว่าน้องชายของอัยเข้าไปที่บริษัทวันแรกหรอ..?”

อรอนงค์น้องสาวของอัชชาพ่อของอัยรินทร์ ที่ไม่ใช่อาแท้ๆของเธอเพราะอรอนงค์ถูกขอมาเลี้ยงจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็กๆ แต่เธอก็มีศักดิ์เป็นอาของอัยรินทร์เธอจึงเคารพอรอนงค์หมือนคนในครอบครัว

“ค่ะ..”

“แล้วทำงานเป็นหรอ..ได้ข่าวว่าตอนอยู่เมืองนอกเป็นแค่บาร์เทนเดอร์ธรรมดานี่..แล้วขึ้นมานั่งบริหารงานแบบนี้บริษัทเราจะไม่แย่เอาหรอ..”

“อัยกำลังสอนงานน้องอยู่นะคะ..”

“ของแบบนี้มันต้องใช้ประสบการณ์แล้วก็ความสามารถที่สะสมมานะ ไม่ใช่อยู่ๆนึกอยากจะขึ้นไปเป็นได้ง่ายๆแบบนั้น อาก็รู้นะว่าทำตามพินัยกรรมของพี่อัชแต่นั่นตำแหน่งผู้บริหารนะไม่ใช่ตำแหน่งชงเหล้างานง่ายๆกระจอกๆที่เคยทำ..”

“อัยจะคอยดูน้องตลอดเวลา ไม่ให้งานออกมาเสียหายแน่นอนค่ะ อานงค์ไม่ต้องห่วงนะคะ..”

“ถ้าไม่ไหวก็โยนมาให้อาบริหารแทนก่อนก็ได้นะ...แล้วเรียนรู้งานเสร็จเริ่มเข้าที่ค่อยมานั่งบริหารต่อ..”

“...”

อัยรินทร์มองหน้าอรอนงค์นิ่งๆ แล้วก็ตัดสินใจพูดออกไป

“ไม่เป็นไรค่ะอานงค์ อัยจัดการทุกอย่างได้ค่ะ..ตำแหน่งบริหารงานคุณพ่อยกให้อัยกับโอมแล้ว พวกเรา 2 คนจะตั้งใจทำมันให้เต็มที่ค่ะ..อัยขอตัวนะคะ..”

เธอพูดจบก็เดินออกไปทันทีปล่อยให้อานงค์ยืนกำมือแน่นด้วยสีหน้าโกรธจัด

“เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อย่ามาขอร้องให้ฉันช่วยก็แล้วกัน..”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel