บทที่ 21
อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์..สามีของเธอเอาแต่จดจ่อกับหน้าจอเทรด..ส่วนเธอกำลังปวดหัวกับภารกิจ..ทำอาหาร และของว่าง เพื่อร่วมงานประจำปีของสถานสงเคราะห์บ้านเด็กพิเศษนาหม่อมห้าม..ซึ่งจะจัดก่อนวันปีใหม่ของทุกปี
โดยคนในหมู่บ้าน รวมถึงหมู่บ้านรอบๆ จะรวมเงินกันจ้างศิลปิน..จ้างชิงช้าสวรรค์..บ้านบอล..ยิงเป้า ปาโป่ง..บางทีก็มีสาวน้อยตกน้ำ..เพื่อให้เด็กๆในสถานสงเคราะห์..และผู้เข้าร่วมงานมีกิจกรรมสนุกสนานได้ทำกัน
รวมทั้งยังรวมเงินซื้อของขวัญจับสลากปีใหม่..มาแจกเด็กๆ ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์อีกด้วย
นอกจากนั้น..ในงานเองยังมีผู้ใจบุญ..มาจัดบูธของกิน..อาทิ..ก๋วยเตี๋ยว..ขนมจีน ข้าวต้ม โจ๊ก ข้าวราดแกง หรือพวกของปิ้งย่าง..ลูกชิ้น..ไส้กรอก..ของทะเล หรือพวกขนมปังก้อน..วุ้น..สายไหม..ไอติมหลอด..ไอติมตัก..ของกินหลากหลายอย่าง..แล้วแต่จิตศรัทธา
โดยตั๋วค่าเข้า..ขึ้นกับผู้ซื้อว่ามีความประสงค์จะบริจาคเท่าไร..แลกกับคูปอง..เพื่อนำมาใช้ในงาน
ปีนี้..อันธิยานึกไม่ออก..ว่าจะหาอะไรมาจัดบูธดี..ใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มยุ่ง..ยัยตัวแสบเริ่มเข้าไปออดอ้อนสามี..เพื่อเขาจะมีไอเดียดีๆให้
"พี่มิล..ว่าปีนี้เราทำอะไรไปร่วมงานดี"
"ไม่รู้ดิ..แล้วแต่แบนเลย"น้ำเสียงติดจะเฉยเมย..เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเสียเงินกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ด้วย
"งั้น..เปลี่ยนคำถามใหม่...พี่มิลอยากกินอะไรเป็นพิเศษคะ"น้ำเสียงใส..ชวนคุย..คุยไปด้วยนวดไปด้วย..เผื่อเขาผ่อนคลาย..อารมณ์ดี..แล้วให้คำแนะนำดีๆกลับมา
ซึ่งได้ผลใบหน้าหล่อเหลาเริ่มเคลิ้ม..ยัยตัวเล็ก..ยังคงนวดเก่งไม่เปลี่ยน
"ตรงขมับด้วยแบน"
"จ้า"
"ถ้าถามพี่..ของที่ออกงาน..เราต้องไม่เหนื่อย..และสามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้"
"ยังไงคะ"
"พี่หมายถึง..ใครอยากหยิบ..หยิบได้เลยไง..ไม่ต้องมาเสียเวลามาปิ้งๆย่างๆ หรือเสียเวลาต้องมาตักให้เปลืองขั้นตอน..ไหนๆผลลัพธ์ คือความสุขของคนมาในงานไม่ต่างกัน และต้องเสียเงินเท่ากัน..ควรเลือกวิธีที่เหนื่อยน้อยที่สุด"
อันธิยานึกภาพตาม..ก็จริงปีที่แล้ว..ตอนเธอจัดบูธข้าวเหนียว..หมูย่าง..ขายดีมาก..แต่ก็เหนื่อยมากเช่นกัน
"งั้น..เย็นนี้เราไปเดินตลาดนัดกันมั้ยคะ..เพื่อเจอไอเดียดีๆ"
คนตัวโตรับคำ...เจ้าหมาน้อยของเขาอยากทำอะไร..เจ้าของแบบเขาย่อมตามใจเป็นธรรมดา
สำหรับเขา..กฎการอยู่ร่วมกับยัยตัวแสบไม่ยากเลย
1. เธอชอบให้เขาตามใจ
2. เธอชอบให้เขาตามใจมากๆ
3. วนกลับไปอ่านข้อ1 กับข้อ2 ใหม่อีกรอบ
แค่ตามใจเธอให้อารมณ์ดี..ทั้งวันก็มีของกินอร่อยๆ..แถมหมอนวดดีๆ ช่างอ้อนหนึ่งคน
ยัยตัวเล็กเปลี่ยนจากนวด..มากอดคอเขาจากข้างหลัง..กลิ่นสบู่อ่อนๆ กลิ่นเดียวกับเขา..สร้างระลอกคลื่นในใจ
ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้..ที่เขาชอบให้เธออ้อน
ตอนที่สาวิตรีเปิดประตูร้านซักรีดเข้ามา...ภาพที่เห็นชวนเบ้หน้า..เหม็นความรักหนักมาก..ชุดพนักงานธนาคารส่งผลให้เพื่อนสาวเพรียวระหง..และทรงเสน่ห์ไปในตัว
"แหมๆๆ หวานกันตลอดนะคู่นี้"
เพื่อนสาวผิวสีน้ำผึ้งเย้าอย่างอารมณ์ดี..ตอนที่เธอรู้ว่าสามีเพื่อนรักกลับมาแล้วนั้น..เธอดีใจแทนเพื่อนมาก..เธอ..กับอันธิยาเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน..เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล..มีมาแยกกันก็ตอนเพื่อนรักท้องหนีมาแต่งงาน..แล้วไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยนี้ละ
"ก็ต้องหวานกันบ้างซิยะ"
เจ้าของบ้านค้อนเข้าให้..ก่อนที่ร่างบอบบางจะเดินเข้าครัว..พร้อมเสิร์ฟน้ำส้มคั้นที่เพื่อนชอบ..หญิงสาวรับมาถือพร้อมขอบคุณ
"เธอเนี่ย..รู้ใจฉันที่สุด"
ดวงตาเฉี่ยวของคนเป็นเพื่อนสำรวจไปทั่ว..โดยเฉพาะชายหนุ่มที่นั่งไม่ไกล..พี่รามิล..สามีของเพื่อนในวัยสามสิบสองยังคงดูหนุ่มไม่เปลี่ยน..ที่จริงดูหล่อกว่าสมัยหนุ่มน้อยอีก..เพื่อนเธอสายตาเป็นเริศจนเธอต้องยกนิ้วให้
"ว่าแต่แกมาทำไมอะ"
ร่างเล็กทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้พาสติกสีน้ำเงินใกล้ๆ..เพื่อนสาวผิวสีน้ำผึ้งนั่งไขว่ห้าง..บุคลิกสาวแบงก์สง่างาม
"ให้ทาย"
"มาขายประกัน? กองทุน? เงินฝาก? หรือหุ้นกู้?"
ยัยตัวเล็กสวนเป็นชุด..ใบหน้าเฉี่ยวแต่งหน้าเนียนกริ๊บยิ้มตาหยี..ก่อนจะพนมไหว้แต้..ทั้งคล้องแขน..ออดอ้อน
"แกอะ..รู้ทันตล๊อด..ตลอด"
"ก็แกมาหาฉันที่บ้านทีไร..ขายของตลอดไง..ยิ่งมาในเวลางานด้วยนะ..หึ้ม..ทำไมฉันจะไม่รู้"
ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เครื่องสำอางมองอย่างรู้ทัน
"แต่บอกก่อนนะ..ช่วงนี้ฉันไม่มีตัง"
ไอ้อยากช่วยเพื่อนก็อยาก..แต่เงินในกระเป๋าไม่ซัพพอร์ตให้ทำไงได้ละ..อดีตเพื่อนรักที่ตอนนี้แปลงร่างเป็นพนักงานขายเต็มตัว..เริ่มหว่านล้อม
"คืองี้แก..แกยังจำหุ้นกู้ที่เคยซื้อเมื่อสามปีที่แล้วได้หรือเปล่า"เสียงหวานหยดย้อยของคนเป็นเพื่อนเกริ่น..ใบหน้าเล็กคิดตาม
ใช่...เมื่อสามปีที่แล้ว..เธอเคยช่วยเพื่อนซื้อหุ้นกู้..สี่ใบ..ใบละสามแสน..แล้วครบกำหนดหมดอายุสิ้นเดือนนี้!!!
ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง..เธอจะได้เงินคืนเกือบล้านสอง..พนักงานธนาคารคนสวยมองอย่างอิจฉา..เพื่อนเธอนะหาเงินเก่ง..ถึงแม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะราวกับผ้าขี้ริ้ว เพราะตั้งแต่นางไม่ได้ขายของออนไลน์..นางก็เลือกไม่ซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอาง เพราะอยากประหยัดเงินเพื่อลูก..แต่ถึงจะเป็นผ้าขี้ริ้ว..ก็เป็นผ้าขี้ริ้วห่อทองนะจ๊ะ
"จำได้ละๆ เหมือนจะครบอายุทั้งสี่ใบ..สิ้นเดือนนี้นิ"
"ใช่ๆ..ฉันไม่ขออะไรแกมาก..แค่อยากให้Roll Over ต่อ..หรือแกจะเปลี่ยนมาลงทุนในกองทุนแทนก็ได้นะ"น้ำเสียงของพนักงานขายสดใส..ขายอันไหนก็ได้ยอดคือกัน
"ฉันรู้..เงินก้อนนี้แกยังไม่ใช้..ไหนๆแกก็ชอบลงทุน..ก็ลงทุนในหุ้นกู้ต่อซิ..ความเสี่ยงก็ต่ำ"
"อ่า"
"อย่างน้อยก็ดีกว่าเอาเงินไปเล่นหุ้นมั้ยแก"
ดวงตาสีน้ำตาลเริ่มลังเล..ก็จริงของเพื่อนเธอ..ไหนๆเงินก้อนนี้ก็ยังไม่ได้ใช้..ไปลงหุ้นกู้ต่อ..อย่างน้อยก็ได้ดอกเบี้ย..มาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านก็ยังดี
"เนี่ยๆมีหุ้นกู้ที่ออกใหม่ ดอกเบี้ย8% เลยนะแก..ถ้าแกสนฉันจะรีบทำเรื่องจองให้"
คำว่า 8% เรียกให้ชายหนุ่มคนเดียวของห้องที่ตอนแรกไม่สนใจให้หันมามองได้...นัยน์ตาดำขลับราบเรียบราวกับมองทะลุเนื้อแท้ของคน..ชวนให้สาวิตรีขนลุกซู่
"เรตติ้งเท่าไร?"เสียงถามดื้อๆ..ทำให้พนักงานสาวนิ่งไป..ก่อนจะตอบพี่ชายแถวบ้านที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก
"B- ค่ะพี่มิล"
ดวงตาคมหลุบลง..ใบหน้าหล่อเหลาติดจะเย็นชา
b- จัดเป็น non investment grade
คนตัวโตที่แต่เดิมไม่อยากจะยุ่งกับเงินของเมีย..แต่ก็อดไม่ได้..เพราะเงินไม่ใช่น้อย
"พี่ว่าอย่าพึ่งซื้อหุ้นกู้ต่อเลยนะ"
"ทำไมอะคะ"น้ำเสียงคนตัวเล็กเต็มไปด้วยความแปลกใจ
"คนส่วนใหญ่มักคิดว่าหุ้นกู้ไม่มีความเสี่ยง..ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด..สินทรัพย์ทุกชนิดมีความเสี่ยงที่จะขาดทุน"
"..."
"..."
สองสาวมองกลับมาราวกับเห็นคนแปลกหน้า..นี้ยังใช่..นายรามิลผู้เหยาะแหยะ..สอบได้ที่เกือบรั้งท้ายทุกทีไป..อยู่มั้ย?
พอเห็นคนในห้องไม่เข้าใจ..คนตัวโตทำได้เพียงแต่ถอนหายใจอย่างระอา..ไอ้คนขายก็มึน..ไอ้คนซื้อก็ซื้อๆไป
"คือเวลาที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นขาขึ้น..ราคาตราสารหนี้จะลดลง..มีผลทำให้เงินไหลออกจากตราสารหนี้"
"คะ?"
"เวลาเรา Roll Over พวกนี้..มันไม่คุ้ม ถ้าเทียบกับสินทรัพย์อื่น..โดยเฉพาะถ้าหนูเลือกตราสารหนี้ระยะยาวด้วยแล้ว"
"อ่ะ"
"อีกอย่างช่วงนี้ต้องระวังเรื่อง default ด้วยนะ ยิ่งหุ้นกู้ที่เรตติ้งอยู่ต่ำกว่า bbb- เพราะบริษัทเล็กๆถึงแม้จะให้ดอกเบี้ยสูงก็จริง..แต่ถ้าช่วงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเปลี่ยนแปลงเร็ว..ต้องระวังบริษัทจะขาดสภาพคล่อง..เพราะปกติเขาจะใช้วิธีออกหุ้นกู้ใหม่..แล้วเอาเงินที่ได้มาจ่ายหุ้นกู้ที่ครบกำหนด"
"...."
"..."
สารภาพเธอฟังพี่เขาพูดไม่เข้าใจ..ยัยเพื่อนพนักงานธนาคารขอยกมือถาม..รามิลได้แต่ทำหน้าเซ็งๆก่อนพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
"DEFAULT คืออะไรคะ"น้ำเสียงคนเป็นเพื่อนเกร็ง
พอเจอคำถามนี้ไป..ไอ้ต้าวพี่ข้างบ้านถึงกับลุกเป็นไฟ
"อะไรขายของไม่รู้จัก default!!!"
"..."
"Default คือการผิดชำระหนี้ไง! คิดจะขายผลิตภัณฑ์พวกนี้เธอควรทำการบ้านมากกว่านี้..เข้าใจมั้ย?"
แล้วไอ้ต้าวตัวเล็กกับเพื่อนสาวของเธอ..ก็โดนอดีตพี่ชายข้างบ้านบ่นร่วมครึ่งชั่วโมง..ยังดีที่คุณนายนกช่วยเคาะระฆังพักยกซะก่อน
รามิลถอนหายใจอย่างหงุดหงิด..ก่อนเดินไปช่วยแม่ยายเปลี่ยนหลอดไฟ
สองสาวสบตากันอย่างเป็นทุกข์
"แกฉันไม่ขายละดีกว่า"
"อื่อ..ฉันก็ไม่ซื้อละดีกว่า..โดนบ่นหูชาเลยเนี่ย"
พอเห็นเพื่อนสาวไร้ยอด..ยัยตัวเล็กรีบตบบ่าปลอบใจ
"ไม่เป็นไรนะแก..ไว้ฉันเก็บเงินซื้อประกันสะสมทรัพย์แทน..ยังไงก็ต้องใช้ลดหย่อนภาษีอยู่แล้ว"
"อื่อ..ขอบคุณนะ"
เพื่อนตัวเล็กได้แต่ยิ้มปลอบใจ..ดวงตาเฉี่ยวของคนเป็นเพื่อนเต็มไปด้วยความลังเล..ก่อนที่จะเอ่ยถาม..คำถามที่ค้างคาใจ
"เออ..ไอ้อัญ"
"ว่า?"
"ฉันถามเรื่องผัวแกได้มั้ย?..ฉันว่าตั้งแต่พี่มิลกลับมาดูแปลกๆ..ไม่เหมือนเดิมหรือเปล่า?"
"..."
*default ผิดนัดชําระหนี้ หมายความว่าบริษัทผู้ออกตราสารหนี้..ไม่สามารถหาเงินมาชำระผู้ถือตราสารหนี้
**Roll Over ถ้าในตราสารหนี้คือ การออกหุ้นกู้ตัวใหม่ เพื่อระดมทุนไปชำระผู้ถือหุ้นเดิม
***การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรตัดสินใจก่อนลงทุนนะคะ
