บทที่ 5 ความจริงที่ใจสลาย
เมื่อมือเรียวเล็กเปิดผ้าคลุมหน้าของอาจารย์ใหญ่ออก เธอถึงกับตกตะลึง ปากสั่นตัวสั่นร่างกายอ่อนโอนคล้ายจะเป็นลม แน่นอนว่าใบหม่อนกับจุ๊บแจงต่างก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน ทำไมพวกเธอจะไม่รู้ล่ะว่าเขาเป็นใคร
ผู้ชายในรูปสติ๊กเกอร์ที่เพื่อนรักพกติดกระเป๋าสตางค์ใบโปรด
เธอร้องไห้และขอตัวอาจารย์ออกไปข้างนอก ซึ่งก็เป็นปกติที่บางคนอาจจะหวาดกลัว หรือตกใจ เพื่อนๆ กับอาจารย์ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก แต่ที่แปลกคือสองเพื่อนสาว ที่ต่างตกใจไม่แพ้เธอ
นี่ที่พี่เขาหายไปตลอดระยะเวลาสามปีมานี้ พี่เขาเสียชีวิตหรือนี่!! แล้วจู่ๆ คำพูดคำหนึ่งก็ลอยมา
“นิราต้องตั้งใจเรียนนะ ต้องเก่งด้านประสาทวิทยา ให้เหมือนที่ตั้งใจเอาไว้ พี่จะอยู่ข้างๆ หนูตลอดนะครับ”
น้ำเสียงของเขาเอ่ยบอกกับเจ้าหล่อนอยู่บ่อยๆ มันแว่วเข้ามาในหัว ก่อนที่เธอจะร้องไห้ฟูมฟายอีกรอบ จนเป็นลม ซึ่งเพื่อนๆ ก็พาเธอไปพัก แน่นอนว่าวิชานี้คนทั้งสามต้องมาซ่อมทีหลัง และคำว่าแพทย์ต้องไม่กลัวผี
เวลาผ่านไปจนถึงบ่ายสอง ซึ่งพวกเธอไม่มีเรียนแล้ว และต้องไปสอบซ่อม โดยมีอาจารย์ภาควิชาเข้าไปคุมด้วย หญิงสาวทั้งสามคนตามด้วยอาจารย์ภาควิชาอีก 2 ซึ่งอาจารย์นั่นแหละที่ดูท่าจะกลัวผีซะมากกว่า
เธอเข้าไปใกล้ๆ ร่างของเขา แม้ว่าจะถูกดองมานานกว่าสามปีแล้ว แต่ทว่าใบหน้ายังคงรูปเช่นเดิม ดวงตาของหญิงสาวที่เริ่มพร่าเลือนเพราะน้ำตาที่คลอเบ้า มันทำให้เธอถึงกับสะอื้นไห้อีกรอบ
“แกโอเคมั้ยนิรา? ”
เสียงของใบหม่อนเอ่ยถามเพื่อนขึ้น ซึ่งคำตอบของนิราก็คือการพยักหน้าแทนคำตอบ
อาจารย์ได้เอ่ยและอธิบายทางด้านประสาทวิทยาคร่าวๆ ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มลงมีด และสังเกตร่วมกัน
นี่เธอไม่นึกเลยว่าร่างอาจารย์ใหญ่ที่เธอร่ำเรียนมาตลอดต่างเป็นร่างชายที่รักของตน ซึ่งเธอก็ตามหาเขามาตลอด มือเรียวค่อยๆ ลูบแก้มของร่างไร้วิญญาณอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เธอจะเอานิ้วเรียวสวยมาลูบไล้ตรงริมฝีปากของเขาอย่างอ่อนโยน
“ขอโทษนะคะ ที่เข้าใจพี่ผิด ขอโทษที่ต่อว่าพี่ไปต่างๆ นานา ขอโทษที่ไม่รู้อะไรเลย”
คนที่หัวใจสลายต่างบ่นพึมพำกับตัวเอง เมื่ออาจารย์ที่สอนต่างเห็นว่า นิรารินทร์ ดูเหมือนคนไม่มีสติ ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะเล่าให้อาจารย์ฟังถึงที่มาที่ไป ก่อนที่เธอจะทราบในภายหลังว่าร่างนี้บริจาคร่างกายก่อนที่เขาจะเสีย สาเหตุที่เสียเนื่องด้วยลิ่มเลือดอุดตันหัวใจ มันเป็นเคสที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน คนที่ฟังถึงกับหัวใจแทบสลาย
เพื่อนทั้งสองมองดูเธอกอดร่างไร้วิญญาณ นี่ถ้าผ่านมาเธอรู้ว่าร่างกายที่เธอศึกษาและผ่าพิสูจน์คือเขา เธอจะเป็นอย่างไรนะ ใบหม่อนกับจุ๊บแจงหันมองหน้ากัน ยอมรับว่าภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาทั้งคู่ถึงกับน้ำตารินไหล ซึ่งไม่ต่างจากอาจารย์ทั้งสอง ซึ่งพวกเขาก็น้ำตาคลอเบ้าไม่ต่างกัน
กว่าจะเรียนเสร็จกว่าจะทานข้าวและกลับเข้าบ้านก็ปาไปเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว ปิยะฉัตรกับณรงค์ถึงกับตกใจกับสภาพของลูกสาว ที่จู่ๆ เธอก็วิ่งเข้ามาโผกอดบิดามารดา
“นิราเป็นอะไรไปลูก ดูสิร้องไห้ตาบวมหมดแล้ว”
หัวอกของคนเป็นแม่แทบสลายเมื่อเห็นน้ำตาของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนสุดที่รัก แต่คนทั้งคู่ก็ต้องใจสลายซ้ำสองเมื่อลูกสาวเล่าบางอย่างให้พวกเขาฟัง
“หนู อะ ฮึก”
เธอทั้งพยายามจะเล่าทั้งสะอึกสะอื้นร่ำไห้ “หนูเข้าใจพี่เขาผิดไปค่ะแม่ หนูเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย อะ ฮึก”
คนเป็นพ่อแม่ถึงกับไม่รู้จะเอ่ยปลอบลูกสาวว่าอย่างไร โดยที่ณรงค์เองก็ปลอบประโลมเอามือลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่
“พี่เขาไปสบายแล้วนะลูก ถ้าขืนฟูมฟายอยู่อย่างนี้พี่เขาจะไม่หมดห่วง”
คืนนี้เธอเข้านอนโดยฟังเพลงโปรดและก็กอดรูปสติกเกอร์คู่ที่เธอหอมแก้มเขา โดยภาพนั้นมันถูกนำไปขยายใหญ่วางบนหัวเตียงเธอมาสามปีกว่าแล้ว ก่อนที่คนที่เอาแต่ร้องไห้จะเผลอหลับไป
“พี่ขุนเขาคะ นั่นพี่ใช่มั้ย? ”
มันก็เป็นฝันเดิมๆ ที่เขายืนหันหลังและไม่ยอมพูดยอมจากับเธอ และเธอก็เดินไปโอบกอดเขาจากทางด้านหลังเช่นเคย แต่ครั้งนี้มันแปลกตรงที่เขาพูดกับเธอ
“เรียนเหนื่อยมั้ยครับเด็กดี? ”
เธอใจเต้นตุ้มต่อม หัวใจแทบทะลุออกมานอกอก
“ไม่เหนื่อยค่ะ พี่หายไปไหนมาคะ นิรารอพี่ทุกวันเลยนะ”
“พี่ก็อยู่กับหนูทุกวันนี่คะ หนูไม่รู้หรอ”
เธอส่ายหัวไปมาก่อนจะเอ่ยกับพี่ชายร่างสูง
“หนูไม่เห็น พี่ขุนเขา ….. เราเป็นแฟนกันได้มั้ยคะ หนูโตแล้วนะ อีกไม่กี่ปีก็เรียนจบแล้ว นะคะ เรามาเป็นแฟนกัน”
ครั้งนี้เขาไม่ตอบ มันทำให้เธอเสียใจมาก
“ถ้างั้น …. หนูอยากเป็นของพี่ ได้มั้ยคะ? ”
แม้จะรู้ดีว่าตัวเองพูดอะไรที่น่าอับอายออกไป แต่จะทำไงได้ เธอก็รักของเธอนิ่
‘พี่ …. พี่อยู่คนละภพภูมิกับหนู …. ขอโทษนะครับ ที่สานต่อความจริงกับหนูไม่ได้ หากชาติหน้ามีจริง พี่ขอให้เราสมหวังนะครับ’
“ไม่นะพี่ขุนเขาอย่าจากหนูไปนะ ขอร้อง …”
คนที่เอาแต่ละเมอก็ร้องไห้ฟูมฟาย แต่แล้วร่างสูงใหญ่ก็เข้ามาโอบปลอบ
“ชู่วส์ ….. ไม่เอานะครับคนดี ไม่ร้องนะ”
เธอโอบกอดเขา จากนั้นก็โน้มตัวเขาลงมาก่อนที่ริมฝีปากบางจะประกบจูบอย่างคนคิดถึง เขาช้อนอุ้มคนตัวเล็กไปบนเตียง ก่อนจะประกบปากจูบตอบอย่างดูดดื่ม พวกเขาลิ้มรสความหวานของกันและกันเป็นเวลาใหญ่ๆ เกือบไปแล้ว เกือบที่เธอจะเสียสาวให้กับร่างไร้วิญญาณแล้วสินะ
แต่ทว่า!! เขากลับหยุดมันไว้เพียงเท่านี้
วันนี้นักศึกษาชั้นปีที่สี่ต้องมาทำการขอขมาและขอบคุณร่างของอาจารย์ใหญ่ก่อนจะเผา แน่นอนว่าวันนี้ คุณวรนุช สุริยะพงศ์ ก็ต้องมางานฌาปนกิจกิจของลูกชาย แน่นอนว่าเธอก็ต้องเจอกับนักเรียนนักศึกษาวิชากายวิภาคศาสตร์
ทันทีที่ นิรารินทร์ เห็นวรนุช เธอถึงกับเข่าอ่อน ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดของคนในชุดขาว แน่นอนว่าวรนุชเธอบวชชี และกะจะบวชไปตลอดชีวิต จะเนื่องด้วยบวชให้ลูกชายหรือบวชให้สามีผู้ที่ล่วงลับไปก่อนหน้าก็ว่าได้ คนทั้งคู่ต่างพูดคุยสารทุกข์สุกดิบต่างๆ นานา ซึ่งแน่นอนว่าเธอรู้ว่าคุณวรนุชคงคิดจะบวชตลอดชีวิต เพราะที่บ้านล้มละลาย ก่อนที่หญิงสาวจะนึกไปถึงป้ายที่ปิดประกาศขายก่อนหน้านี้
ร่างของอาจารย์ใหญ่นับสิบกว่าร่างก็ถูกนำมาทำพิธี ก่อนที่จะเผา ยอมรับว่าเธอแทบใจสลายไม่ต่างกัน โดยยังดีที่มีเพื่อนรักต่างเข้าอกเข้าใจ
การเรียนของพวกเธอแต่ละวันผ่านไปอย่างช้าๆ ส่วนร่างเล็กบางที่เอาแต่บ้าเรียนโดยไม่สนใจกับอะไร เธอทำการศึกษาระบบประสาทและหัวใจ ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนหัวใจแบบบายพาส (Coronary Artery Bypass Grafting หรือ CABG) เป็นการผ่าตัดที่ช่วยรักษาผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน ซึ่งส่งผลให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในกรณีที่หลอดเลือดหัวใจตีบรุนแรงและการรักษาแบบอื่น ๆ เช่น การใช้ยา หรือการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูนและใส่ขดลวด (stent)
เธอศึกษาเรื่องนี้แบบจริงจัง และก็จบเกียรตินิยมเหรียญทองโดยที่ตั้งใจไว้ จากนั้นเธอก็ไปศึกษาต่อทางด้าน Fellowship เกี่ยวกับเรื่องของหัวใจที่อเมริกาอีกสามปี การใช้ชีวิตของเธอวนลูปอยู่กับการศึกษาเล่าเรียนจนเป็นแพทย์หญิงเฉพาะทางที่โรงพยาบาลชั้นนำต่างยื้อแย่งตัว
เธอตั้งใจจะศึกษาศาสตร์นี้เพื่อที่จะได้รักษาคนที่เป็นโรคลิ่มเลือดหัวใจ หรือเกี่ยวกับหัวใจโดยตรง จนตอนนี้ก็ผ่านมา เกือบๆ แปดปีแล้ว หญิงสาวที่มีอายุอานามเลข ยี่สิบเจ็ด แต่ก็ยังไม่เคยจะเปิดใจ ให้ใครมากล้ำกลายเข้ามาในพื้นที่ของหัวใจของเธอได้แม้แต่สักคน
แต่แล้วเคสพิเศษของลูกชายตระกูลดังคนหนึ่งก็ถูกเรียกให้ไปดูแลเคสนี้อย่างเร่งด่วน หนึ่งในหลายแสนคนที่จะพบเจอกับเคสประเภทนี้ ซึ่งมันก็คล้ายๆ กับเคสของขุนเขา
Thrombolytic Therapy Case และเธอก็เป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่จะต้องเข้าการรักษาภาวะฉุกเฉินนี้ด้วย
