บทที่ 19 ไม่บังเอิญ
ศัมภุถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเขาก้าวลงจากรถเห็นไพรำยืนคุยอยู่กับวิชาญและเอมิกา โลกมันกลมจริงๆ ไม่คิดว่าจะได้พบหญิงสาวที่เป็นสาเหตุให้เขาคิดหนักจนข่มตาแทบไม่หลับในคืนที่ผ่านมา เขาหิ้วกระเป๋าลงจากรถ วิชาญเดินตรงเข้ามา
“มาช้านะแก” เจ้าของโรงเรียนสอนดำน้ำตบผลัวะที่ไหล่เพื่อนรัก
“โอ้ย ไอ้บ้าเบาหน่อยก็ได้ ฉันไม่ใช่ต้นกล้วยนะโว้ยถึงจะไม่รู้สึกเจ็บ” ศัมภุหันมาต่อว่าเพื่อนขณะยกมือลูบที่ไหล่ข้างที่ถูกตบ
“โทษทีว่ะดีใจไปนิดหนึ่ง” วิชาญหัวเราะกลบเกลื่อน
“ดีใจแบบนี้ไม่ต้องซะดีกว่า” ศัมภุยังโกรธ
“เออน่ะ เอากระเป๋าให้น้องเขาไปเก็บในรถแล้วแกตามฉันมานี่”
“ไปทำไม”
“ฉันจะแนะนำให้รู้จักคุณไพรำ เพื่อนเมียฉันเอง”
“ฉันรู้จักแล้ว” ศัมภุยิ้มขณะมองไปที่สองสาว วิชาญหันมามองหน้าเพื่อน
“อ้าวเหรอ รู้จักเมื่อไหร่วะ”
“วันก่อน ไม่คิดว่าเธอจะไปกับเรา” ศัมภุยิ้มขณะเดินตามวิชาญไปหาสองสาว
“สาวๆ ครับ นายภุมาแล้ว ไปกันได้แล้วครับ” วิชาญเน้นเสียงให้เข้มเพื่อเรียกความสนใจจากไพรำ หญิงสาวหันมาตามเสียงแล้วเลิกคิ้วสูง
“คุณ..ไปด้วยเหรอ” ไพรำทักทายศัมภุก่อนที่เอมิกาจะทันทักเพื่อนสามีเสียอีก
“ครับ ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” เขายิ้มบาง สายตาจับนิ่งที่ใบหน้าของหล่อน
“ฉันก็ไม่คิดว่าจะเจอคุณเหมือนกัน” หล่อนตอบยังคงมองหน้าเขานิ่ง
“พี่โทร.ชวนเองแหละ นายภุมันชอบดำน้ำ ตอนแรกพี่จะแนะนำให้รู้จักไพ แต่รู้จักกันแล้วก็ดีเลย ขึ้นรถได้แล้วค่อยคุยกันต่อในรถ ไปจ้ะเอม” วิชาญพยักหน้ากับภรรยา
“ยัยไพ นั่งกับฉันจะได้คุยกันให้มันส์ไปเลย พี่ภุ นั่งกับเรานะคะ พี่ชาญไปนั่งหน้าโน่น”
เอมิกามองหน้าสามีพร้อมออกคำสั่งซึ่งวิชาญถึงกับแยกเขี้ยวใส่
“ไม่เอา พี่จะนั่งด้วย ไอ้ภุไปกับฉัน เรื่องอะไรจะให้ฉันนั่งหน้า ฉันไม่ใช่แฟนคนขับรถนะยะ”
คำพูดของวิชาญเรียกเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างได้ไม่น้อยทีเดียว เอมิกาดึงไพรำมานั่งเบาะหลังคนขับกับหล่อน วิชาญดันหลังศัมภุให้เข้าไปนั่งติดกับไพรำและตัวเองนั่งริมสุด เมื่อทุกคนพร้อมรถจึงเคลื่อนออกจากหน้าโรงเรียนสอนดำน้ำของวิชาญ
เอมิกาชวนไพรำคุยหลายเรื่อง วิชาญแทรกบ้าง ถามศัมภุบ้าง การสนทนาระหว่างเพื่อนเก่ากับเพื่อนใหม่จึงเป็นไปอย่างไม่น่าเบื่อแต่ระหว่างการสนทนาของสองสาวนั้นศัมภุชำเลืองหางตามองไพรำเกือบทุก 5 นาที เขาอยากบอกหล่อนเรื่องผู้หญิงชุดแดง อยากถามหล่อนอีกครั้งว่าหล่อนเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินตามธีรเมธมาจริงๆหรือ
“คุณภุ มีอะไรรึเปล่าคะ” ไพรำรู้สึกถึงสายตาที่ลอบมองมาบ่อยครั้งของชายหนุ่ม
“เอ่อ..เปล่า ไม่มีอะไรครับ” เขายิ้มน้อยๆ
“เหรอคะ นึกว่าอยากจะพูดอะไรกับฉันซะอีก” หล่อนยิ้มบางอย่างรู้ทันสายตาที่แอบมองหล่อนอยู่ เขามองตรงไปข้างหน้าไม่เหลือบแลมาที่หล่อนอีก
การพูดคุยค่อยๆ น้อยลงและสุดท้ายก็เงียบไปเกือบทั้งคันรถเพราะคนคุยหลับ รถแล่นได้ครึ่งทางก็แวะเข้าพักที่ปั๊มน้ำมัน วิชาญปลุกทุกคนเพื่อออกมาเดินยืดเส้นยืดสายและเข้าห้องน้ำ ศัมภุหลับไม่สนิทนักเพราะไพรำพิงไหล่เขาหลับตลอดสองสามชั่วโมง หล่อนหลับสนิทอย่างไม่น่าเชื่อ เขาแอบยิ้มทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมองนวลหน้าของหล่อนแต่เขาก็มาหลับก่อนที่รถจะเลี้ยวเข้าปั๊มเพียงไม่ถึงชั่วโมง
“ภุ ลงไปกินกาแฟกัน ไงครับไพ หลับสบายเลยสิ” วิชาญมองหญิงสาวแล้วยิ้ม
“ค่ะ”
“ไหล่ไอ้ภุเป็นอัมพาตไปข้างหนึ่งแล้ว ยังงี้ไพต้องเลี้ยงกาแฟปลอบใจแล้วละ” วิชาญมองหน้าเพื่อนหนุ่มแล้วยิ้มล้อ ไพรำมองวิชาญสลับกับศัมภุอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมต้องเลี้ยงคะ ไม่เกี่ยวกับไพซะหน่อย พี่ชาญก็เลี้ยงเองสิ เลี้ยงทั้งรถนี่แหละยัยเอมไปห้องน้ำกัน” ไพรำก้าวลงจากรถไม่สนใจกับสายตาของศัมภุที่มองหล่อนอยู่
“ยัยไพ เดี๋ยวสิ รอฉันด้วย” เอมิกาวิ่งตามเพื่อนรัก หล่อนไม่รู้ว่าสามีพูดอะไรเพราะหล่อนหลับกับไหล่เขาบ้าง กับตักอันอบอุ่นของเขาบ้างจึงไม่รู้ว่าเพื่อนรักของหล่อนนั้นใช้ไหล่ศัมภุนานแค่ไหน
“พี่ชาญพูดแปลกๆ ฉันไปเกี่ยวอะไรกับไหล่เป็นอัมพาตของคุณภุล่ะ จริงมั้ยเอม”
ไพรำยังคิดตามคำพูดของวิชาญ เอมิกามองหน้าเพื่อนแล้วว่า
“พี่ชาญล้อแกน่ะสิ”
“ล้ออะไร”
“ไม่รู้ สงสัยแกพิงไหล่พี่ภุหลับมั้ง แกรู้ตัวรึเปล่าล่ะ”
“ไม่..” ไพรำพูดไม่ออกเมื่อคิดถึงเบาะที่นุ่มผิดปกติ หรือว่าหล่อนหลับกับไหล่ของศัมภุ
“เป็นไปไม่ได้ ฉันต้องรู้สึกตัวบ้างสิ” หล่อนลืมตัวเสียงดังขึ้น เอมิกาหันมาจ้องหน้า
“อะไรของแกยัยไพ”
“เปล่า ฉันเข้าห้องน้ำก่อน แกรอด้วยล่ะ”
“เออ ถ้าไม่เห็นฉันออกไปรอข้างหน้านะ”
“ฮื่อ..” หญิงสาวพยักหน้าแล้วเข้าห้องน้ำริมสุด เอมิกามองตามแล้วส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ หล่อนต้องถามสามีว่าที่พูดอย่างนั้นหมายถึงอะไร
