ตอนที่4
ครู่ต่อมา
โรงอาหาร
“ข้าว”
“หืม..”
“ฉันว่านายนั่นหยิ่งมากเลยเข้ามาโดยใช้เส้นสายแน่ๆดีไม่ดีไม่ได้สอบอะไรให้มันถูกต้องด้วย” ในขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ลลิลก็แอบตะหงิดใจกับเรื่องชายหนุ่มคนนั้นอยู่พอสมควร
“อาจจะไม่ใช่อย่างที่แกคิดก็ได้อย่าไปยุ่งกับเค้าเลยไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า” ขวัญข้าวส่ายหัวเบาๆ
“สงสัยเก่ง” ซินจางมองหน้าลลิลแล้วขมวดคิ้วใส่เพราะลลิลนั้นจะต้องสงสัยมันทุกเรื่องไป
“อืมก็ได้” ลลิลบุ้ยปากเล็กน้อย
15.00 น.
“พวกแกนั่นพี่วินเดือนคณะเรานี่เค้าเตะบอลอยู่อะ” ลลิลชะงักเมื่อเดินผ่านสนามฟุตบอล
“จะไปยุ่งอะไรกับเค้าล่ะไปเถอะรีบไปเอารถข้าวมันที่อู่ด้วย” ซินจางดึงมือลลิลให้เดินตามเธอไปเพราะต้องรีบกลับไปรับมอเตอร์ไซต์ของขวัญข้าวที่อู่
“นี่..ดูก่อนได้ไหม” เป็นขวัญข้าวเองที่รั้งให้ทั้งสองนั้นยืนอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนเธอก่อนเพราะเธออยากจะดูมาวินรุ่นพี่ปีสามที่เป็นเดือนคณะเตะบอลด้วยเหตุที่แอบมองเข้ามาตั้งพักหนึ่งแล้วเหมือนกัน
“หืม” ซินจางอมยิ้มทั้งจ้องขวัญข้าวอย่างมีเลศนัย”ฮั่นแน่”ลลิลก็เช่นกันปกติแล้วเธอไม่เคยเห็นขวัญข้าวสนใจใครแบบนี้
“ฉันเห็นแกชอบแอบมองพี่เค้าอยู่บ่อยๆนะข้าว” ลลิลสังเกตมาหลายครั้งแล้วเธอว่าจะถามเพื่อนเธออยู่เหมือนกันในเมื่อวันนี้มันชัดเจนแล้วว่าขวัญข้าวมองมาวินจริงๆเธอก็ขอถามเข้าประเด็นที่เธอสงสัยเลยแล้วกัน
“เปล่าซะหน่อย..ฉัน..ก็...ก็..มองไปทั่วนั่นแหละ..ฉันไม่ดูแล้วก็ได้ไปกันเถอะ” ขวัญข้าวหน้าตาตื่นเล็กน้อยทั้งเดินหนีเพื่อนเธอทั้งสองอย่างทำตัวไม่ถูกที่เหมือนจะถูกล้วงความลับในใจมาได้
“แกว่าใช่ไหม” ลลิลหันมาอมยิ้มกับซินจาง
“อืม..หน้าแดงขนาดนี้ปิดมิดที่ไหนกันล่ะ” ซินจางอมยิ้มเล็กน้อยในขณะที่มองตามหลังขวัญข้าวเดินดุ่มๆหนีพวกเธอไปทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าขวัญข้าวแอบชอบมาวินก็เล่นอาการออกซะขนาดนั้น
“พวกแก๊งเด็กแว๊นอีกแล้วเหรอ...ก็อย่างว่าละนะนักเรียนทุนก็คงจะไม่มีปัญญาซื้อรถหรูๆขับอย่างพวกเราหรอก” โซดาสาวสวยไฮโซนักศึกษาแพทย์ปีสามเห็นพวกของขวัญข้าวเดินผ่านมาก็อดที่จะค่อนขอดรุ่นน้องไม่ได้ไม่ใช่แค่พวกของขวัญข้าวเท่านั้นที่ถูกรุ่นพี่คนนี้แซะแต่คนที่ต่ำกว่าเธอทุกคนก็โดนหมด
“นี่พวกเธออย่าไปว่ารุ่นน้องเราแบบนี้สิ...พวกนางก็แค่บ้านไม่มีเงินจะซื้อของพวกนี้เท่านั้นเองไปกันเถอะ” แพมดาวคณะแพทย์ลูกคุณหนูไฮโซที่เป็นเพื่อนกับโซดาเธอก็กัดรุ่นน้องพวกนี้ได้เจ็บไม่แพ้กัน
“หึย..” ลลิลที่ถูกซินจางจับเอาไว้ไมให้โต้ตอบอะไรก็ได้แต่กำหมัดแน่น
“....” ขวัญข้าวก็เดินไม่สนใจรุ่นพี่พวกนี้เลยสักนิดเพราะไม่ใช่พวกเธอที่ถูกคนพวกนี้กระทำแต่คนอื่นก็โดนเหมือนกันเธอรู้ดีปัญหามันไม่ได้อยู่ที่คนอื่นมันอยู่ที่รุ่นพี่ปากสุนัขสองคนนั้นมากกว่าเธอจึงไม่ให้ค่าอะไรคนแบบนี้เท่าไร
“โถ่เอ้ย...ผิดมากหรือไงที่เกิดมาจน” ลลิลนั่งคร่อมมอเตอร์ไซต์ของเธอทั้งยังโมโหสองสาวนั่นไม่หาย
“มันไม่ได้ผิดที่เราหรอกหลิวผิดที่สองคนนั้นมากกว่าที่ชอบมีปัญหากับชีวิตคนอื่น” ขวัญข้าวตบบ่าลลิลเบาๆ
“ฉันพอจะรู้นะว่าครอบครัวยัยรุ่นพี่สองคนนั้นทำอาชีพผิดกฎหมายไม่งั้นไม่มีเงินผลาญเล่นกันแบบนี้หรอก” ลลิลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้เต็มทน
“แกรู้จริงเหรอหลิว” ซินจางมองหน้าลลิลอย่างสงสัย
“อืม...บ้านฉันอยู่แถวบ้านพ่อยัยโซดานั่น” ลลิลพยักหน้า
“ข่าวใหม่เลยนะเนี่ย” ซินจางถึงกับเบิกตาโพรงเมื่อพึ่งรู้เรื่องนี้
“อีกอย่างที่เป็นดาวคณะได้ก็เพราะใช้เงินทั้งนั้นแหละน่าภูมิใจตรงไหนกัน” ลลิลยังคงไม่หยุดที่จะพล่ามถึงคนพวกนั้นเพราะเกิดมาไม่เคยหมั่นไส้ใครเท่าคนพวกนี้เลย
“ไปมหาลัยวันแรกเป็นยังไงบ้างครับนายน้อย” หลังจากที่เขาขับรถไปรับนายน้อยของเขาที่มหาลัยแล้วริกิก็อยากจะรู้ว่าวันนี้นายน้อยของเขานั้นพอใจกับมหาลัยนี้หรือไม่
“น่าเบื่อโคตรๆมีอะไรที่ย่าเบื่อไปกว่านี้อีกไหม” แทนไทตอบกลับเสียงเรียบอยู่ที่นี่สำหรับเขาอะไรก็น่าเบื่อทั้งนั้นเพราะเขาไม่ได้อยากมาตั้งแต่คราแรก
“ไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลยเหรอครับ” ริกิคิดว่าการที่ให้นายน้อยของเขาไปเข้าเรียนอาจจะทำให้นายน้อยของเขาคลายเหงาได้บ้างแต่เปล่าเลยดูเหมือนมันจะไม่มีอะไรดีขึ้นเลยสักนิด
“......” คำว่าน่าสนใจของริกิทำให้เขาคิดถึงอะไรบางอย่างในหัวผู้หญิงคนนั้นคนที่ว่าเขาเป็นใบ้ตอนนี้ใบหน้าของเธอยังคงชัดเจนในสายตาเขาอยู่ตลอดแม้จะห้ามคิดยังไงก็ห้ามไม่ได้
“อดทนหน่อยนะครับผมเชื่อว่าทุกอย่างมันน่าจะดีขึ้น” ริกิเห็นว่านายน้อยของเขาเงียบไปเลยต้องเอ่ยให้กำลังใจขึ้นมาก่อนและหวังว่ามหาลัยนี้จะมีอะไรทำให้นายน้อยของเขาสนใจได้บ้างในอนาคตไม่มากไม่น้อยก็ยังดี
เดือนต่อมา
“นายจะบินไปไทยจริงๆใช่ไหมครับ” โทชิโอะเข้ามาถามเคซากุให้แน่ใจอีกครั้งว่าพรุ่งนี้เคซากุจะไปที่ประเทศไทยเองแน่นอนหรือไม่เพราะเขายังอยากให้เคซากุอยู่ดูแลงานที่นี่ไปก่อนเพื่อนเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
“ฉันอยากไปที่นั่นด้วยตัวเอง” เคซากุเอ่ยเสียงเรียบหลังจากที่รู้ข่าวจากนักสืบว่าลูกชายของชินอิจิอยู่ที่ไทยเขาก็หมายมั่นจะไปที่นั่นท่าเดียว
“แล้วงานทางนี้ล่ะครับ” โทชิโอะไม่รู้ว่านายของเขานั้นคิดอะไรอยู่เขาอยากให้นายของเขาโฟกัสเรื่องงานมากกว่าการที่จะแก้แค้น
“นายก็เป็นคนดูแลตามที่ฉันบอกไงส่วนฉันจะไปกับยูสึเกะ” เคซากุรู้ดีว่าโทชิโอะแก้ไขปัญหางานที่นี่ได้ดีอยู่แล้วเขาจึงไม่ห่วงตอนนี้เขาขอทำตามใจเขาก่อนก็แล้วกัน
วันต่อมา
มหาวิทยาลัยXX
“สอบเสร็จซะทีเนอะทีนี้ก็ได้นอนพักผ่อนยาวๆแล้ว” ลลิลยืนมองรั้วมหาลัยพร้อมกับซินจางและขวัญข้าวเธอรอวันปิดเทอมมานานแล้วหลังจากเธอขายของเสร็จในช่วงเช้าจะนอนให้เต็มที่เลย
“ทีนี้ก็มีเวลาขายของเต็มที่แล้ว” ขวัญข้าวยิ้มอ่อนเพื่อนเธอห่วงเวลานอนแต่เธอห่วงเวลาทำงานมากกว่าเพราะหลังจากขายโจ๊กเสร็จแล้วจะได้ช่วยร้าของเธอดูแลแปลงผักและเก็บผักไปขายต่อ
RrrrrrrrRrrrrrrr
“ฮัลโหลค่ะ...อะไรนะคะ” ซินจางยกมือถือขึ้นมาดูเธอแปลกใจเล็กน้อยกับเบอที่โทรเข้ามาแต่ก็ตัดสินใจกดรับและเอก็ต้องได้รับข่าวร้ายว่าตอนนี้แม่ของเธอเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน
