ตอนที่ 5 ฝันจัญไร! กับผู้ชายต้องห้าม 2/2
‘ปีศาจร้าย’
‘เจ้าชายน้ำแข็ง’
เพราะว่างมากวัสสานจึงมีเวลาสรรหาฉายาให้เจ้านายหมาด ๆ ตลอดทั้งวันเหมันต์ไม่ได้ให้เด็กหนุ่มทำอะไรเลย มีเพียงเอกสารประวัติการก่อตั้งและโบรชัวร์ของพิพิธภัณฑ์ที่เขาอ่านวนเป็นรอบที่สิบห้าจนจำได้ขึ้นใจ
ยามใดที่รู้สึกเมื่อยขบ เด็กหนุ่มก็ขยับบิดกายซ้ายขวา พอเจ้านายปรายตามา เด็กน้อยก็ได้แต่ยิ้มแหย เมื่ออึดอัดมากๆเข้าก็ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ และไม่ลืมหยิบโทรศัพท์มือถือตกรุ่นติดมือไปด้วย
ทันทีที่บานประตูห้องน้ำด้านในปิดลง ทางปลายสายที่วัสสานโทรหาก็ส่งเสียงสดใสทักทายพอดี
[ไงจ๊ะ ผู้ช่วยคนใหม่ของอาเหม ทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง]
“เพิ่งจะครึ่งวันรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ตรงนั้นมาครึ่งปี สาบานสิว่าอาเหมของซัมเมอร์เป็นคนเอ่ยปากขอให้เรนมาช่วยงานจริง ๆ ไม่ได้ยัดเยียดให้ใช่ไหม ถ้าฝืนใจอาเหม เรนหางานอื่นทำก็ได้นะ” วัสสานร่ายยาวอย่างอึดอัด เพราะวันนี้แทบไม่ได้ยินเสียงของตัวเองเลย
[อาเหมเป็นคนขอเรนจากคุณแม่จริง ๆ นะ คงตกหลุมรักแหละ ถึงได้เอ่ยปาก] เพื่อนสาวพูดทีเล่นทีจริง ซึ่งเป็นปกติของซัมเมอร์อยู่แล้ว วัสสานจึงไม่ได้คิดอะไร
“แต่อาเหมไม่ได้มีอะไรให้เรนทำเลยนะ นี่นั่งอ่านเอกสารมาตั้งแต่เช้าจนจำได้ขึ้นใจแล้ว”
[เอาน่าเรนนี่ ค่อยเป็นค่อยไปค่อย ๆ ศึกษาดูใจกันไปนะ อย่าเพิ่งใจร้อนสิ]
“นี่ เลิกพูดเล่นเสียที ไม่ขำด้วยนะ เรนอึดอัดจะตายอยู่แล้ว”
ปลายสายส่งเสียงหัวเราะลั่นอย่างชอบใจ ด้วยวัสสานดูแปลกไปไม่เป็นตัวของตัวเอง
เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าหวาน รอยยิ้มสดใสร่าเริงอยู่เสมอ บัดนี้กำลังขมวดคิ้วมุ่นจนหน้าผากขึ้นริ้ว ปากแดงขยับเอื้อนเอ่ยปรับทุกข์และสิ่งที่อัดอั้นตันใจกับเพื่อนสาวโดยที่ไม่รู้เลยว่าปีศาจร้ายหรือเจ้าชายน้ำแข็งกำลังยืนกอดอกพิงสะโพกกับขอบอ่างล้างมืออยู่ด้านนอก และรอคอยขย้ำหนูน้อยอย่างใจจดจ่อ
“อาเหม!”
สายตากระชากวิญญาณของบุรุษรูปงามตรงหน้าทำเอาเด็กน้อยที่เพิ่งรู้สึกโล่งใจหลังได้ปลดปล่อยความในใจกับเพื่อนรักต้องหนักใจหนักกว่าเดิม และที่เพิ่มเติมคือมุมปากหยักของคนตรงหน้าที่เผยอพูดออกมานับครั้งได้ ตอนนี้มันกำลังกระตุกและเหยียดยิ้มพร้อมกับคำพูดที่ยาวที่สุดของวันนี้
“อยากทำงานมากนักใช่ไหม ได้เลย ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป เธอต้องติดตามฉันไปทุกที่ ฉันให้ทำอะไรก็ต้องทำ เรียกเมื่อไรก็ต้องมา ไม่มีเวลาพัก ไม่จำกัดลักษณะงาน” เหมันต์ดึงโทรศัพท์มือถือที่วัสสานเพิ่งกดวางไปกดเบอร์ของตัวเองแล้วโทรออก เมื่อรู้สึกถึงความสั่นที่กระเป๋าหลังก็กดวาง
วัสสานรับมันกลับมาแบบงง ๆ
“นั่นเบอร์ฉัน ถ้าฉันโทรไปแล้วมันดังครบสามครั้งแล้วยังไม่รับฉันจะหักเงินเธอ” สั่งเสร็จ ร่างสูงก็หมุนตัวกลับ แต่ก้าวเท้าไปได้เพียงก้าวเดียวก็หันกลับมาอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“อ้อ อีกเรื่อง ไปเก็บข้าวของย้ายไปอยู่ที่บ้านของฉัน เพราะฉันชอบทำงานตอนกลางคืน จะได้เรียกใช้สะดวก”
เมื่อสิ้นคำสั่งประโยคสุดท้ายร่างใหญ่ก็เดินลงส้นออกไป ปล่อยคนตัวเล็กไว้ให้ยืนงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อประมวลผลทุกอย่างได้ก็ให้ขนหัวลุกอีกครั้ง ร่องรักด้านหลังตอดรัดอีกหนเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองทุกคืน
เราต้องฝันแบบนั้นในขณะที่นอนอยู่ในบ้านของคนคนนั้นอย่างนั้นหรือ? เชี่ยแล้ว! เรนนี่!
“อ่าส์ อื้อ ซี้ด”
เสียงครางของผู้ช่วยคนใหม่ที่ดังทะลุฝาบ้านออกมาทำให้เจ้าของบ้านที่นั่งทำงานยาวมาตั้งแต่สี่ทุ่มจนเวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่ต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างหัวเสีย พอดูออกอยู่หรอกว่าเด็กนั่นเป็นรับในอุดมคติของรุกทั้งหลาย แต่ไอ้การครางเร่าร้อนข้ามคืนแบบนี้มันก็เกินไป
ทนฟังมานานจนเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จากคุกกรุ่นอาจเปลี่ยนเป็นรุ่มร้อนได้ถ้าวัสสานยังครางไม่หยุด
เสียงกำปั้นทุบลงบนฝาบ้านจึงดังสนั่นในยามย่างเข้าตีหนึ่ง คนฝันหวามถึงกับสะดุ้งร่างค้างอยู่กลางอากาศ
อย่าให้เสียงโทรศัพท์ดังเกินสามครั้ง อย่าให้เรียกเกินสามคำ อย่าให้เคาะประตูเกินสามกำปั้น วัสสานจำได้ขึ้นใจ คิดว่าเจ้านายใจร้ายคงเรียกใช้ยามดึกอย่างที่ขู่ไว้ เด็กน้อยจึงรีบลนลานลงจากเตียงโดยที่ไม่ทันได้สำรวจตัวเอง เมื่อลงมาได้ก็พุ่งตัวไปเปิดประตูทันที
“ครับอาเหม”
แต่เมื่อขานรับออกไปนานกว่านาทีก็ไม่มีวี่แววว่าคนตรงหน้าจะสั่งอะไร นอกจากอาการตัวแข็งทื่อ ใบหน้าหล่อขึ้นสีเข้ม และนัยน์ตาทอประกายวับวามแปลก ๆ วัสสานก็ได้แต่เอียงคออย่างรอรับคำสั่ง
แต่เด็กน้อยหารู้ไม่ว่าท่าทางเหล่านั้นกำลังทำคนแก่เสียอาการ
แม้จะพยายามบังคับสายตาให้ตรึงอยู่แค่วงหน้าหวาน แต่เหมันต์ก็ยังเห็นทุกอย่างตรงหน้าชัดเจนทุกรูขุมขน
ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลเข้มที่เคยทิ้งตัวพริ้วไหวอย่างเป็นระเบียบ บัดนี้ยุ่งเหยิงไร้ทิศทางแต่กลับให้ความรู้สึกยั่วยวนจนไม่อาจละสายตา
ดวงตากลมโตสีเดียวกับเส้นผมที่เคยสดใส บัดนี้ฉ่ำปรือแต่ให้ความรู้สึกน่าหลงใหล หากว่าหลงจ้องมองนาน ๆ ก็อาจละลายกลายเป็นขี้ผึ้งที่ถูกลนไฟ
ริมฝีปากสีแดงสดยังคงแดงเหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มเติมคือความมันวาวเพราะมันถูกเคลือบด้วยน้ำลายของเจ้าของที่เผลอแลบลิ้นออกมาเลียโดยไม่รู้ตัว
และสุดท้าย ผิวเนื้อเนียนลออตาที่เหมันต์เคยได้เห็นเพียงบางส่วนที่โผล่พ้นเสื้อผ้า แต่บัดนี้มันไม่มีอะไรบิดบังแม้แต่ชิ้นเดียว!
และเหมันต์รู้ดีว่าหากเขาหลุบสายตาลงต่ำกว่านี้อีกเพียงนิดเขาจะได้เห็นกับอะไร!
อาการตะลึงงันของคนตรงหน้าพาให้หัวใจดวงน้อยของคนตัวเล็กกว่าวูบวาบขึ้นลงรุนแรง แต่ทว่าลมหนาวที่โชยมาปะทะผิวเนื้อกลับทำให้มันร่วงลงดังตุบไปถึงตาตุ่มเลยทีเดียว
ดวงตากลมโตฉ่ำปรือต้องเบิกกว้างหลังก้มลงมองร่างกายเบื้องล่างแล้วเงยใบหน้าขึ้นมาเจอกับสายตาของคนในฝัน
“อาเหม!!!”
