บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 แรกพบ ประสบพักตร์ ก็หลงรัก จนหลงลืม 2/2

เหมันต์ชะงักใบหน้าคมที่กำลังซุกลงบนซอกคอของนางแบบสาวอย่างอารมณ์เสีย เมื่อสายตาปะทะเข้ากับเจ้าหัวขโมยที่กล้าเข้ามาย่องเบาบนเรือนของเขากลางวันแสก ๆ แม้จะขัดใจที่ถูกขัดจังหวะ แต่การเล่นหนังสดบนเรือนให้คนแปลกหน้าดูคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนัก ไม่รู้ว่าไอ้หัวขโมยนั่นจะมีสมาร์ทโฟนไว้แอบถ่ายหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ มันหนีไปไหนไม่ได้แน่หากยังขังตัวเองไว้ในห้องนอนของเขา เพราะหน้าต่างทุกบานมีลูกกรงไม้แกะสลัก หากจะออกไปจากที่นี่ก็ต้องออกทางประตูเท่านั้น

เหมันต์จึงค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างใจเย็น สองมือติดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดออกจนเกือบหมดด้วยฝีมือของนางแบบสาว แต่สายตาคมยังคงจ้องไปที่ประตูห้องนอนไม่วางตา

“หยุดทำไมคะคุณเหม” นางแบบสาวขมวดคิ้วมุ่นอย่างขัดใจ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแท้ ๆ พ่อเจ้าชายน้ำแข็งก็เปลี่ยนใจ

“กลับไปก่อน” น้ำเสียงเย็นของชายในฝันของสาวค่อนเมืองนนท์เอ่ยออกมาอย่างไม่หยี่ระ ไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายที่กำลังค้าง

แต่หากดื้อดึงไม่เชื่อคำเธออาจจะไม่ได้ในสิ่งที่ฝัน มันตราจึงยอมถอยก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแย้มแสดงว่าไม่เป็นไร

“ถ้าอย่างนั้นมิ้นกลับก่อนนะคะ แล้วเจอกันค่ะ” นางแบบสาวเขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตปลายคางสาก ก่อนจะมองหารองเท้าสีแดงอีกข้างที่เธอเหวี่ยงกระเด็นไปไกล

เหมันต์เดินมาส่งคู่ขาจนถึงประตูรั้วชาน เมื่อนางแบบสาวเดินลงไปจนถึงเชิงบันไดเขาก็ลั่นกลอนอย่างแน่นหนา แววตาหมายมาดหากมีทรัพย์สินแม้สักชิ้นบนเรือนนี้สูญหาย ไอ้หัวขโมยมันต้องตาย!

วัสสานลุกลี้ลุกลนเดินวนอยู่ในห้องนอนใหญ่ สายตามองหาทางรอดที่จะออกไปจากเรือนหลังนี้

“นี่มันอะไรกัน ผู้ชายคนนั้น” มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นมากุมหัวใจ หัวใจในอกที่มันเต้นแรงขึ้น แรงขึ้น ตามเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาของคนนอกห้อง

ร่างบางทะยานไปที่หน้าต่างบานใหญ่ ในใจภาวนาให้ลูกกรงไม้เหล่านั้นมันถอดออกได้ แต่ดูเหมือนอะไร ๆ จะไม่เป็นใจ ลูกกรงไม้ถูกขัดลงล็อกไว้อย่างแน่นหนา คงต้องใช้เลื่อยไฟฟ้านั่นแหละเขาถึงจะออกไปได้

เสียงฝีเท้าด้านนอกเงียบไป เสียงหัวใจของเด็กหนุ่มจึงค่อย ๆ เต้นเบาลงไปด้วย นานหลายนาทีจนมั่นใจว่าไม่มีการเคลื่อนไหว หรือว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้เห็นเขาอย่างที่เข้าใจ

แม้จะเป็นไปได้ยากในเมื่อวัสสานมั่นใจว่าได้ประสานสายตา แถมเขายังเห็นใบหน้าคุ้นตานั้นเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดเมื่อรับรู้ได้ว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญ

เด็กหนุ่มทำใจดีสู้เสือมองโลกสวยราวกับอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ เขาคนนั้นคงไปแล้วกระมังด้านนอกจึงได้เงียบเชียบ ร่างบางจึงค่อย ๆ ยกกลอนประตูแล้วแง้มมันออกให้ได้ระยะห่างไม่ต่างจากครั้งแรก

แต่ทันทีที่รู้สึกถึงมวลอากาศด้านนอกลอยเข้ามาปะทะบานประตูกลับเคลื่อนที่ไวกว่า เพราะมันถูกผลักเข้ามาปะทะใบหน้าหวานอย่างจัง

“โอ๊ย!”

ร่างเล็กหงายหลังลงวัดพื้นในทันที หากไม่มีแขนแกร่งมาคว้าเอวไว้ หัวทุย ๆ ต้องฟาดพื้นเลือดสาดเป็นแน่

เด็กหนุ่มหลับตาปี๋รอรับแรงกระแทกเพราะร่างทั้งร่างหงายเงิบอย่างไม่สามารถควบคุมได้ แต่เมื่อแน่ใจว่าหัวไม่ได้ฟาดพื้นอย่างที่คิดจึงรีบเปิดเปลือกตาขึ้น แต่ถ้ารู้ว่าลืมตาขึ้นมาจะพบใบหน้าของอีกคนอยู่ห่างแค่คืบแบบนี้สาบานว่าเขาจะไม่มีทางเปิดเปลือกตาออกมาเลย สู้กัดลิ้นตายไปเลยยังจะดีเสียกว่า

แต่คนที่เสียอาการมากกว่ากลับเป็นเจ้าของใบหน้าคมเข้ม เหมันต์สะดุ้งราวกับถูกของร้อนเมื่อได้สบสายตากับเจ้าของใบหน้าเล็กสวยหวานเต็มสองตา สิ่งที่ตามมาคือร่างบางถูกผลักกระเด็นจนหัวเกือบฟาดพื้นจริง ๆ

วัสสานถอยร่นจนไปชนขอบเตียง ใบหน้าหวานแสดงอาการตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งใกล้ ยิ่งชัดเจนทุกรูขุมขน คนตรงหน้าคือชายในฝันไม่ผิดแน่

ภาพความฝันเลื่อนผ่านห้วงความทรงจำภาพแล้วภาพเล่า ทุกท่วงท่า ทุกลีลา บนเตียง บนพื้น ในห้องน้ำ และขอบหน้าต่าง ทุกที่ในห้องนี้และคนคนนี้ที่ร่วมรักกับเขาอย่างเมามันในฝัน ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือวัสสานชอบมัน ชอบจนสุขสมจริง ๆ ทุกคืน

เพียงแค่คิดร่องรักก็ตอดรัดหนุบหนับ ของเหลวปริ่มจะหลั่งออกมาจนเจ้าตัวรู้สึกได้ น่าอายจนต้องกอดเข่าตัวเองเอาไว้ ทั้งตกใจทั้งกลัวจนลุกขึ้นไม่ได้ก้าวขาไม่ออก ได้แต่ทรุดอยู่ตรงข้างขอบเตียงนั่น

ฝ่ายเหมันต์ยังคงตกตะลึงไม่หาย ใบหน้าคมส่ายไปมาแววตาทอประกายบางอย่างที่วัสสานอ่านมันไม่ออก แต่รู้สึกได้ว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขานึกกลัว

“คือ คือผม” เด็กหนุ่มอึกอักพยายามหาคำอธิบายว่าเขาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้อย่างไร “ผมมากับเพื่อนที่อยู่บ้านวรภัทร ผมคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของคุณย่าพุดซ้อนก็เลยจะเข้ามากราบท่าน ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเป็นบ้านของคุณ เห็นว่าอยู่ในรั้วเดียวกัน”

คำอธิบายของผู้บุกรุกทำให้เหมันต์ได้สติ สายตาคมหรี่ลงมองคนตัวเล็กอย่างประเมิน

เด็กคนนี้เป็นเพื่อนของหลานสาวที่จะมาช่วยงานพี่สะใภ้ของเขาอย่างนั้นหรือ แต่ทำไมถึงได้เหมือน…

“เรนนี่อยู่นี่เอง ซัมเมอร์หาซะทั่วเลย”

แต่แล้วเสียงใส ๆ ของหลานสาวก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ หญิงสาวในชุดนักศึกษายืนเกาะขอบประตูชะโงกหน้าข้ามธรณีเข้ามาถามอย่างสงสัย “ว่าแต่… ทำไมมาอยู่ในห้องนอนของอาเหมได้ล่ะ”

วัสสานวิ่งออกไปแอบหลังเพื่อนรักอย่างเสียขวัญ แต่ก็ไม่ลืมถามย้ำสิ่งที่ได้ยินจากปากเพื่อนสาว

“นี่อาเหมของซัมเมอร์เหรอ”

“อื้ม” เพื่อนสาวพยักหน้า ก่อนจะหันไปหาอาหนุ่มแล้วแนะนำทั้งสองให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ “อาเหมคะ นี่เรนเพื่อนของซัมเมอร์ที่จะมาทำงานกับคุณแม่ช่วงปิดเทอมค่ะ ส่วนนี่อาเหมที่ซัมเมอร์เคยเล่าให้เรนนี่ฟังไง หล่อป่ะ” หญิงสาวเอียงคอถามเพื่อนรักด้วยสายตาซุกซน

“สวัสดีครับอาเหม” วัสสานยกสองมือขึ้นพนมตรงกลางอก ก้มศีรษะลงเล็กน้อยแต่หากดวงตาสีน้ำตาลเข้มกำลังมองคนตรงหน้าด้วยแววตาบางอย่าง

ฝ่ายคนที่ถูกเรียกว่าอาไม่เพียงจะไม่รับไหว้ แต่กลับปิดประตูใส่พร้อมกับเสียงเย็นเยียบ

“พาเพื่อนออกไปซะ อาจะพักผ่อน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel