Ep.5
“ให้หวานไปนอนเฝ้าเป็นเพื่อนไหมจ๊ะ”
“ไม่ต้องจ้ะ หวานแค่เอาชุดมาให้แล้วกลับไปนอนที่บ้านตามเดิม ฝากหากับข้าวกับปลาให้คุณคีสเขาด้วย อีกอย่างตอนเช้าหวานก็ต้องรีบเปิดร้านขายดอกไม้ พรุ่งนี้วันพระลูกค้าคงจะเยอะแต่เช้า อ้อพี่อนุญาติให้เข้าไปนอนอีกห้องนะ”
“ได้จ้ะพี่นาง เดี๋ยวหวานจะรีบเอาชุดไปให้นะคะ ว่าแต่พี่นางมีกับข้าวเย็นหรือยังจ๊ะ หวานจะได้ทำไปให้”
“ไม่ต้องทำอะไรมาให้จ้ะ เอาแค่ชุดกับเครื่องสำอางที่จำเป็นก็พอ”
“ได้ค่ะได้ เดี๋ยวหวานจะรีบไปค่ะ”
ผักหวานรีบจัดการทุกอย่างรวดเร็วตามที่นวลนางสั่ง หากับข้าวไว้ให้คีส แล้วโทรหาเกรียงไกรที่มีรถยนต์ให้มารับเธอไปโรงพยาบาล ซึ่งสารถีหนุ่มก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
กระทั่งเวลาสามทุ่มกว่าๆ เกรียงไกรก็ขับรถมาส่งแฟนสาวจนถึงบ้าน พอลงจากรถเกรียงไกรก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มนวลทีหนึ่งตอนที่หญิงสาวกำลังเผลอ
“ว้าย! พี่เกรียงทำไมทำแบบนี้ หวานโกรธจริงๆแล้วนะ”
“ฝันดีจ้ะหวาน” เกรียงไกรหน้ามึน เขาไม่โกรธถ้าผักหวานจะหน้าบึ้งใส่เขา ชายหนุ่มยิ้มและผิวปากเดินไปเปิดประตูรถแล้วสตาร์ทออกไปอย่างอารมณ์ดี
แต่คนที่ถูกขโมยหอมแก้มนี่สิ ยังโกรธกรุ่นไม่หาย เธอเริ่มไม่ชอบใจคนที่เริ่มมือไวอย่างเกรียงไกรแล้วสิ เมื่อก่อนออกจะเป็นสุภาพบุรุษ แต่วันนี้ดูเขาเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน
ร่างเล็กในชุดกระโปรงสั้นแค่เข่าเดินขึ้นบันไดบ้าน พอเงยขึ้นก็สบตาคมวาบวับของร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตูที่เปิดรอนานแล้วตั้งแต่รถยนต์คันที่เพิ่งผ่านไปมาจอดสนิทอยู่หน้ารั้วบ้าน
“คุณคีส!”
ผักหวานมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาประหม่า การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังสองคนในบ้านคืนนี้ทำให้คนที่เพิ่งเป็นสาวเต็มตัวรู้สึกแปลกๆ เธอมองไม่ออกหรอกว่าเขามองเธอด้วยความรู้สึกแบบไหน ทว่าดวงตาคมกล้าที่จ้องเธอนิ่งๆแบบไม่พูดไม่จานั้นก็ทำให้เธอใจเต้นได้เหมือนกัน
ต้องยอมรับว่าผู้ชายของเจ้านายสาวเป็นฝรั่งที่หน้าตาดีมาก ดีจนทำให้สาววัยรุ่นอย่างเธอหน้าร้อนผ่าวเมื่ออยู่ใกล้และสบตาแบบนี้ ผักหวานไม่กล้าสบตาเขาเต็มๆนักหรอก เธอเจียมตัวและเจียมใจมาตลอดว่าห้ามคิดอะไร ห้ามรู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้ทั้งนั้นเพราะเขาเป็นของนวลนาง
ร่างเล็กตั้งใจเดินอ้อมร่างสูง พลางก้มหน้าเข้าไปในบ้านแต่ก็ถูกมือกร้านจับข้อมือเอาไว้
“เธอ เขา เป็นคนรัก กันเหรอ” คีสพยายามที่จะถามเป็นภาษาไทย ผักหวานส่ายหน้าไว้ก่อน เพราะเธอกับกรียงไกรเพิ่งจะคบหาดูใจกัน เธอยังไม่ได้ตอบตกลงเป็นอะไรกับเขาเลย มีแต่คนอื่นคิดกันไปเองทั้งนั้น
“แล้ว ทำไมถึง...” เขานึกคำพูดไม่ออก แต่จ้องมองหญิงสาวด้วยเครื่องหมายคำถาม ผักหวานก็พอจะเข้าใจ
“คือ ที่คุณเห็นมัน...มันไม่ใช่ หวานขอตัวไปนอนก่อนนะคะ” เธอตอบออกไปโดยไม่สนใจว่าเขาจะฟังภาษาไทยออกไหม แล้วก็รีบเดินตรงไปยังห้องของตนเอง แต่ก็ถูกร่างใหญ่เดินไปขวางหน้าเอาไว้อีกจนได้
“ผักหวาน” เรียกเสียงทุ้ม ดวงตาคมเป็นประกาย มีแววขี้เล่นแฝงไปด้วยแววหยอกเย้าอยู่ในนั้น จนคนถูกมองชักไม่ไว้ใจ
“คุณคีส หวานขอทางหน่อยค่ะ” ชายหนุ่มแกล้งฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ทั้งที่พอจะเดาออกว่าที่สาวน้อยพูดหมายความว่าอะไร ดูท่าทางของเธอก็พอจะรู้ แต่ก็อยากแกล้งเด็กสาวแก้เซ็งที่คืนนี้นวลนางปล่อยให้เขานอนอ้างว้างคนเดียว
“ผักหวาน สวยขึ้นมากนะ” พยายามไม่ออกเสียงเพี้ยนเพื่อทำลายบรรยากาศ
ผักหวานเริ่มใจเต้นแรงไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าประหม่า หรือว่าอะไรเธอก็บอกไม่ได้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไรกันแน่
กลิ่นน้ำหอมแนวสปอร์ตหลังการอาบน้ำ ทำให้ผักหวานหลงสูดดมเข้าไปเล็กน้อย มันทำให้ใจเธอหวั่นไหวแปลกๆ
และตกใจจนผงะเมื่อถูกปลายนิ้วอุ่นๆ เชยคางขึ้นมา เธอรีบขืนตัวออกทันทีราวกับถูกของร้อนลวก ใจเต้นตุ้บๆ มองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจมากขึ้น อยากจะรีบเดินเข้าห้องของตนเองที่นวลนางอนุญาตให้เข้าไปนอนได้แล้วล็อกประตูใส่กลอน แต่มันก็ติดตรงที่ร่างสูงยืนขวางประตูเอาไว้
แล้วอยู่ๆเขาก็หลีกทางให้ แต่พอเธอกำลังเอื้อมมือบิดลูกบิดก็ถูกมือหนากุมมือเอาไว้ ยืนประกบชิดทางด้านหลัง ทำเอาสาวน้อยใจสั่น หวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พอหันหน้ากลับมา หน้าอกก็ชนเข้ากับกล้ามเนื้อแน่นของเขา มือใหญ่สองข้างก็ยกขึ้นยันฝ่ามือกับบานประตูเอาไว้
สาวน้อยที่แพ้ความหล่อใจเต้นแรงมากขึ้น แม้จะท่องในใจทุกวินาทีว่าไม่ควรรู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้ พยายามท่องตลอดว่าเขามีเจ้าของแล้ว พยายามจะมุดลอดใต้วงแขนหนีแต่คีสก็รู้ทัน เขาหัวเราะเสียงต่ำในลำคออย่างชอบใจ
“ปล่อยหวานออกไปนะ ไม่งั้นหวานจะฟ้องพี่นาง”
เขาฟังไม่รู้เรื่อง แถมยังชะโงกหน้าเข้าไปใกล้อีก ผักหวานพยายามเบนหน้าหนี ยันมือเล็กกับอกแกร่งสุดแรง แต่ก็พลาดตกไปอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงเต็มๆจนแทบกระดุกกระดิกไม่ได้
