บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

“จับตัวเธอไปส่งตำรวจ”

“คนที่ต้องถูกจับไปส่งตำรวจก็คือคุณต่างหาก ไอ้โจรขโมยกระเป๋า!”

“คนอย่างฉันไม่ต้องขโมยกระเป๋า ไม่ต้องทำอะไรก็มีกินได้สบายๆ ตลอดชีวิต” ดวงตาคู่คมจ้องมองคนตรงหน้าตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า “แผนขโมยกระเป๋าเงินนี่ใช้ได้นะ แต่ฉันไม่นิยมผู้หญิงเอเชียเท่าไหร่ เสียใจด้วย”

“คุณพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ”

“อ้าว!...ก็นี่เป็นแผนของคุณไม่ใช่เหรอ ผู้หญิงหลายคนที่พยายามเข้าใกล้ฉันมักจะหาเหตุผลสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาดึงดูดความสนใจฉัน แต่ฉันขอยอมรับเลยนะว่าเรื่องที่เธอสร้างขึ้นครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเกินครึ่ง เพราะฉันสนใจในตัวเธอแต่สนใจที่จะจับตัวเธอส่งตำรวจนะไม่ใช่ขึ้นเตียง”

“โอ๊ย! จะบ้ากันไปใหญ่ละ ฉันถูกโจรกระฉากกระเป๋าที่ลานหน้าหอนาฬิกาไซท์คล็อกแล้ววิ่งตามมาถึงที่นี่ แล้วก็เห็นคุณแต่งตัวเหมือนกับคนที่กระชากกระเป๋าของฉันไปต่างหากละ ไม่ได้สนใจคุณเลยสักนิด”

“อ้อ.. ก็ดี งั้นคุณช่วยชดใช้ค่าเสียเวลาและค่าบาดเจ็บให้กับผมด้วย เพราะตอนนี้คุณทำให้ผมต้องเดินทางไปเจรจาธุรกิจล่าช้าไปเกือบยี่สิบนาทีเข้าไปแล้ว และทำให้บริษัทเกิดความเสียหายซึ่งคิดเป็นมูลค่าเงินมากมายมหาศาล”

“ฉันไม่มีเงินชดใช้คุณหรอกนะ ตอนนี้กำลังถังแตกเพราะถูกคนขโมยกระเป๋าไปแล้ว ถ้าคุณไม่ใช่โจรที่ขโมยกระเป๋าฉันก็ขอโทษด้วยก็แล้วกัน แล้วฉันจะหาทางชดใช้ค่าเสียเวลาที่ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ เอางี้...ฉันขอนามบัตรคุณไว้ได้ไหม ถ้าฉันได้กระเป๋าฉันคืนเมื่อไหร่ฉันจะรีบติดต่อกลับมาให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้ช่วยบอกคนของคุณให้ปล่อยฉันก่อนได้ไหม เพราะฉันจะรีบไปตามหาคนร้ายตัวจริง ไม่รู้ว่าตอนนี้หนีไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”

ของขวัญส่งสายตาอ้อนวอนชายหนุ่ม ในเมื่อเขาไม่ใช่คนร้ายอย่างที่เธอเข้าใจเธอก็ไม่มีธุระอะไรที่จะต้องคุยกับเขาแล้ว สิ่งที่เธอต้องทำคือรีบไปแจ้งความและรีบตามหาคนร้ายตัวจริงที่ขโมยกระเป๋าของเธอไปให้เร็วที่สุด เพราะในนั้นมีของสำคัญทุกอย่างของเธอทั้งหมด ทั้งเงิน ทั้งคีย์การ์ด สวิตพาส หรือแม้แต่บัตรประชาชนของเธอก็อยู่ในนั้น หากไม่มีกระเป๋าใบนั้นเธอก็กลายเป็นคนเถื่อนที่ไม่มีหลักฐานอะไรติดตัวสักอย่างเลยนะสิ

“ละครจบแล้ว เลิกพูดถึงโจรขโมยกระเป๋าอะไรนั่นได้แล้ว ที่นี่สวิตเซอร์แลนด์ดินแดนแห่งความสงบ เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมืองที่อาชญากรรมแทบจะติดลบแต่เธอนั่นแหละที่เป็นคนต่างชาติที่ไม่น่าไว้ใจ จับตัวเธอไปส่งตำรวจ”

“จะบ้าหรือไง เป็นประเทศที่สงบสุขแล้วไง อาชญากรรมติดลบแล้วไง ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่มีเลยนะคุณ ฉันพูดความจริง ฉันถูกขโมยกระเป๋าจริง ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ ฉันเป็นผู้เสียหายนะไม่ใช่คนร้าย ฉันไปหาตำรวจเองได้ไม่ต้องจับฉันไปส่งหรอก”

“เจ้านายครับ ทางโน้นโทรมาถามว่าเมื่อไหร่เจ้านายจะเข้าไปถึงครับ” ลูกน้องคนหนึ่งรีบวิ่งจากตัวอาคารทรงเก่าเข้ามารายงานเจ้านายหนุ่มที่ยังไปไม่ถึงที่นัดหมายกับลูกค้าคนสำคัญ

“บอกเขาไปว่าอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะไปถึง” ชายหนุ่มตอบกลับ ก่อนจะหันมาสั่งลูกน้องอีกสามคนที่กันจับตัวหญิงสาวไว้มั่น “เอาตัวเธอไปขังไว้ก่อน ฉันต้องไปพบลูกค้า แล้วค่อยกลับมาจัดการ”

“ครับ”/ “ครับ”/ “ครับ”

ลูกน้องทั้งสามทำตามคำสั่งของชายหนุ่มอย่างเคร่งครัด พวกเขาพาหญิงสาวเข้าไปขังไว้ในห้องห้องหนึ่งในตึกทรงโบราณที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนักแล้วล็อกประตูด้านนอกไม่ให้เธอออกมา ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปทำงานปล่อยให้คนในห้องร้องไห้โวยวายกับสิ่งที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอเพียงลำพัง

การเดินทางที่แสนวิเศษกลายเป็นดิ่งลงเหวไปได้ยังไง ไม่ได้อะไรคืนแล้วยังมาถูกจับขังไว้ในห้องแคบๆ แบบนี้อีก แค่เข้าใจผิดต้องลงมือกันถึงขนาดนี้เลยหรือไง ไหนบอกว่าคนที่นี่รักสงบ มีน้ำใจ ทำไมเรื่องราวมันถึงได้พลิกผันไปหมดแบบนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel