บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ความทรงจำทับซ้อน

“ราชครู ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ นางคงไม่ใช่คนที่ท่านตามหา” ย่วนเผิงเฟยดึงแขนฟางเซี่ยนเซี่ยนให้ไปหลบด้านหลัง

ซ่งเหวยซูย้ำอีกครั้ง “นางเป็นคู่หมั้นของข้า ในวันส่งตัวเจ้าสาวเป็นพวกเจ้าที่ดักปล้น หากไม่ยอมรับเช่นนั้นก็ต้องชดใช้”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนตาโต “พี่ใหญ่ย่วน คนผู้นี้หรือที่ท่านบอกว่าเป็นเจ้าบ่าวไม่ได้เรื่องของข้า มักมากในสตรีและเงินทอง หากเป็นเขาข้าไม่กลับ ข้าไม่รู้จักเขา”

ย่วนเผิงเฟยกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอ ก่อนที่เยว่หานจะสาวเท้าเข้ามากระซิบข้างหูเขาอีกฝั่งด้วยสีหน้าซีดขาว

“พี่ใหญ่ วันนั้นมีขบวนเจ้าสาวของสกุลจี้จริง ทว่าในวันเดียวกันก็มีขบวนเจ้าสาวของลูกสาวใต้เท้าฟางด้วยขอรับ ดูเหมือนว่าพวกเราจะปล้นผิดเสียแล้ว”

ย่วนเผิงเฟยใจเต้นระรัวประหนึ่งฟ้าถล่มลงตรงหน้า ที่แท้นางก็มิใช่ลูกคุณหนูธรรมดา ทว่ากลับเป็นถึงบุตรีของใต้เท้าฟางขุนนางที่ถือครองตำแหน่งจงซูเสิ่ง [1] ย่วนเผิงเฟยค่อย ๆ เหลียวมองสตรีข้างกายที่ยืนตาใส ดูเหมือนว่านางเองก็ความจำเสื่อม

แต่แล้วอย่างไร ในเมื่อตอนนี้นางไม่อยากกลับก็ต้องมีเหตุให้ทุกข์ใจแน่

“ท่านราชครู แต่เดิมข้าไม่เคยคิดอยากบาดหมางกับท่าน เพราะข้ารู้ดีว่าท่านเป็นขุนนางเที่ยงตรง มีมโนธรรม แต่อาเซี่ยนตอนนี้เป็นคนของข้าแล้ว”

ซ่งเหวยซูได้ยินก็ควันออกหู “บังอาจ! เจ้าพูดอะไรออกมา”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนโพล่ง “ใช่ ข้าเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเขาแล้ว ข้าไม่รู้จักท่าน ท่านกลับไปเสียเถิด”

ซ่งเหวยซูคล้ายถูกน้ำเย็นเยียบราดตั้งแต่ศีรษะลงสู่ปลายเท้า “เซี่ยนเอ๋อร์ เจ้ายังโกรธพี่อยู่อีกหรือ”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนเบือนหน้าหนี ราชครูซ่งผู้นี้หล่อเหลาก็จริง แต่ท่าทีหยิ่งผยอง อีกอย่างฟางเซี่ยนเซี่ยนทะลุมิติมาจากโลกอีกด้าน ย่อมไม่รู้ว่าเขาพูดเรื่องจริงหรือโกหก

“ข้าไม่รู้จักท่าน ข้าไม่กลับ”

ซ่งเหวยซูเจ็บปวดดั่งถูกเข็มนับร้อยล้านเล่มทิ่มลงตรงกลางหัวใจ เดิมทีเขาและนางสนิทสนมกันมาตั้งแต่เยาว์วัยเพียงแต่ในตอนที่เขาอายุได้สิบสามปีก็ต้องบอกลาเพื่อไปศึกษาต่อยังต่างแคว้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ส่งจดหมายกลับมาหานางทุกอาทิตย์แม้ไม่เคยได้รับการตอบกลับจากเจ้าตัวเลยก็ตาม

ซ่งเหวยซูคิดเพียงว่าฟางเซี่ยนเซี่ยนโกรธเคืองที่ตนต้องจากมาอย่างกะทันหัน เมื่อเขากลับมารับตำแหน่งราชครูจึงเร่งไปสู่ขอนางให้ถูกต้องตามประเพณี ใครจะไปรู้ว่าระหว่างทางส่งตัวเจ้าสาวจะเกิดการดักปล้นขึ้น เรื่องนี้คงต้องโทษเขาที่ไม่อาจดูแลนางได้ดีพอ

ซ่งเหวยซูถอนหายใจ จากแววตาระริกไหวแดงก่ำก็แปรผันเป็นดุดันน่าเกรงขาม “พี่ไม่สนว่าเจ้าคิดเล่นอุบายใดจึงบอกว่าจำไม่ได้ แต่เจ้าไม่นึกถึงจิตใจท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าบ้างหรือ พวกท่านกำลังรอเจ้ากลับไปอย่างมีความหวัง พวกท่านรักเจ้ามาก”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนสลดลง เป็นเช่นนั้นแล้วอย่างไร พ่อแม่ในมิติแห่งนี้ไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ ของนาง อีกอย่างนางเองก็กำพร้ามาตั้งแต่อายุยังน้อย อีกทั้งตอนนี้ฟางเซี่ยนเซี่ยนตัดสินใจเป็นสมาชิกอีกคนของค่ายโจร สำหรับยุคสมัยนี้แล้วจะมีบ้านใดกล้าอ้าแขนรับลูกสาวกลับไปกันเล่า

ฟางเซี่ยนเซี่ยนดูซีรีส์อ่านนิยายจีนโบราณมานักต่อนัก หากนางกลับไปไม่ถูกเฉดหัวก็ต้องถูกดูแคลน ครั้นนึกถึงนิยายโซนสมองของฟางเซี่ยนเซี่ยนก็บังเกิดความผิดปกติ คล้ายดั่งมีตัวอักษรกำลังวิ่งสลับวนไปมาจนชวนเวียนศีรษะ

ซ่งเหวยซู ราชครูซ่ง ท่านพี่ซ่ง ใคร? เขาเป็นใคร ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยแบบนี้

ฟางเซี่ยนเซี่ยนสลัดศีรษะเพื่อขับไล่ความฟุ้งซ่าน ย่วนเผิงเฟยเห็นท่าทีประหลาดของนาง เขากล่าวด้วยความเป็นห่วง

“อาเซี่ยน เจ้าเป็นอะไรไป”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนช้อนตามองตอบ “ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”

ทว่ายามนี้เสียงในโซนสมองกำลังตบตีกันจ้าละหวั่น

ท่านพี่ซ่ง ท่านพี่ซ่งช่วยข้าด้วย ท่านบอกจะปกป้องข้า แล้วท่านไปอยู่ที่ใด ท่านพี่ซ่งข้าไม่ไหวแล้ว…

ฟางเซี่ยนเซี่ยนรู้สึกว่าพื้นกำลังเอียงกระเท่เร่ ไม่รู้ว่าเสียงที่ดังก้องในหัวเป็นเสียงของใคร หากไตร่ตรองดี ๆ นี่มันคือเสียงของนางเองต่างหาก

“เซี่ยนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไร” ซ่งเหวยซูตกใจ ร่างสูงขยับเท้าเข้ามาใกล้อีกครั้ง ทว่าก็ถูกเหล่าลูกน้องของย่วนเผิงเฟยยืนกั้นเอาไว้ดั่งกำแพงมนุษย์

“ถอยไป”

ทุกคนไม่ขยับพลางกระชับอาวุธในมือแน่น “พวกเราไม่มีทางให้พี่ใหญ่ฟางไปกับเจ้าแน่นอน นางก็บอกแล้วว่าไม่อยากกลับ”

ซ่งเหวยซูกัดฟันกรอด “เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไร้ความปรานี”

ซ่งเหวยซูพลิกกระบี่จนเนื้อเหล็กต้องกระทบแสงจันทร์ ลำแสงสีทองสาดประกายวิบวับด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ

“จับกุม ใครต่อต้านสังหารให้สิ้น!”

ทหารได้ยินคำสั่งก็ดาหน้าเข้ามาไม่หวาดหวั่น ซ่งเหวยซูหวดกระบี่ไม่ยั้ง ผู้ใดขยับเข้าใกล้เขาก็ต้องเลือดอาบ บางคนทรุดตัวลงไปกองบนพื้นทั้งที่ยังไม่ได้แตะแม้เพียงปลายเส้นผมของเขา

เท้าสูงเยื้องย่างอย่างสุขุมประหนึ่งมัจจุราชจอมเหี้ยม ฟางเซี่ยนเซี่ยนเห็นพี่น้องนองโลหิตก็ตกใจ

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเราเหรอ

ย่วนเผิงเฟยบีบมือเนียนนุ่มเบา ๆ “อาเซี่ยนไม่ต้องกลัว หากเขาคิดพาเจ้ากลับต้องข้ามศพพวกเราไปก่อน”

กระบอกตาคู่งามร้อนรื้น กระนั้นเมื่อเหลียวมองอาวุธที่ต้องกระทบกันเสียงดังกึกก้องพร้อมกลิ่นโลหิตที่โชยมาตามสายลมฟางเซี่ยนเซี่ยนกลับบังเกิดความหวาดกลัว

นางกลัวว่าจะสูญเสียพวกเขาไปทั้งหมด คนที่เรียกฟางเซี่ยนเซี่ยนว่าพี่ใหญ่ค่อย ๆ ล้มลงดั่งใบไม้แห้งด้วยปลายกระบี่ของปีศาจ

ซ่งเหวยซูตีฝ่ากำแพงมนุษย์เข้ามาจนประชิดตัวคนทั้งสอง กระทั่งย่วนเผิงเฟยเข้าปะทะกับซ่งเหวยซูฟางเซี่ยนเซี่ยนจึงได้สติ ยามนี้ใบหน้าของราชครูซ่งกระจ่างชัดอย่างมาก จู่ ๆ ความทรงจำแปลก ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย

ฉัวะ!

แขนซ้ายของย่วนเผิงเฟยถูกเฉือนจนเลือดกระเซ็น นัยน์ตาดอกท้อเบิกกว้างตื่นตระหนก ก่อนที่กระบี่คมปลาบจะสะบั้นลงมาอีกครั้ง ร่างระหงก็ทะยานเข้าบังหน้าบุรุษร่างสูงเอาไว้

“อย่า ท่านพี่ซ่ง ท่านอย่าทำเขา ได้โปรดยั้งมือด้วย” ฟางเซี่ยนเซี่ยนกางมือออกพลันหลับตาแน่น

ซ่งเหวยซูมือสั่นระริก เขาลดกระบี่ลงแช่มช้า “เพราะเหตุใด เจ้าถูกเขาจับตัวมาจนเป็นเช่นนี้ ไยเจ้าจึงคิดปกป้องเขา”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนทนไม่ไหวแล้ว นางหวาดกลัวแทบบ้า เคยเห็นฉากบู๊แค่เพียงในซีรีส์ ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาประสบพบเจอในชีวิตจริง หนำซ้ำยังมีความทรงจำแปลก ๆ ซ้อนทับขึ้นมา

ฟางเซี่ยนเซี่ยนเหลียวมองย่วนเผิงเฟยที่กำลังยืนหอบหายใจถี่ระรัว “พี่ใหญ่ย่วน ท่านไหวหรือไม่”

แม้บาดแผลนั้นลึกมากย่วนเผิงเฟยก็ยังคลี่ยิ้มให้นาง “ข้าไม่เป็นไร แผลแมวข่วนเท่านั้น”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนพยักหน้า จากนั้นย้ายสายตามองจลาจลที่เกิดขึ้น หากนางไม่หยุดมัน จะต้องมีการสูญเสียมากไปกว่านี้แน่

“ท่านพี่ซ่ง ข้าจะกลับไปกับท่าน ได้โปรดหยุดทำร้ายพวกเขาได้หรือไม่”

ซ่งเหวยซูจ้องแววตาระริกไหวที่พร้อมจะร่ำไห้อย่างไม่เข้าใจ เขาหวาดกลัวว่าคนที่ตนรักจะปันใจให้โจรไปแล้ว

เสียงใสกล่าวอีกครั้ง “ท่านพี่ซ่ง ข้ายอมแล้ว อย่าทำร้ายพวกเขา ได้โปรดสั่งให้ทหารเหล่านั้นหยุดได้หรือไม่”

“อาเซี่ยน ไม่ต้อง! หากเขาอยากได้ตัวเจ้าก็ต้องข้ามศพพวกเราไปก่อน” ย่วนเผิงเฟยเอื้อมมือหมายคว้าแขนเล็กให้ไปหลบด้านหลัง ทว่ากลับช้ากว่าบุรุษฝั่งตรงข้ามไปครึ่งก้าว

แขนแกร่งคว้าร่างระหงเข้าไปสวมกอดแนบกาย ฟางเซี่ยนเซี่ยนตัวแข็งทื่อประหนึ่งดินปั้นไม้แกะสลัก

“หยุด!”

อาวุธที่ตีปะทะกันสงบลงแล้ว ฟางเซี่ยนเซี่ยนแหงนมองบุรุษข้างกายแช่มช้า เขาลดสายตามองตอบนางพลางกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น

ความทรงจำที่ผุดเข้ามาทำให้นางเกิดความสับสน ดูเหมือนว่านี่เป็นความทรงจำเจ้าของร่างเดิม แต่นางก็มีรูปร่างคล้ายกับฟางเซี่ยนเซี่ยนทุกกระเบียดนิ้ว หนำซ้ำอีกฝ่ายยังเรียกนางว่าเซี่ยนเอ๋อร์

หรือว่านี่เป็นตัวเราในอีกมิติ

ยิ่งจ้องแววตาคมเข้มลึกเข้าไปหัวใจของนางก็ยิ่งสั่นคลอน ริมฝีปากสีกุหลาบขยับเอ่ยเสียงแผ่ว “ท่านพี่ซ่ง ไว้ชีวิตพวกเขาได้หรือไม่เจ้าคะ”

ย่วนเผิงเฟยเห็นภาพคนทั้งสองที่ยืนแนบชิดก็รู้สึกปวดใจอย่างน่าประหลาด ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดกับนางแค่เพียงพี่น้องเสียแล้ว

“ได้ ข้าจะไว้ชีวิตพวกเขา แต่พวกเขาจะต้องถูกคุมตัวเข้าคุกหลวง”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนกวาดสายตามองทุกคนที่ตกเป็นรอง หากไม่ยินยอมพวกเขาต้องตายแน่นอน ขึ้นชื่อว่าโจรก็ผิดอย่างไม่ต้องสงสัย

ฟางเซี่ยนเซี่ยนพยักหน้า “อือ”

ย่วนเผิงเฟยเสียใจประหนึ่งฟ้าถล่มลงตรงหน้า ฟางเซี่ยนเซี่ยนเห็นความบอบช้ำในแววตาของเขา แม้พวกเขาถูกจับอย่างน้อย ๆ ก็ยังมีโอกาสรอด

ถึงอย่างไรพวกเขาก็เปรียบดั่งพี่น้องของนางแล้ว ฟางเซี่ยนเซี่ยนจะต้องคิดหาวิธีช่วยเหลือพวกเขาให้จงได้

ไม่ทันเอ่ยปากกับย่วนเผิงเฟยอีกครั้ง เท้าของนางก็ลอยหวือไม่ติดพื้น กระทั่งหลุดจากภวังค์จึงรู้ว่าซ่งเหวยซูอุ้มนางขึ้นจนตัวลอย

“ทำอะไรเจ้าคะ”

“อย่าขยับ กลับไปเรามีเรื่องต้องคุยกัน”

เชิงอรรถ

1. ^จงซูเสิ่งหรือเสนาบดีสำนักราชเลขานุการ(中書省)

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel