บท
ตั้งค่า

ท่านกำลังทำให้ข้าเป็นนางมาร

“ท่านแม่อย่าได้กล่าวเช่นนี้เจ้าค่ะ สามีภรรยาที่ไม่มีความรักต่อกัน เพียงแค่หย่าร้างกันไปเริ่มชีวิตใหม่ ถึงข้าจะไม่ใช่ลูกสะใภ้ของตระกูลซูแล้ว ข้าก็ยังนับถือท่านเป็นมารดาอีกคนเจ้าค่ะ”

ซุนเหยาพยายามเกลี้ยกล่อมแม่สามีของนาง เพื่อให้เข้าใจว่านางกับซูเซวียนมิอาจอยู่ด้วยกันได้ ในเมื่อเขามีสตรีที่เขาพึงใจ นางก็เพียงแค่ถอยออกมาก็เท่านั้น

หงอี้มองนางอย่างชื่นชม แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อมาใบหน้าของนางก็แข็งค้างบิดเบี้ยวไปเลย

“ตอนนี้ก็นับว่าท่านแม่ทัพซูเป็นลูกกตัญญูต่อท่านแล้ว ครั้งนี้เขากลับมายังพาลูกสะใภ้มาให้ท่านด้วยเห็นหรือไม่เล่าเจ้าค่ะ”

“เหอะ จะมีสตรีใดสู้เจ้าได้อีก ทั่วทั้งเมืองยังหาไม่พบ แล้วนี่ไปคว้ามาจากที่ใดข้าก็ไม่รู้” หลีซื่อหรี่ตามองหงอี้อย่างมุ่งร้าย

หงอี้สะกิดซูเซวียนพร้อมทั้งสายตาอ้อนวอนเขา ขอให้พูดความจริงได้แล้ว นางไม่อยากถูกมองเช่นนี้อีกแล้ว

“เช่นนั้นเรื่องของอี้เออร์เอาไว้ก่อนขอรับ จ้าวซุนเหยา หากเจ้ามิใจแคบจนเกินไป ข้าจะพิจารณาเรื่องหย่ากับเจ้าอีกที”

“ไม่ต้องให้ท่านพิจารณาเรื่องนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าต้องการหย่า” ซุนเหยาปรายตามองซูเซวียนอย่างนึกรังเกียจ

มีสิทธิ์อันใดจะมาตัดสินใจเองเรื่องจะหย่าหรือไม่หย่า ยิ่งนางนึกถึงคำพูดของเขาในวันที่แต่งงาน ก็ยิ่งไม่อยากจะเห็นหน้าของเขา

“ท่านแม่ ท่านได้ยินแล้วหรือไม่ขอรับ เป็นนางที่ต้องการจะหย่าขาดจากข้า”

“อาเหยา” หลีซื่อเอ่ยเรียกซุนเหยาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

“เจ้ากลับมาอยู่ที่เมืองหลวงนานเพียงใด” หลีซื่อหันมาถามบุตรชาย

“หนึ่งเดือนขอรับ”

“เช่นนั้นหนึ่งเดือน พวกเจ้าลองใช้ชีวิตด้วยกันเสียก่อน หากอยู่ด้วยกันไม่ได้จริง แม่จะยอมให้พวกเจ้าหย่า อาเหยาถือว่าเห็นแก่แม่สักครั้งเถิด”

ซุนเหยาก้มหน้าลงซ่อนสายตาที่ไม่ยินยอมของนาง ต่อให้หลบสายตาของหลีซื่อได้ แต่ก็ไม่อาจหลบสายตาที่คมดุจเหยี่ยวของซูเซวียนไปได้

“เจ้าค่ะ” นางจำต้องรับปาก

“ดีดี จัดเรือนให้นางไปอยู่ที่ท้ายจวน ส่วนเจ้าลูกเต่า เจ้าอยู่ที่เรือนเดียวกับอาเหยา อย่าได้คิดไปเหยียบที่เรือนท้ายจวนเป็นอันขาด”

“แต่ว่า” ซุนเหยารีบเอ่ยแย้ง

“เพียงเดือนเดียวเท่านั้นอาเหยา แล้วแม่จะไม่บังคับเจ้าอีกเลย”

หงอี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก นางยอมอยู่ที่เรือนท้ายจวนตลอดทั้งเดือนยังดีกว่าที่จะมาอยู่รวมกับท่านแม่ของท่านแม่ทัพ

“อี้เออร์ ข้าจะไปส่ง” ซูเซวียนไม่อาจขัดใจมารดาได้อีก เพราะกลัวว่านางจะกระอักเลือดอีกครั้ง

เขามีเรื่องที่จะพูดกับหงอี้ให้กระจ่าง จึงต้องไปส่งนางด้วยตนเอง แกลายเป็นว่าการแสดงออกของเขาเช่นนี้ ทำให้หลีซื่อกับซุนเหยาคิดว่าเขาพึงใจต่อหงอี้นางมากนัก

“อาเซวียนเจ้า”

“ท่านแม่ อย่าได้ห้ามท่านแม่ทัพเลยเจ้าค่ะ เท้านี้ท่านแม่ทัพก็ยอมถอยให้ท่านมากแล้วเจ้าค่ะ”

เรื่องนี้นางไม่ได้พูดแก้ต่างให้ซูเซวียนแต่นางเห็นใจหงอี้ ที่เป็นสตรีเช่นเดียวกัน จากสีหน้าที่เดี๋ยวซีดขาว เดี๋ยวแดงก่ำของนาง ก็พอจะรู้แล้วว่านางคงไม่รู้เรื่องที่ซูเซวียนมีฮูหยินอยู่ที่จวนแล้ว จึงได้ติดตามเขากลับมา

“โธ่ อาเหยาของข้า” หลีซื่อบีบมือของซุนเหยาแน่น

เมื่อเห็นทั้งคู่เดินออกจากห้องไปแล้ว ซุนเหยานางจึงได้บอกแม่สามีเรื่องที่นางเตรียมอาหารไว้ให้หลีซื่ออย่างมากมาย

“ท่านแม่ ข้าให้สาวใช้ไปนำอาหารที่เหม่ยสือมาหลายรายการ ท่านจะกินเลยหรือไม่เจ้าคะ”

“ดีดี เช่นนั้นตั้งโต๊ะเถิด แม่หิวแล้ว”

น้ำแกงโสมที่กินไปเมื่อครู่เหมือนยิ่งกระตุ้นความอยากอาหารของหลีซื่อ นางจึงลืมเรื่องที่โมโหบุตรชายไปเสียสนิท

ซุนเหยานางช่วยประคองหลีซื่อไปที่ห้องโถง เพื่อรับอาหารมื้อเย็น ทั้งยังบอกให้คนไปตามซูเซวียนกับหงอี้มารับอาหารด้วยกันอีกด้วย

“เจ้าจะให้บ่าวไปตามนางมาด้วยเรื่องอันใด”

“ท่านแม่ หงอี้ นางอาจจะไม่รู้ถึงการมีอยู่ของข้าก็ได้เจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นจะไม่เท่ากับว่านางน่าสงสารหรือเจ้าคะ อีกอย่างข้าไม่อยากให้ผู้ใดว่าข้าใจแคบ แม้แต่ข้าวก็ยังไม่ให้นางกินด้วย”

“เหอะ ผู้ใดจะกล้าว่าเจ้า” หลีซื่อเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์

สาวใช้เมื่อเห็นว่าหลีซื่อไม่ได้ห้ามเรื่องให้ไปตามซูเซวียน นางจึงรีบเดินออกไปตามทันที

หงอี้ เมื่อไม่มีผู้ใดติดตามมาด้วยแล้ว นางก็เริ่มต่อว่าซูเซวียนที่ทำให้นางต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้

“ท่านแม่ทัพ ท่านกำลังทำให้ข้าเป็นนางมารต่อหน้ามารดากับฮูหยินของท่าน”

“ข้าไม่คิดว่าท่านแม่จะพูดยากถึงเพียงนี้” ซูเซวียนคิดว่า เพียงแค่เขาเดินทางกลับมาเมืองหลวงเพื่อจัดการเรื่องหย่า ก็คงเป็นตามที่มารดาพูดไว้ หากเขากลับมาเมื่อใดก็หย่าได้ทันที

เจ้าทนอีกเพียงหนึ่งเดือน เมื่อกลับชายแดน ข้าจะให้เจ้าหยุดฝึกสามเดือนดีหรือไม่”

“ท่านพูดแล้วนะเจ้าคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel