1
พรึ่บ!
ซ่า!!
ความรู้สึกอึดอัดคล้ายคนกำลังจะขาดอากาศหายใจ ทำให้ฉันต้องดิ้นรนหาสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ไวที่สุด แต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับพบว่ากำลังลอยคออยู่เหนือผิวน้ำท่ามกลางความมืด แทนที่จะเป็นห้องรังหนูภายในบ้านของตัวเอง
ใครบางคนกำลังยืนหันหลังให้อยู่ด้านบน เอียงตัวเอี้ยวหน้ากลับมามองด้วยสายตาตื่นตระหนก ดวงตาคมกริบเบิกกว้างคล้ายตกอยู่ในอาการของคนตกใจ ขณะที่ฉันเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง เมื่อทุกอย่างรอบกายดูแปลกประหลาดไม่คุ้นชิน
ร่างสูงโปร่งในชุดจีนโบราณสีดำขลิบทอง สาวเท้าเดินดุ่มๆ เข้ามายืนจ้องคล้ายไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น เราสบตากันนานนับนาที กระทั่งฉันเริ่มอดทนเก็บความสงสัยไว้อีกไม่ไหว จึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากเปิดประโยคสนทนาขึ้น
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่า...”
“เหตุใดเจ้าจึงยังไม่ตาย? เจียวเหมย”
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจนจบประโยค คู่สนทนากลับเอ่ยแทรกขึ้นอย่างไร้มารยาท ฉันรีบหันมองรอบกายทันที เพราะชื่อที่เขาใช้เรียกนั้นมันไม่ใช่ชื่อของฉัน
รอบข้างคือผืนน้ำอันว่างเปล่า มีเพียงกอบัวขึ้นประดับบ้างประปราย ไร้เงาของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์สักคนให้เห็น ตรงนี้มีแค่ฉันกับเขาสองคนเท่านั้น
‘เจียวเหมย’ ชื่อนี้ช่างรู้สึกคุ้นเคย ถ้าจำไม่ผิดฉันตั้งให้กับตัวละครตัวหนึ่งในนิยายจีนโบราณเรื่องล่าสุดที่กำลังเขียนอยู่ หล่อนเป็นตัวประกอบที่มีบทบาทเพียงไม่กี่ตอนก็ต้องตาย ด้วยฝีมือตัวร้ายที่หลอกใช้ความจงรักภักดีของนางจนแผนการของตัวเองสำเร็จลุล่วง สุดท้ายก็กำจัดนางทิ้งให้พ้นทาง โชคชะตาช่างอาภัพน่าสงสาร แต่กลับเป็นตัวละครที่ฉันรู้สึกอิจฉามากที่สุด
แม้ชีวิตของเจียวเหมยอาจดูไร้ความสุขสบาย ไม่ได้เกิดมาเป็นลูกคุณหนูจวนใหญ่ หนำซ้ำยังเป็นเด็กกำพร้าที่ต้องอาศัยหอนางโลมซุกหัวนอน
แต่เมื่อนางเติบโตขึ้นเป็นสาวสะพรั่ง เจียวเหมยกลับมีใบหน้างดงามไร้ที่ติ กลิ่นกายหอมรัญจวนคล้ายกลิ่นบุปผา รูปร่างอ้อนแอ้นราวกับเทพธิดา ครั้นเมื่อนางช้อนสายตาพลางคลี่รอยยิ้ม ผู้พบเห็นดั่งต้องมนต์สะกด
งามทั้งรูปลักษณ์และอุปนิสัย ความสามารถรอบด้านทั้งร้อง เต้น และเล่นดนตรี กิจกรรมทั้งหลายแหล่ที่เหล่าลูกขุนมูลนายในรั้วพระราชวังโปรดปราน เจียวเหมยล้วนรู้จักแทบทั้งสิ้น ฉลาดเป็นกรด ไหวพริบเป็นเลิศ อีกทั้งยังอ่อนน้อมถ่อมตนจนผู้ใหญ่หลายคนให้ความเอ็นดู
เสน่ห์ของนางเหลือร้ายเกินชายใดต้านทานได้ นั่นจึงเป็นเหตุให้เจียวเหมยกลายเป็นบุปผางามดอกใหม่แห่งหอจันทรา ลูกค้ามากหน้าหลายตาต่างพากันแห่แหนมาเชยชมความงดงามของนาง กระนั้นแล้วความบริสุทธิ์ที่เฝ้ารักษามาร่วมหลายปี ก็ยังมิมีผู้ใดช่วงชิงไปจากนางได้
แล้วทำไมอยู่ๆ ผู้ชายคนนี้ถึงใช้ชื่อนั้นเรียกฉันกันนะ คำถามไม่เป็นมงคลนั่นอีก สถานที่ที่ฉันอยู่ในตอนนี้นี่ก็ด้วย จำได้ว่าฉันกำลังนั่งแต่งนิยายอยู่ในห้อง สมองกำลังไหลลื่น เขียนฉากที่เจียวเหมยกำลังจะโดนกำจัด ด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความเสียดาย เพราะตัวละครตัวนี้ยังใช้ความสวยได้อย่างไม่เต็มที่เลยด้วยซ้ำ
‘เดี๋ยวนะ!’
หลังเรียบเรียงเหตุการณ์แล้วนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ฉันจึงรีบก้มมองหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองอย่างรวดเร็ว มีดสั้นคมกริบกำลังปักคาอยู่เหนือเนินอก พร้อมกับโลหิตแดงฉานไหลซึมเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง
ทว่า... ฉันกลับไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด
ฉันควรจะต้องกรีดร้องเพราะมีมีดปักคาหัวใจของตัวเอง แต่ความรู้สึกกลับเต็มไปด้วยความงุนงงสับสน ด้วยความสงสัยจึงรีบปีนขึ้นจากน้ำไปยืนอยู่ข้างๆ ผู้ชายที่เอาแต่จ้องมองฉัน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจระคนตื่นตระหนก
เมื่อกวาดสายตาสำรวจร่างกายตัวเอง เสื้อผ้าที่แนบลู่ไปกับผิวเนื้อ กลับเป็นชุดกระโปรงผ้าพริ้วไหวสีฉูดฉาด แทนที่จะเป็นเสื้อยืดคอย้วยกับกางเกงยางยืดตายที่มักใส่เป็นประจำ
และที่สร้างความประหลาดใจให้กับฉันเป็นอย่างมาก คือร่างกายที่ลดขนาดลงมาเกือบสองเท่าตัว ผู้หญิงอ้วนน้ำหนักร้อยกว่ากิโลกรัม เพียงชั่วการกะพริบตากลับมีรูปร่างประหนึ่งนางแบบ อกเป็นอกเอวเป็นเอว สัดส่วนเว้าโค้งปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด
