11
ใบหม่อนตื่นเร็วกว่าปกติ ท้องฟ้าด้านนอกยังมืดมิด หญิงสาวชะโงกดูคนที่นอนอยู่ข้างเตียง ชายหนุ่มยังคงหลับสนิท หน้าอกล่ำภายใต้เสื้อยืดสีขาวสะท้อน ขึ้นลงสม่ำเสมอ เขาเป็นผู้ชายที่มีแพขนตายาว ยามหลับแบบนี้ ผู้หญิงยังอาย ไม่แปลกใจเลยถ้าจะมีสาวแก่แม่ม่ายมาติดพัน...ฮึ...คงจะชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว..อารมณ์โกรธแม้จะจางลงมากแต่ก็ยังคุกรุ่นอยู่ เมื่อคืนเขาก็ไม่อธิบายให้กระจ่าง ไอ้เรื่องยุ่ง ๆ ที่ว่า ไม่รู้ว่ายุ่งกับอะไรกันแน่
จู่ ๆ ใบหม่อนก็คิดเรื่องเก่าจนอารมณ์ขุ่นมัวซะงั้น หญิงสาวแกล้งเอื้อมมือเอานิ้วแหย่เข้าไปในจมูกที่โด่งเป็นสัน เพื่อจะหนีบกระตุกขนจมูกที่เห็นยาวอยู่สองเส้นด้วยความหมั่นไส้ แต่โดนคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน พร้อมกับดึงลงไปกองรวมกันอยู่บนพื้น
“จะทำอะไร..ฮึ..”
“เปล่า จะถอนขนจมูกให้ยังจะดุอีก” หญิงสาวแถ
“เหรอ..ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้รางวัล สินะ” ตะวันปล้ำจูบ คนช่างแถ ที่ดิ้นขลุกขลักทั้งเจ็บทั้งจั๊กจี้ เพราะโดนชายหนุ่มแกล้งเอาคางสาก ๆ ถูกับผิวนุ่มลื่นราวกับผิวเด็กอ่อน
“เจ็บ...ปล่อยนะ” ใบหม่อนประท้วง
ตะวันชะงัก โหย่งตัวขึ้นมาดูชัด ๆ ก็เห็นรอยแดงเป็นปื้น ตัดกับผิวขาว ๆ คงเป็นผลจากตอหนวดเครา ที่ยังไม่ได้โกนของเขาเอง
ชายหนุ่มขอโทษ ก่อนจะจูบเบา ๆ เป็นการปลอบโยน ถึงหล่อนไม่ประท้วงเขาก็ต้องหยุดอยู่แล้ว ไม่อาจทำอะไรได้มากไปกว่านี้
“โกรธเรื่องอะไรไหนบอกพี่มาสิ” ตะวันถามเสียงนุ่ม สายตาคมซึ้งจับจ้องอยู่บนดวงหน้างาม ที่ไร้การแต่งเติม เสียแต่ว่ายามนี้ หงิกงอตามอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของ
“ก็เรื่องเมื่อวาน อุตส่าห์ทำกับข้าวรอ” หญิงสาวบ่นอุบอิบ คำพูดของเขาทำให้ความแรงลดระดับลงกว่าครึ่ง
“อ๋อ...เรื่องนี้เอง” ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง ดึงมือใบหม่อนให้ลุกตาม เพื่อนั่งคุยกันดี ๆ
“เมื่อวานมีคนพบศพที่ท้ายไร่ ห่างจากที่เราไปเที่ยว นิดเดียว พอดีคนตายเป็นคนงานของเราด้วย ก็เลยยุ่งทั้งเรื่องคดี แล้วก็จัดการงานศพ ถึงได้กลับดึก” ตะวันชี้แจง
“ทำไมไม่เล่าให้ฟังตั้งแต่เมื่อวานล่ะคะ” พอไม่มีเรื่องหม้ายสาว ก็คุยกันง่ายขึ้น
“พี่กลับมาเห็นคนกำลังขวัญเสียอยู่ เลยไม่อยากเล่าให้ฟัง กลัวว่าจะไปกันใหญ่”
“แล้วที่ทำหลับใส่ ปล่อยให้โมโหข้ามคืน ไม่เรียกว่าไปกันใหญ่เหรอคะ” ใบหม่อนอดหมั่นไส้คนตัวโตไม่ได้
“ไม่เอาน่า อย่าอารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะ ไปดูทะเลหมอกกัน เคยเห็นหรือเปล่า” ชายหนุ่มชวนอย่างเอาใจ
“จริงสิ ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย ไปค่ะ” ใบหม่อนลุกขึ้น พร้อมกับฉุดแขนชายหนุ่มให้ลุกตามอย่างกระตือรือร้น
“ไม่ต้องรีบก็ได้ แค่นี้เอง”
“เร็ว ๆ เถอะค่ะพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้วเนี่ย” หญิงสาวเร่ง
ตะวันหัวเราะเบา ๆ โอบเอวใบหม่อนเดินออกมาที่ระเบียงหน้าบ้าน หญิงสาวตื่นเต้น ไม่คิดว่าแค่ออกมาหน้าบ้านก็ได้เจอความงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้อย่างน่าทึ่ง เสียดาย ที่วันก่อน ๆ หล่อนไม่ทันคิด แล้วก็ตื่นสายด้วย
“สวยจังค่ะ”ใบหม่อนหันมาบอกเขา ด้วยความตื่นเต้น มองไกลออกไปเห็นทะเลหมอกสีขาวคลอเคลียอยู่ตามไหล่เขา และค่อย ๆ จางลงเป็นสีเขียวเข้มของมวลหมู่แมกไม้ ตะวันเข้ามายืนซ้อนหลัง ยกมือขึ้นโอบสาวน้อยไว้หลวม ๆ หญิงสาวเอนศีรษะพิงอกกว้างของเขาอย่างผ่อนคลาย ไม่เกี่ยงงอน กลับรู้สึกอบอุ่น มั่นคง เพียงไม่กี่วันที่มาอยู่ที่นี่ หล่อนสัมผัสได้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้เถื่อน กักขฬะ อย่างที่เขาพยายามแสดงออกมา
ใบหม่อนเตรียมอาหารเช้าง่าย ๆ อย่างพวกขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก ที่มีแช่อยู่ในตู้เย็นอยู่แล้ว แล้วก็มานั่งรอหน้าแฉล้มอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านอย่างมีแผน
“ทำอะไรกินบ้าง” ชายหนุ่มถาม สบายใจ เพราะวันนี้ใบหม่อนคงจะอารมณ์ดี หน้าตาเบิกบานแต่เช้า
“รีบกินสิคะ เดี๋ยวจะได้รีบไปทำงาน” หญิงสาวไม่ตอบ แต่เร่งให้เขารีบกิน ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง จนผิดสังเกต นอกจากนั้น ชุดที่หล่อนสวมกางเกงยีนส์ เสื้อเชิ้ต รองเท้าผ้าใบ ราวกับเตรียมพร้อมจะออกไปลุยนอกบ้าน
“อยากได้อะไรอีกล่ะ...” ชายหนุ่มถามอย่างรู้ทัน ลงมือกินอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว เพราะมีงานหลายอย่างที่ต้องไปจัดการ
“แหม คนเขาจะทำดีบ้างก็ไม่มีใครเชื่อใจ” ใบหม่อนพูดอย่างงอน ๆ
“หึ..หึ..สรุปว่าไม่มีอะไรใช่ไหม พี่จะไปทำงานแล้วนะ” ตะวันสรุปรวบรัด เขาลุกขึ้นเก็บจานชามที่กินแล้วไปรวมไว้ด้านหลัง สงสัยคงต้องให้คนทำงานบ้านกลับมาทำเหมือนเดิม ดูท่าใบหม่อนจะไม่ยอมอยู่แต่ก้นครัวเสียแล้ว
“ไปด้วยนะคะ...นะ..นะ..” หญิงสาวลุกขึ้นเดินเข้ามาเกาะแขนประจบเอาใจ หล่อนไม่ยอมอยู่บ้านคนเดียวให้ประสาทเสียอีกแล้ว ไปไหนไปกัน จะตามเกาะติดเขาไปนี่แหละ
“พี่ไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนเมื่อวานหรอกนะ” ตะวันชี้แจงอย่างอ่อนโยน ไม่อยากให้หล่อนตะลอนไปร้อน ๆ อยู่กับบ้านสบายกว่า
“ไม่เป็นไร พี่ตะวันไปไหน ใบหม่อนไปด้วย” ใบหม่อน อ้อนเต็มที่ เรียกพี่อย่างสนิทใจ หล่อนแปลงร่างเป็นตุ๊กแกไปแล้ว ช่างเหมือนตอนเด็ก ๆ ไม่มีผิด ซึ่งหล่อนเองก็คงจำอะไรไม่ได้แล้ว
ชายหนุ่มอ่อนใจ จำต้องยอมให้หญิงสาวติดสอยห้อยตามไปด้วย หวังว่าวันเดียวก็คงจะเข็ดแล้ว ตะวันขับรถพาใบหม่อนมาจนเลยเขตไร่ หญิงสาวเพิ่งจะสังเกตเห็นป้ายชื่อ บ้านไร่ ใบหม่อน
“ใครเป็นคนตั้งชื่อไร่คะ น่ารักจัง” ใบหม่อนเอียงคอถาม
“พี่เอง” ตะวันตอบแบบเสียไม่ได้
“แสดงว่าเมื่อก่อน ไม่ใช่ไร่กาแฟใช่ไหมคะ คงปลูกใบหม่อนแน่ ๆ เลย” หญิงสาวแสดงภูมิรู้
“อย่าเดาเลย ไม่ถูกหรอก”
“ทำไมถึงชื่อนี้ล่ะคะ” หญิงสาวเซ้าซี้อยากรู้ เพราะเป็นชื่อเดียวกับชื่อของหล่อน
“สงสัยรู้ล่วงหน้า ว่าต้องมีเมียชื่อใบหม่อน” ชายหนุ่มแกล้งบอก
“ไม่ต้องทำเป็นพูด...เอาเรื่องจริงสิ”
“ก็นี่แหละ”
“อ๋อ..แฟนเก่าชื่อใบหม่อนงั้นสิ...แสดงว่าที่ยอมแต่งงานก็เพราะจะให้เค้าเป็นตัวแทนแฟนเก่าใช่ไหม” ใบหม่อนเชิดหน้า คอแข็ง มองออกไปนอกรถ อย่างไม่สบอารมณ์
ตะวันคร้านจะอธิบาย คนอะไรขี้งอนชะมัด เรื่องไม่เป็นเรื่อง หล่อนก็มีความสามารถเอามาเป็นเรื่องจนได้
ที่แรกที่ชายหนุ่มไปคือโรงพัก เขาเข้าไปคุยกับตำรวจ เรื่องความคืบหน้า แกะรอยคนร้าย ซึ่งเขาสนใจว่าจะเป็นคนงานในไร่ด้วยกันเองหรือเปล่า เพราะถ้าจับไม่ได้ ก็เท่ากับเขาเลี้ยงฆาตกรเอาไว้ ถ้าหากเป็นเช่นนั้น คงไม่เป็นผลดีแน่ ๆ เขาจึงให้ความร่วมมือกับตำรวจเต็มที่ในการสืบหาฆาตกรตัวจริง
ใบหม่อนนั่งเซ็งรออยู่ในรถ ตั้งนาน ก็ยังไม่มีทีท่าว่าตะวันจะกลับมา หล่อนจึงออกมาเดินเล่น ยืดเส้นยืดสายข้างรถ ผู้คนไม่มากนักแต่ก็ไม่น่ากลัวอะไร เพราะอยู่ในเขตโรงพัก
“สวัสดีครับ คุณใบหม่อนใช่ไหมครับ”
ใบหม่อนแปลกใจที่มีผู้ชาย ร่างสูง ผิวขาว หน้าตาจืดสนิท อายุอานามก็คงจะมากกว่าหล่อนไม่เท่าไหร่ เข้ามาทักทาย แถมรู้จักชื่อหล่อนเสียอีก
“เอ่อ...ค่ะ...สวัสดีค่ะ” ใบหม่อนรับคำงง ๆ
“ผม คทา ผู้จัดการ บ้านไร่ใบหม่อนครับ พอดีเห็นคุณลงจากรถเจ้านาย ก็เลยเดาว่าน่าจะใช่” ชายหนุ่มแนะนำตัว เขารู้จากคุณวรรณ ม่ายสาวทรงเสน่ห์ ตอนที่แวะเวียนไปกินอาหาร หล่อนเล่าให้ฟังถึงเมียของนายตะวัน แต่ไม่เห็นเหมือนที่หล่อนบอก เพราะผู้หญิงคนที่เห็นนี้จัดว่าสวยทีเดียว ไม่ได้ดูกะโปโล เหมือนที่โดนค่อนแคะ
“คุณคทา คงมาเรื่องคดีเหมือนกับพี่ตะวันใช่ไหมคะ”
“ครับ เสร็จธุระแล้วกำลังจะกลับ อีกเดี๋ยวนายก็ลงมา เห็นแวะคุยอยู่กับท่านสารวัตร”
“เหรอคะ ตกลงตำรวจรู้ตัวคนร้ายหรือยังคะ”
“ยังเลยครับ ก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เป็นคนในไร่เลย” ผู้จัดการหนุ่มพูดหน้าตาเคร่งขรึมลง
“โอ้โห..น่ากลัวจังนะคะ”
“แต่ถ้าใช่ คนอย่างนายตะวันไม่ปล่อยไว้แน่” คทาพูดให้ความมั่นใจ แต่ก็ทำใบหม่อนเข้าใจไปอีกทาง
“ฆ่าแกงกันง่าย ๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ” ใบหม่อนคิดว่า ตะวันจะจัดการยิงทิ้งคนผิดง่าย ๆ เหมือนในละคร แถมไม่ติดคุกด้วย
“ก็อย่างที่เห็นแหละครับ”
ใบหม่อนสลดลง สับสนว่าแท้จริงแล้ว ตะวันเป็นคนอย่างไรกันแน่
