05 วันแรกของการทำงาน
ดวงดาว Part
04:00 น.
ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อมาช่วยแม่กับป้าน้อยทำขนมสำหรับเอาไปขายที่ตลาดเช้านี้ ฉันจัดขนมใส่ตะกร้าอย่างเป็นระเบียบจนเสร็จจากนั้นก็ขึ้นบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปรอขึ้นรถทำงานแต่เช้ามืดเเพราะไม่ถ้าออกจากบ้านช้าฉันจะต้องขึ้นไปยืนเบียดกับคนอื่นๆ บนรถแถมช่วงเช้ารถยังติดอีกตั้งหากจะขึ้นแท็กซี่ไปก็เสียดายเงิน
05:30 น.
ฉันเดินลงจากบ้านมาหาแม่กับป้าน้อยที่กำลังจะเข็นรถออกไปขายของพอดี ฉันก็รีบวางกระเป๋าบนรถเข็นเพื่อที่จะช่วยเข็นรถไปตลาดให้
"ดาว~ไม่ต้องหรอกลูกแม่กับป้าน้อยไปกันเองได้จ้ะ" แม่จับที่มือฉันไว้เพื่อเป็นการห้าม ฉันยืนครุ่นคิดอยู่พักนึงเพราะรถเข็นมันค่อยข้างหนักจะให้เข็นกันไปเองก็อดห่วงไม่ได้
"ใช่ค่ะคุณดาวให้ป้าทำเองดีกว่า"
"จะไหวเหรอคะรถมันหนักมากเลยนะ"
"ไหวสิลูกแค่นี้เอง เดี๋ยวแม่กับป้าน้อยช่วย ๆ กันเข็นไปมันก็ไม่หนักแล้ว...ใช่ไหมพี่น้อย" แม่ตอบแล้วส่งยิ้มให้ฉันจากนั้นแม่ก็หยิบกระเป๋าทำงานที่วางอยู่บนรถเข็นออกแล้วส่งมาคืนฉันแทน
"ลูกอ่ะรีบไปเถอะเดี๋ยวช้ากว่านี้คนจะแน่นเอานะ ไปทำงานวันแรกไม่ควรสายเข้าใจไหม" ฉันยิ้มให้้แม่แล้วเดินเข้าไปหอมแก้มแม่ทีนึง
"งั้นดาวไปทำงานก่อนนะคะ" ฉันหันไปหาป้าน้อยต่อ
"ดาวไปทำงานก่อนนะคะป้าน้อย วันนี้ดาวไม่ได้ไปช่วยฝากป้าน้อยดูแลแม่ด้วยนะคะ"
"คุณดาวไม่ต้องคุณห่วงคุณวันเพ็ญนะคะป้าอยู่ด้วยทั้งคน คุณดาวไปทำงานให้สบายใจเถอะค่ะ" ฉันส่งยิ้มให้ป้าน้อยก่อนที่จะโบกมือลาทุกคนแล้วเดินออกมาจากบ้านเพื่อไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ แต่พอถึงป้ายรถเมลล์ฉันถึงกับต้องตกใจเลยเพราะตอนนี้มีคนมารออยู่ก่อนแล้วประมาณเกือบ 30 คนได้ มีทั้งคนทำงาน นักเรียน นักศึกษาเต็มไปหมด
"ทำไมคนเยอะขนาดนี้เนี่ย อุตส่าห์ตื่นแต่เช้าแล้วแท้ ๆ เฮ่อ...ทำงานวันแรกไม่อยากขึ้นไปเบียดให้เสื้อผ้ายับเลย" ฉันบ่นเบา ๆ แล้วหันซ้ายมองขวาเห็นแท็กซี่กำลังจะขับผ่านมา เอาว่ะถึงจะแพงกว่าแต่ก็ถึงเร็วกว่าด้วยยังไงซะก็ไม่ต้องขึ้นไปเบียดกับคนอื่นให้เสื้อผ้ายับยู่ยี่ จากนั้นฉันตัดสินใจเดินออกไปโบกเรียกรถแท็กซี่ทันที
"ไปไหนครับ"
"ไปบริษัท KTK ค่ะ"
"ขึ้นมาเลยครับ" ฉันเปิดประตูรถเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง นั่งมาเรื่อย ๆ ด้วยความตื่นเต้นจนเหงื่อออกมือเต็มไปหมดเมื่อคืนนี้ฉันเองแทบนอนไม่หลับเลยดีที่ตอนเช้าไม่เพลีย
"จอดตรงนี่แหละค่ะคุณลุง" ฉันพูดแล้วส่งเงินค่าโดยสารให้คุณลุง
"ขอบคุณครับ"
ฉันเข้าไปในบริษัทฉันก็เจอกับยามที่ยืนดูแลอยู่ไม่ห่างจากประตู
"บริษัทยังไม่เปิดนะครับถ้าจะติดต่อเรื่องบ้านต้องรอเวลา 8:30 น.นะครับ" พี่ยามรีบเดินเข้ามากันฉันไว้
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อดวงดาวนะคะเป็นเลขาคนใหม่ของท่านประธานเพิ่งมาเริ่มงานวันนี้เป็นวันแรกค่ะ" ฉันแนะนำตัวพร้อมโชว์จดหมายที่บริษัทส่งมาให้ให้กับพี่ยามดู
"อ๋อครับ งั้นเชิญนั่งรอที่ล็อบบี้ได้เลยนะครับ ขอโทษทีนะครับพอดีว่าไม่ได้มีใครแจ้งผมไว้ว่าจะมีพนักงานใหม่เข้ามาวันนี้ผมเลยไม่ทราบ" พี่ยามผายมือบอกให้ฉันเข้าไปนั่งรอข้างในด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย
"ไม่เป็นไรค่ะแต่ว่าเรียกฉันว่าดาวเฉย ๆ ก็ได้นะคะ" ฉันตอบแล้วเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเพื่อขอบคุณพี่ยามที่ต้อนรับฉันอย่างดี บรรยายกาศที่นี่แตกต่างจากวันสัมภาษณ์งานมาก เนื่องจากยังเช้าอยู่ทำให้คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่มีเพียงยาม แม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่
"เดี๋ยวคุณนั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
ฉันนั่งรอประมาณครึ่งชั่วโมงก็เริ่มเห็นพนักงานทยอยเดินเข้ามาตอกบัตรแถว ๆ หน้าลิฟต์ซึ่งมันมีอยู่ประมาณ 3 เครื่องแล้วฉันก็หันไปเห็นผู้หญิงคนนึงกำลังเดินเข้าประตูมา พี่ยามรีบเดินเข้าไปหาเธอแล้วพูดอะไรบางอย่างพร้อมผายมือมาทางฉันจากนั้นผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าให้พี่ยามแล้วเดินตรงมาหาฉันทันที ฉันทำตัวไม่ถูกเลยรีบลุกขึ้นแทน
"คุณดวงดาวใช่ไหมมคะ" เธอแต่งตัวดีมากอายุน่าจะประมาณ 40 กว่า ๆ
"ใช่ค่ะ"
"ตามพี่มาค่ะ" เธอพูดพร้อมเดินไปตอกบัตรแล้วพาฉันขึ้นลิฟต์ไปที่ไหนไม่รู้ บรรยากาศในลิฟท์เงียบมากจนฉันทำตัวไม่ถูกเลยได้แต่เหล่ตามองเธอเป็นพัก ๆ การแต่งตัวของเธอดูน่าจะมีตำแหน่งสูงพอสมควร ฉันเดินตามเธอไปติด ๆ ผ่านพนักงานที่กำลังนั่งเตรียมตัวรอเข้างานกันอยู่ บางคนก็นั่งแต่งหน้าทาปาก บางคนก็นั่งคุยนั่งเม้าส์กันเป็นกลุ่มๆ จนมาถึงห้องๆ นึงด้านบนเขียนว่า "แผนกฝ่ายบุคคล" เธอเปิดประตูเปิดตูเข้าไปในห้องนั้นมีพนักงานอยู่ 3 คน
"พี่นุ่นสวัสดีค่ะ/ครับ" ทุกคนหันหน้ามายกมือไหว้เธอด้วยความเคารพ
"สวัสดีจ้ะทุกคน" เธอวางกระเป๋าลงที่โต๊ะทำงานแล้วเอ่ยรับการทักทายจากทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสต่างจากในลิฟท์เมื่อกี้มาก
"ทุกคนนี่คือคุณดวงดาวที่จะมาทำงานในตำแหน่งเลขาของท่านประธานจ่ะ" ฉันเลยรีบก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพทันที
"สวัสดีค่ะทุกคนดิฉันดวงดาวหรือจะเรียกดาวเฉยๆ ก็ได้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" ฉันพูด
"พี่ชื่อนุ่นนะเป็นหัวหน้าแผนกฝ่ายบุคคลมีอะไรก็มาปรึกษาพี่ได้" พี่นุ่นพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอบอุ่นมาก
"นั่นคือเจนส่วนนู้นบอสและนี่ก็แหม่มทุกคนอยู่แผนกฝ่ายบุคคลเหมือนกันเป็นทีมของพี่เอง"
"เอ่อ!...บอสเตรียมของให้คุณดวงดาวเขาหรือยังที่พี่สั่งไว้เมื่อวานอะ" พี่นุ่นถาม
"เตรียมไว้หมดแล้วครับพี่นุ่น" พี่บอสตอบพร้อมกับค้นเอาบัตรพนักงานกับกฏละเบียบและหนังสือว่าจ้างงานมาให้พี่นุ่น
"อ่านดูก่อนนะถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจค่อยมาถามพี่" ฉันรับมาแล้วเดินไปนั่งโต๊ะกลมที่วางอยู่ในมุมห้องเพื่อเปิดอ่านสัญญาอย่างละเอียด
กฎ
1.ห้ามพนักงานทุกคนทะเลาะวิวาทกันในที่ทำงานเด็ดขาด!
2.ห้ามพนักงานทุกคนนำเรื่องภายในแผนกและแผนงานของบริษัทไปพูดคุยกับบุคคลภายนอกเด็ดขาด ถ้าจับได้ทางบริษัทจะฟ้องร้องจนถึงที่สุด
3.ห้ามมพนักงานเข้างานสายเกินเวลา 15 นาที ถ้าสายเกิน 3 ครั้งจะถูกหักเงินเดือนถ้าเกิน 5 ครั้งจะถูกเรียกตักเตือนพักงานและถ้าครบ 10 ครั้งจะถูกพักงานหรือไล่ออกตามเหตุสมควรแต่ถ้ามีเหตุจำเป็นที่ทำให้ต้องสายหรือลาให้รีบแจ้งหัวหน้าแผนกของตน
4.ห้ามขาดโดยไม่มีสาเหตุเด็ดขาดถ้าครบ 3 ครั้งจะถูกเชิญออกแต่ถ้ามีธุระให้แจ้งล่วงหน้าที่หัวหน้าแผนก ถ้าป่วยให้นำใบรับรองแพทย์มายืนยันที่ฝ่ายบุคคลฝ่ายหลัง
5.ถ้าจับได้ว่ามีการขโมยข้อมูลหรือยักยอกทรัพย์สินของบริษัททางเราจะดำเนินคดีและฟ้องร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 100 เท่า
6.ห้ามเข้าไปในบริเวรต้องห้ามหรือห้องของผู้บริหารโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด
7.ห้ามพูดจาดูถูกเพื่อนร่วมงานไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีตำแหน่งอะไร
8.ห้ามนำบุคคลภายนอกเข้ามาในบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต
9.ห้ามนำสิ่งผิดกฏหมายเข้ามาในเขตบริษัทเด็ดขาด
10.ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณที่มีป้ายห้ามสูบเด็ดขาด
11.ห้ามทำลายทรัพย์สินของบริษัท ถ้าทรัพย์ของบริษัทเกิดความเสียหายนอกเหนือจากการใช้งานจนชำรุดบุคคลนั้นต้องเชดเชยเงินเต็มจำนวน
12.ห้ามกดขี่พนักงานรุ่นน้อง
13.ห้ามโยนงานในรับผิดชอบให้คนอื่นแต่สามารถขอความช่วยเหลือได้ถ้าบุคคลนั้นยินดี
ข้อปฏิบัติทุกข้อมีผลเมื่อคุณเซ็นต์สัญญาว่าจ้างงานกับทางบริษัทและเมื่อปฏิบัติผิดแม้แต่ข้อเดียวทางบริษัทมีสิทธิ์เชิญคุณออกทันทีที่มีการพิจารณาว่าสมควรแล้วโดยที่ไม่สนเรื่องอายุสัญญาว่าจ้างของคุณและการตัดสินใจของผู้บริหารถือเป็นเด็ดขาด
โปรดอ่านและพิจารณาให้ดีก่อนเซ็นต์สัญญา
