บท
ตั้งค่า

5

แก้มใสนั่งลงกราบที่ตักของท่านนายพลและคุณหญิง น้ำตาปริ่ม ที่ต้องจากไปแบบไม่ทันตั้งตัว

“หนูลาจริง ๆ แล้วนะคะ คุณหญิงอย่าลืมทานยาให้ตรงเวลาด้วยนะคะ” แก้มใสบอกเสียงเศร้า ใจหายที่ต่อไปนี้จะไม่ได้อยู่ดูแลท่านอีกแล้ว

“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกจ่ะ ขอให้หนูมีความสุขนะแก้มใส อันตรายใด ๆ อย่าได้มาแพ้วพาน ไปถึงที่นั่นแล้วอย่าลืมโทรหาฉันด้วยนะ” คุณหญิงอวยพรน้ำตาซึม เหมือนยอม ทำใจให้ใครมาควักหัวใจออกจากอก หากมีคนสังเกตจะเห็น มือขาวซีดสั่นน้อย ๆ ยามที่ ท่านเชยคางแก้มใสขึ้นมองหน้าก่อนจะต้องจากลาไปอยู่แสนไกล

แก้มใสโผเข้ากอดคุณหญิงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวจริง ๆ ปล่อยให้มันไหลสะอึกสะอื้น เป็นนานกว่าจะหยุดลงได้

“หนูไปก่อนนะคะ พี่สุดเขต” แก้มใสกระพุ่มมือไหว้ชายหนุ่ม แม้ไม่ค่อยจะชอบหน้ากันนัก แต่ก็เติบโตมาด้วยกัน ก่อนจะหันไปไหว้ลา ป้า ๆ พี่ ๆ รวมทั้งคนขับรถ ที่ยืนตาแดง ๆ กันเป็นแถว

“เออ...ถ้าโดนฆ่าหมกเกาะเมื่อไหร่ วิญญาณแกก็อย่าลืมมาบอกฉันด้วยก็แล้วกัน จะทำบุญไปให้” สุดเขตพูดกวน ๆ

“ตาสุดเขต ทำไมพูดไม่เป็นมงคลแบบนั้นล่ะลูก” คุณหญิงปราม ไม่พอใจ

ส่วนเจ้าบ่าวหมาด ๆ มองแล้วให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ ที่เจ้าสาวของเขาทำอย่างกับจะลาไปสู่แดนประหาร จนต้องออกเดินนำไปก่อนอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

ท่านนายพลถึงกับถอนหายใจหนักหน่วง กับท่าทาง ยโสของลูกชายคนเดียว แต่ไม่สามารถทำอะไรให้ดีกว่านี้ได้ เพราะช่องว่างระหว่างพ่อกับลูก ห่างกันมากเกินไป เรื่องนี้โทษใครไม่ได้ เพราะเป็นความผิดของตัวเอง ที่ไม่ไปรับเขามาอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก

สารัช บอดีการ์ดร่างยักษ์ของนายหัวหนุ่มแห่งเกาะทรายแก้ว เกาะส่วนตัวที่น้อยคนจะรู้จักเพราะไม่เปิดรับบุคคลภายนอก กระเป๋าเสื้อผ้าทั้งสองใบของนายหญิงคนใหม่ ถูกขนไปขึ้นรถตามคำสั่งของผู้เป็นนาย ถึงเวลาที่แก้มใสต้องตัดใจเดินออกไปให้ได้สักที สารัชเปิดประตูตอนหลังให้อย่างรู้งาน ในขณะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีนั่งนิ่ง ขรึม รออยู่ก่อนแล้ว ไม่พูดไม่จานั่งตัวตรง ทำตัวราวกับเสาหิน

“เอ่อ...พี่เลโอคะ แก้มมีเรื่องจะคุยด้วย” แก้มใสขยับตัวหลังจากนั่งเกร็งมานาน เอ่ยกับชายหนุ่มที่นั่งตีหน้ายักษ์ จนเขี้ยวจะงอกออกมาจากปากแล้วมั้งนั่น

“มีอะไร” ถามเสียงห้วนจัด ดวงตาคมดุตวัดมองมาอย่างรำคาญ

“คือ...แก้มคิดว่า....เราไม่ต้องจริงจังขนาดนี้ก็ได้ เอาไว้อีกสักพัก เราไปหย่ากันนะคะ” แก้มใสพยายามฝืนยิ้มหวานแสดงความบริสุทธิ์ใจ หวังว่าช่วงเวลาที่ต้องอยู่ด้วยกันจะได้ไม่ต้องอึดอัดจนเกินไป....

“นึกว่าเล่นขายของอยู่หรือไง” ชายหนุ่มตะคอกกลับ สายตาคมดุจับจ้องใบหน้าอ่อนใส จนอีกฝ่ายขนอ่อนลุกชูชันราวกับเจอผี

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คือแก้มเห็นว่า เราต่างก็ไม่ได้เต็มใจกับการแต่งงานในครั้งนี้...ความจริงพี่เลโอก็น่าจะปฏิเสธให้แข็งขันกว่านี้” แก้มใสพยายามข่มความกลัว อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่วายบ่น เขาเป็นลูกชายของท่านนายพลแท้ ๆ น่าจะให้เหตุผลโต้แย้งได้มีน้ำหนักกว่าหล่อน ซึ่งเป็นเพียงเด็กในบ้านที่ท่านเมตตาเอ็นดูเท่านั้น ความเกรงใจและเจียมตัวเลยต้องมาก่อน

“เต็มใจหรือไม่เธอก็ต้องทน อยากได้ผัวจนตัวสั่นอยู่แล้วนี่ จะมาโยกโย้ สร้างราคาให้ตัวเองอีกทำไม ยังไงก็ไม่ทำให้เธอดูดีขึ้นมาได้หรอก” พูดจบก็กวาดสายตา สำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างดูแคลน ไม่คิดเลยว่าสาวน้อยสดใสที่เขาเจอเมื่อเดือนก่อนมันจะเป็นแค่เปลือกนอกที่ผู้หญิงคนนี้สร้างไว้ห่อหุ้มความเน่าเฟะของตัวเอง

“แก้มไม่ได้คิดอย่างนั้นนะคะ บอกจนคอจะแตกอยู่แล้วเนี่ย ไม่ยอมฟังกันบ้างเลย” หญิงสาวหน้ามุ่ย ไม่สบอารมณ์

“เหรอ...ฉันกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น ความจริงเธอได้ฉันเป็นสามีนี่ยิ่งกว่าถูกรางวัลใหญ่เสียอีกนะ”

“แก้มไม่ชอบเสี่ยงโชค”

“ถนัดแต่เอาตัวเข้าเสี่ยงใช่ไหม ทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้วล่ะ กับนายสุดเขตนั่นก็ด้วยใช่ไหม อยากจะเลื่อนขั้นเป็นสะใภ้ท่านนายพล ไม่อยากเป็นแค่เด็กในบ้านงั้นเหรอ.....ทำไมล่ะ มันไม่เอาเธอหรือไงถึงได้หันมาจับฉัน” ชายหนุ่มพาลไปหมด ยิ่งได้ยินแก้มใสเรียกฝ่ายนั้นว่าพี่แสดงความสนิทสนมยิ่งหงุดหงิดหัวใจ ไม่สนว่าวาจาเชือดเฉือนของตัวเองจะบาดลึกเข้าไปในหัวจิตหัวใจคนฟัง

“เพราะแก้ม เป็นแค่เด็กในบ้านใช่ไหมคะ ถึงได้โดนดูถูกเหยียดหยามแบบนี้ ความเป็นคนของเราไม่เท่ากันหรือยังไงคะ” ความน้อยใจแล่นขึ้นมาจนจุกอก ความจริงเรื่องพวกนี้ หล่อนไม่เคยเอามาคิดว่าเป็นปมด้อยของตัวเอง แต่พอมันออกจากปากของผู้ชายคนตรงหน้า คนที่หล่อนเคยปลื้มนักหนา ไม่รู้ว่าทำไมจิตใจที่เคยเข้มแข็ง มันถึงได้สั่นคลอนอ่อนไหวง่ายนัก

เลโอชะงักไปเหมือนกัน ที่คำพูดของตัวเองทำร้ายอีกฝ่ายจนน้ำตาไหล แต่นี่อาจจะเป็นมารยาของหล่อนก็ได้...อย่าได้หลงกลเชียว...ชายหนุ่มเตือนตัวเอง

“ความเป็นคนของเราเท่ากันก็จริง แต่สำนึกผิดชอบชั่วดีของเราต่างกัน”

“แล้วพี่เลโอล่ะคะ สูงส่งนักหรือไง เที่ยวปรักปรำใครก็ได้ โดยไม่ต้องมีหลักฐาน” หญิงสาวอดที่จะประชดเขาไม่ได้ หล่อนก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าเรื่องบ้า ๆ นี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

“แก้มใส....อย่าลามปาม” พอหล่อนพูดเรื่องที่เขาเถียงไม่ออก ก็ใช้เสียงเข้าข่ม

“พอเถอะค่ะ....เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องจริง ๆ” แก้มใสกรอกตาอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ขยับกลับไปนั่งชิดริมประตู กัดริมฝีปาก ข่มอารมณ์เต็มที่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel