ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
‘จะเอาไงดี’ หญิงสาวลุกเดินไปมาหน้าตาเคร่งเครียด แล้วตัดสินใจโทรกลับไปหามารดา เพื่อให้ท่านเจรจากับฝ่ายนั่นว่าขอเวลาสักระยะ
“แกโทรมาทำไมยัยศร”
“ศรอยากให้แม่ไปเจรจากับทางนั้นว่าให้เวลาเราบ้าง ตอนนี้ศรหาเงินไม่ได้จริงๆ”
“มันไม่ยอมเจรจา แล้วมันยังขู่ด้วยว่าต้องได้เงินภายในสิ้นเดือน ไม่งั้นมันจะเอาพี่แกเข้าคุก!”
“แต่ศรหาเงินไม่ทันนะแม่”
“ก็ไปหาหยิบยืมเพื่อนแกมาสิ เพื่อนแกน่าจะรวยเชียวแหละ คราวก่อนก็หามาได้เป็นแสนๆ”
“ศรไม่หน้าด้านไปขอยืมแล้ว ยืมคราวก่อนศรยังใช้คืนไม่หมดเลย”
“แกก็บอกเพื่อนไปสิว่าจำเป็นต้องใช้เงิน แค่นี้นะ แล้วถ้าจะโทรมาก็โทรตอนมีเงินเท่านั้นนะ” พูดจบคนเป็นแม่ก็วางสายทิ้งทันที
ด้านฐานิศรก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ แต่กลับต้องมาแบกรับเอาไว้เองทั้งหมด หญิงสาวนั่งคิดทบทวนไปมากับการตัดสินใจครั้งสำคัญจนมืดค่ำจึงตัดสินใจโทรหาพี่ส้ม เพื่อขอกลับไปทำงานอีกครั้ง เพราะเธอหมดหนทางแล้วที่จะหาเงินหลักแสนให้ได้ภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์
“สวัสดีค่ะพี่ส้ม เอ่อ...ศรเองนะคะพี่ส้ม” ฐานิศรกล่าวทักทายไปหลังจากโทรแล้ววางไปสองรอบ จนรอบที่สามเธอจึงตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะกลับไปทำงานอีกครั้ง และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ
“ศรเหรอ! หายไปนานเลยนะเรา แล้วเป็นไงสบายดีหรือเปล่า”
“ศร...”
“ดูท่าจะไม่สบายล่ะสิ”
“ก็ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าทางพี่ส้มจะรับศรกลับเข้าไปทำงานอีกครั้งได้ไหมคะ”
“ได้สิ แต่ต้องทำตามกฎของพี่นะ แล้วถ้าพร้อมก็เข้ามาหาพี่ได้เลย”
“ถ้างั้นพรุ่งนี้ค่ำๆ ศรจะเข้าไปหาพี่ส้มนะคะ”
“เอาสักสี่ทุ่มแล้วกัน พี่จะว่างเวลานั้น ว่าแต่เรานึกยังไงถึงกลับมาทำงานกับพี่อีก”
“ศรต้องใช้เงินค่ะพี่ส้ม ศรก็เลยติดต่อกลับไปหาพี่ แล้วศรก็ต้องขอบคุณพี่ส้มมากๆ นะคะที่รับศรทำงานอีกครั้ง”
“ก็คนกันเอง เดือดร้อนมาพี่ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว แต่พี่ต้องวางสายก่อนแล้ว จะออกไปพบเพื่อนซะหน่อย แล้วพรุ่งนี้อย่ามาช้าล่ะ”
“ค่ะพี่ส้ม” หลังจากวางสายแล้วฐานิศรก็ลุกไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ทั้งที่ตั้งแต่กลางวันไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากน้ำเปล่า แต่เธอกลับไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด
วันต่อมา
ธาดา ทนายหนุ่มเดินทางมาพบเพื่อนที่ทำงานในช่วงเย็น หลังจากเพื่อนโทรนัดให้มาพบตั้งแต่ตอนเช้า แต่ติดงานเลยมาไม่ได้
“คุณธาดา เชิญในห้องทำงานได้เลยค่ะ” เลขาสาวคนสวยกล่าวเชิญ ก่อนจะเดินนำทนายหนุ่มไปยังห้องทำงานของผู้เป็นนาย เคาะห้องส่งสัญญาณก่อนจะเปิดประตูให้ทนายหนุ่มเข้าไป
“ว่าไงเพื่อน เรียกฉันมามีอะไร” นั่งลงได้สักพักทนายหนุ่มก็เอ่ยถามเพื่อนรัก
“หลักฐานที่ฉันหามาได้”
“หลักฐาน?”
“อืม”
“เฮ้ย! แกจะฟ้องหย่าเหรอ”
“ใช่!”
“เอาจริงเหรอเพื่อน”
“ฉันเหนื่อยกับแสงแขมามากแล้ว ฉันต้องการอิสระ” หน้าตาคนพูดแสดงให้เพื่อนเห็นชัดเจนว่าเหนื่อยจริงๆ
“แล้วแกคุยกับแสงแขเรื่องนี้หรือยัง”
“พูดแล้ว แต่แสงแขยืนยันว่าไม่หย่า”
“ถ้างั้นฉันจะจัดการให้” พูดจบทนายหนุ่มก็ไล่ดูเอกสารที่เพื่อนเตรียมเอาไว้ให้ ก่อนจะจัดเก็บลงซองไว้ แล้วเงยหน้ามองเพื่อน “แม่ของแกจะยอมเหรอ”
“ยอมไม่ยอม ฉันก็ไม่สนแล้วธาดา เพราะตอนนี้ฉันเหนื่อย”
“ฉันเข้าใจ แต่ฉันถามจริงๆ ว่าทำไมแกไม่เปิดใจให้แสงแขบ้าง หรือเป็นเพราะแกยังลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ได้” ทนายธาดาตั้งข้อเสนอสงสัย เพราะรู้ว่าเพื่อนรักผู้หญิงคนนั้นแต่ก็จำใจจบความสัมพันธ์แล้วมาทำตามความต้องการของมารดา นั่นก็คือแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนแม่
“แกอย่าลากเธอมาเกี่ยวเลย ทุกอย่างมันเกิดจากตัวแสงแขเอง แล้วฉันก็พยายามจะรักเธอแล้ว แต่ฉันก็ทำไม่ได้”
“ก็เพราะหัวใจของแกมีผู้หญิงคนนั้นอยู่ไง แกถึงรักใครไม่ได้” ธาดาย้อนจบแล้วก็จ้องหน้าเพื่อน
“ฉันไม่ได้ติดต่อกับเธอแล้ว เกือบสามปีได้แล้ว ธาดา” แต่ใช่ว่าเขาไม่คิดถึงเธอ เขายังคิดถึง แต่ก็ไม่คิดจะตามหา เพราะถือว่าจบกันแล้ว และเขาก็แต่งงานแล้วด้วย แต่หากเขาไม่มีพันธะใดๆ เขาจะตามหา
