บทที่1
อีกอย่างที่ยังนึกสงสัยอยู่ไม่หาย พ่อเธอแก่ขนาดนั้นจะเอาแรงที่ไหนไปทำลูกกัน! ไอ้เด็กที่กำลังจะเกิดมานั่นจะใช่น้องเธอจริงๆ รึเปล่าก็ไม่รู้
“หยุดก้าวร้าวได้แล้วยัยเรย์ แล้วก็รีบขอโทษน้าวันเขาเดี๋ยวนี้!” เพราะนึกอยากจะเอาใจภรรยาใหม่เสียงเข้มถึงได้ตวาดขึ้น ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เขาไม่สามารถจัดการขั้นเด็ดขาดได้ เพราะฝั่งหนึ่งก็คือภรรยา ขณะที่อีกฝั่งนั้นคือลูกสาว
“ไม่ค่ะ! เรย์ไม่ขอโทษ เพราะเรย์ไม่ได้ทำอะไรผิด คนพวกนี้ต่างหากที่ผิด ผิดที่หวังจับคนรวยๆ แต่โง่อย่างพ่อทำผัว!” สิ้นคำ ใบหน้าอ่อนหวานก็สะบัดไปตามแรงตบด้วยน้ำมือของผู้เป็นพ่อที่ขาดสติจนยั้งใจไว้ไม่ทันแต่ครั้นจะย้อนกลับไปแก้ไข ก็ไม่อาจทำได้
กี่ครั้งแล้วนะ...
ที่พ่อปกป้องคนพวกนั้นด้วยการทำร้ายเธอ!
กี่ครั้งแล้ว…ที่ท่านทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าคนอื่น!
เธอได้แต่ถามตัวเองในใจ สายตาที่จ้องมองบิดานั้นเต็มไปด้วยความปวดร้าวอย่างถึงที่สุด ตั้งแต่จำความได้ ท่านไม่เคยลงไม้ลงมือกับเธอเลยสักครั้ง จนกระทั่งสองแม่ลูกนั่นก้าวเข้ามา ทุกอย่างก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ไม่เว้นแม้แต่ความรักของท่าน ที่นับวันก็ยิ่งต้องถูกแบ่งไปให้กับคนพวกนั้น คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอแล้วใยท่านต้องมาบีบบังคับ ให้เธอไปนับญาติด้วยกับพวกมันด้วย!
“หนูเรย์ พ่อขอ...”
“ช่างเถอะค่ะ เรย์เจ็บจนชินแล้ว ในเมื่อไม่ว่าเรย์จะพูดยังไง มันก็คงไปไม่ถึงสติของพ่อ ก็เชิญพ่อมีความสุขกับคนพวกนี้ต่อไปเถอะค่ะ เรย์ขอตัว...” เธอเอ่ยได้เพียงเท่านั้นก็รีบวิ่งหนีออกมาจากบ้าน บ้านที่ตอนนี้มันไม่ได้ให้ความอบอุ่นกับเธอเหมือนเดิมอีกแล้ว
สุดท้ายเมื่อไม่รู้จะพาตัวเองหลบไปเลียแผลใจที่ไหน ก็เลยพาตัวเองมาที่นี่ซึ่งมันเป็นที่เดียวที่ทำให้รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้มา
“ทานเยอะๆ นะคะ นี่ถ้ารู้ก่อนว่าจะมาทานข้าวด้วย น้าคงทำของโปรดไว้ให้” จิตรีเอ่ยขึ้นอย่างเอาอกเอาใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรนางถึงได้ถูกชะตากับเด็กคนนี้นัก ต่างจากคนอื่นๆที่มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าคุณหนูเรย์ของนางเป็นเด็กนิสัยไม่ดี
“เรย์ทานอะไรก็ได้ค่ะ ของที่น้าตรีทำให้อร่อยทุกอย่างอยู่แล้ว” เพราะปกติแล้วเธอไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร ยิ่งกับคนตรงหน้านี้แล้วด้วย ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ท่านทำให้แม้จะแค่เล็กน้อย แต่มันก็มักจะทำให้เธอมีความสุขได้เสมอ
แม้ฉากหน้าจะดูเหมือนเป็นเด็กเข้มแข็งไม่แคร์ใคร แต่ลึกๆ แล้วนางกลับเห็นบางสิ่งที่มันแตกต่างออกไป บางอย่างที่เริ่มต้นจากความสงสาร ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเอ็นดูในที่สุด
อินทุอรใช้เวลาอยู่ร่วมกับสองแม่ลูกนานร่วมชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีแต่เธอกับน้าจิตรีเท่านั้นที่พูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ในขณะที่ชายหนุ่มคนเดียวของบ้านนั้น ปลีกตัวออกไปนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบเงียบๆ คนเดียวที่ระเบียงหน้าบ้าน ไม่ได้สนใจที่จะร่วมวงแต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปเกือบสี่ทุ่มกว่า จิตรีถึงได้เอ่ยขึ้น
“กลับบ้านเถอะนะคะ ป่านนี้คุณท่านคงรอแย่แล้ว” ไม่รอหรอก ไม่มีใครสนใจเธอ นับตั้งแต่ที่สองแม่ลูกนั่นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านบ้านที่จากนี้คงไม่ใช่สถานที่ที่ให้ความอบอุ่นแก่กันอีก
“เรย์ไม่อยากกลับ...”
“กลับเถอะนะคะ ถือว่าน้าขอร้อง นะคะ” เมื่ออีกคนขอร้องมาแบบนั้น เธอจึงหมดทางเลือก จำต้องยอมพยักหน้ารับกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอไม่อยากกลับไปเหยียบที่นั่น
ไม่แม้แต่นิดเดียว!
“ขึ้นมา!” เมื่อเดินออกมาจากบ้านของท่าน ก็ต้องพบเข้ากับภาพที่ทำให้ตกใจเมื่อได้เห็น
“ฉันกลับเองได้!” หญิงสาวโต้กลับทันควัน ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ตั้งแง่คอยแต่จะหาเรื่องตลอดเวลากันเช่นเขาเลย อีกอย่างเธอรู้ดีว่าหากไม่เป็นเพราะแม่ของเขาสั่งแล้วล่ะก็ หมอนี่คงไม่มีทางมายืนอยู่ตรงนี้แน่ เพราะเขาเกลียดขี้หน้าเธอจะตายไป ซึ่งเธอเองก็ใช่ว่าจะชอบเขาเสียเมื่อไหร่
