บทที่ 6
บทที่ 3
เกือบสิบชั่วโมงที่กัปตันนำเครื่องบินลำใหญ่เหินฟ้าจากประเทศไทยสู่กรุงมอสโคว์ประเทศรัสเซีย ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน อลินนาได้รับการดูแลจากแอร์โฮสเตสเป็นอย่างดี นั่นก็เป็นเพราะว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต่างก็คิดว่าหญิงสาวเป็นแขกคนพิเศษของผู้เป็นเจ้าของสายการบิน
แต่คนที่ดูแลอลินนาดีที่สุดคือแดเนียล...นอกจากจะดูแลอลินนาแล้วยังคะยั้นคะยอให้หญิงสาวไปเป็นแขกคนพิเศษของตน ซึ่งแดเนียลจำต้องยอมรับความจริงที่ก่อขึ้นในใจว่าเขาชื่นชอบและสนใจในตัวอลินนา กระทั่งเชื้อเชิญให้หญิงสาวไปพักในคฤหาสน์ของเขา
และชายหนุ่มก็ต้องพบกับความผิดหวังทุกครั้ง เพราะอลินนายังคงปฏิเสธในทุกครั้ง แต่แดเนียลก็ไม่ละความพยายาม กระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนลงจากเครื่องบิน ก็ไม่ลืมเอ่ยชวนอีกครั้ง
“อลินนา...แน่ใจว่าไม่ต้องการไปเป็นแขกคนพิเศษของผม”
“ไม่ค่ะ ฉันกลัวตรงคำว่าแขกคนพิเศษ และฉันต้องการท่องเที่ยวคนเดียวเงียบๆ หวังว่าคุณจะเข้าใจ”
อลินนาปฏิเสธโดยไม่ใยดี ซึ่งหญิงสาวหารู้ไม่ว่าคำปฏิเสธของเธอกำลังกวนตะกอนอารมณ์โกรธของแดเนียลให้ขุ่นมัวโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเชื้อเชิญด้วยคำพูดดีๆ หลายครั้ง แต่ก็ยังถูกปฏิเสธอย่างไม่แยแส แดเนียลก็เริ่มโกรธขึง คิดว่าอลินนากำลังเล่นตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจ จึงหลุดคำพูดออกมาให้หญิงสาวต้องโกรธจัด
“ที่ปฏิเสธตั้งแต่แรกเริ่มเพราะรู้ว่าผมสนใจในตัวคุณ เลยต้องการอัพราคาค่าตัวใช่ไหม อยากได้เท่าไรบอกมา”
อลินนานิ่งงันตัวชากับคำพูดดูถูกดูแคลนจากอีกฝ่าย มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ขบเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง พยายามนับหนึ่งถึงร้อยอยู่ในใจเพื่อข่มอารมณ์โกรธไว้สุดกำลัง
แต่ดูเหมือนว่าแดเนียลจะไม่สนใจดวงตาที่จ้องมองเขม็ง ไม่สนใจเสียงกัดฟันกรอดจากอลินนา ชายหนุ่มยังคงพ่นคำถามดูถูกถากถางออกมาว่า
“อยากได้ค่าตัวเป็นตัวเลขกี่หลัก ระบุมา! ต่อให้เป็นตัวเลขเจ็ดหลัก แปดหลักผมก็มีปัญญาจ่าย!”
เผี้ยะ!!!
แดเนียลพูดไม่ทันจบประโยคก็ต้องหน้าหัน เมื่ออลินนาสะบัดมือตบลงไปบนใบหน้าหล่อเหลาเต็มแรงตามอารมณ์โกรธจัดที่ขาดผึงลงเพราะคำพูดดูถูกของเขา
“ฉันไม่เคยคิดขายตัว หยุดปากพล่อย หยุดดูถูกฉันได้แล้ว ขออย่าให้เจอกันอีกเลย”
โครม!
ทั้งตบ ทั้งผลักร่างใหญ่ล่ำสันจนทรุดตัวลงไปกระแทกกับเก้าอี้ ท่ามกลางความตกใจของผู้โดยสารชั้นธุรกิจและแอร์โฮสเตสที่หันมามองเป็นสายตาเดียวกัน
อลินนาไม่สนใจว่าแดเนียลจะโกรธมากเพียงใด หญิงสาวคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กแล้วเดินลิ่วๆ ออกจากเครื่องบินโดยไม่สนใจว่าแดเนียลจะตามมาคิดบัญชีกับเธอหรือไม่
ทางด้านของแดเนียลเกิดมาไม่เคยโดนผู้หญิงตบหน้าแม้แต่ครั้งเดียว จึงเกิดอาการนิ่งงันนั่งอยู่บนเก้าอี้หลายนาที กว่าจะรู้สึกตัวผุดลุกขึ้นยืนเดินออกจากเครื่องบินพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาลูกน้องคนสนิทด้วย
ไม่มีการทักทายลูกน้องให้เสียเวลา ทันทีที่โรซอฟรับโทรศัพท์ แดเนียลก็ออกคำสั่งในทันที
“โรซอฟ...รายงานมา เรากำลังรอฟัง”
“ครับ เจ้านาย”
โรซอฟรับคำ แปลกใจอยู่มากที่เจ้านายหนุ่มสนใจผู้หญิงชาวไทยคนนี้เป็นพิเศษ กระทั่งส่งภาพถ่ายของหญิงสาวมาให้เขาสืบประวัติเป็นการเร่งด่วน
“เธอชื่ออลินนา...เป็นชาวเชียงใหม่ แต่มาทำงานในบริษัทส่งออกในกรุงเทพฯ ได้สามปีแล้ว เธอมีคู่หมั้นทำงานในบริษัทเดียวกัน และจัดงานแต่งงานเมื่อสองวันที่ผ่านมา...”
“อลินนา แต่งงานแล้ว”
แดเนียลครางออกมา บอกไม่ถูกว่าทำไมจู่ๆ อาการห่อเหี่ยว ผิดหวังและแสนเสียดายได้วิ่งเข้ามาปะทะในหัวใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่เขาสนใจได้แต่งงานแล้ว
“ครับ เจ้านาย แต่...”
“แค่นี้ก่อน โรซอฟ เรากำลังจะผ่านตม.แล้ว”
แดเนียลจำต้องกดตัดสายการสนทนา เพราะกำลังจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือ ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีชายหนุ่มก็ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย และเมื่อไปรับกระเป๋าเดินทางก็พยายามกวาดสายตามองหาอลินนา ทว่าไม่พบแม้แต่เงาของหญิงสาว
“อลินนา...คุณแต่งงานแล้ว แต่ทำไมมาเที่ยวคนเดียว แถมยังร้องไห้แทบจะตลอดเวลาด้วย”
แดเนียลพึมพำถามตัวเอง อยากได้คำตอบในสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ ทว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะคนที่จะตอบคำถามของเขาได้ดีที่สุดคืออลินนา แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าหญิงสาวไปอยู่ไหนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะสืบตามหาหญิงสาวขณะเธอท่องเที่ยวอยู่ในมอสโคว์
เมื่อแดเนียลเดินออกมาจากสนามบินมาถึงจุดนัดพบก็เห็นโรซอฟรอรับอยู่ ซึ่งอีกฝ่ายรีบเข้ามารับกระเป๋าเดินทางไปจากเจ้านายหนุ่ม พร้อมกับเอ่ยทักทายว่า
“ขอต้อนรับกลับมอสโคว์ครับ ประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้างครับ เจ้านาย”
“เราอยากรู้เรื่องของอลินนา นายรีบบอกมา เราอยากรู้ว่าเธอแต่งงานแล้วแต่ทำไมถึงมาเที่ยวในมอสโคว์แค่เพียงลำพัง เธอควรมาฮันนีมูนกับสามีไม่ใช่หรือ”
แดเนียลก้าวขึ้นรถเบนซ์คันหรูขณะออกคำสั่งกับโรซอฟ ในหัวของเขามีแต่เรื่องของอลินนาเท่านั้น ซึ่งทำให้เขาต้องแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมหญิงสาวถึงได้เข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาอย่างรวดเร็ว
โรซอฟก้าวขึ้นประจำตำแหน่งคนขับ เคลื่อนรถออกจากสนามบินมุ่งตรงไปยังคฤหาสน์หรูของเจ้านายหนุ่ม แล้วเอ่ยรายงานตามข้อมูลที่ได้รับมา
“ใช่ครับ อลินนาควรมาฮันนีมูนกับสามี ถ้าหากงานแต่งงานไม่ถูกยกเลิกกลางคันซะก่อน”
แดเนียลถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูง เอ่ยถามกลับราวกับได้ยินไม่ชัด “ยกเลิกงานแต่งกลางคัน”
“ใช่ครับ เจ้านาย”
“ทำไม เกิดอะไรขึ้น”
ขณะเอ่ยถามออกไป แดเนียลต้องยอมรับว่าลึกๆ แล้วเขาดีใจที่งานแต่งงานของอลินนาต้องยกเลิก และนั่นก็หมายความว่าหญิงสาวยังคงเป็นอิสระไม่มีพันธะกับใครอย่างแน่นอน
“มีผู้หญิงท้องโตบุกมาในงานแต่งงานก่อนพิธีสวมแหวนแค่ไม่กี่นาทีครับ”
“อลินนาคงช็อกกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน”
“ครับ เจ้านาย” โรซอฟรับคำพลางหยิบโทรศัพท์ของตัวเองยื่นให้เจ้านายด้วย “เจ้านายลองเปิดดูวีดีโอคลิปสิครับ ผมดูแล้วยังรู้สึกเจ็บปวดแทนคุณอลินนาเลยครับ”
ไม่ต้องรอให้ลูกน้องเอ่ยบอกซ้ำเป็นครั้งที่สอง แดเนียลรีบคว้าโทรศัพท์ของโรซอฟมาเปิดดูวีดีโอคลิปอย่างรวดเร็ว และทันทีที่ภาพเหตุการณ์ในวันแต่งงานของอลินนาปรากฏต่อสายตา ชายหนุ่มต้องกัดฟันกรอดด้วยความโกรธจัด
‘เดี๋ยวก่อนสิค่ะ จะสวมแหวนแต่งงานโดยไม่รอเมียและลูกของเจ้าบ่าวเลยหรือคะ’
‘คุณเป็นใคร’
‘ถามเจ้าบ่าวเอาเองสิคะว่าฉันเป็นใคร แต่ถ้าเขาไม่กล้าตอบฉันจะบอกให้เอาบุญก็ได้ว่า เจ้าบ่าวของคุณคือผัวของฉันและเป็นพ่อของลูกในท้องของฉันด้วย’
“ไอ้หน้าตัวเมีย มีลูกมีเมียอยู่แล้วยังมาหลอกอลินนาอีก”
แดเนียลสบถออกมา ตลอดเวลาที่ดูวีดีโอคลิปซึ่งถูกถ่ายไว้เกือบสิบนาที ชายหนุ่มขบกรามจนเส้นเอ็นปูดโปน แน่นอนว่าเขากำลังโกรธผู้ชายที่ทำให้อลินนาต้องเสียน้ำตา
“ใช่ครับ เจ้าบ่าวชื่อกฤตินัย มันมีเมียอยู่แล้ว แต่ก็คบซ้อนระหว่างคุณอลินนาและเมียของมัน นักสืบที่ผมจ้าง สืบประวัติของมันมาว่า มันหลอกให้เมียซึ่งตั้งท้องใกล้คลอดให้กลับไปคลอดลูกในต่างจังหวัด ส่วนมันก็มาจัดงานแต่งงานกับคุณอลินนา มันสับรางได้ดีเยี่ยมจนกระทั่งคุณอลินนาไม่เคยรู้ ไม่เคยระแคะระคายมาก่อนว่ามันมีลูกมีเมียแล้ว”
