บทย่อ
ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนทำให้เธอตั้งครรภ์แต่ด้วยสถานะที่ต่ำต้อย ชายหนุ่มไม่อาจยอมรับเธอได้
จุดเริ่มต้น
“ว้าย!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังลั่นทันทีที่เธอเห็นร่างสูงของชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ
โดยที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนพันรอบเอว หยดน้ำเกาะพราวบนแผ่นอกกว้าง
ส่วนชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนเลิกคิ้วอย่างไม่พอใจ“ นี่คุณเป็นใคร เข้ามาในห้องผมได้ยังไง ”
“ ไหมเข้ามาทำความสะอาดห้องค่ะ ”เขาพ่นลมหายใจสั้น ๆ พลางหยิบผ้าขนหนูเช็ดผมอย่างไม่ใส่ใจ
“ นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนใช้ ”เขาใช้สายตามองเธออย่างเหยียดหยามจนหญิงสาวหน้าเสีย
“ คนใช้แล้วไงคะ ทำไมต้องดูถูกกันด้วย ”
“ ก็เธอเป็นคนใช้ จะให้ชั้นเรียกว่าอะไรอ่ะ แล้วนี่ใครอนุญาตให้เข้ามาเวลานี้ ไม่รู้หรือไงว่าฉันยังอยู่ในห้อง ”
“ ถ้ารู้จะเข้ามาหรอคะ แล้วอีกอย่าง ทำไมคุณถึงไม่ล็อกประตู ”
เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเย่อหยิ่งเต็มไปด้วยความถือดี
“ ก็นี่มันบ้านฉัน และทุกคนในบ้านเขารู้กันดีว่าถ้าฉันยังไม่ออกไปข้างนอก ก็ห้ามใครเข้ามาในห้องนี้ ”
“ ก็ไม่รู้นี่คะ เพิ่งมาทำงานวันแรก ”
“ ไม่รู้ ก็รู้เอาไว้ด้วยว่าต่อไปอย่าได้เข้ามาถ้าฉันไม่อนุญาต ”
“ ค่ะ ”
“ รู้แล้วก็ออกไปสิ หรือว่าอยากอยู่ดูฉันแก้ผ้า ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอหน้าแดงด้วยความอับอาย รีบก้มหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
…
เช้าวันต่อมา เสียงพูดคุยดังขึ้นจากห้องโถงใหญ่ของบ้าน
“ คุณแม่ครับ ใครเป็นคนรับนังนั่นเข้ามาทำงานบ้านเรา ”
“ ลูกกำลังพูดถึงใคร ”
“ ก็คนใช้ที่เพิ่งมาใหม่ไงครับ ”
“ พ่อเอง ”
“ คุณพ่อรู้ไหมครับว่านังนั่นไม่มีมารยาทและยังปากดีใส่ผม ”
“ แล้วแกไปทำอะไรให้เขาก่อน ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วทันที “ คุณพ่อพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ ”
“ ก็ฉันรู้จักนิสัยแกดี ”
เขาเสียงดังขึ้นทันที “ แทนที่คุณพ่อจะเข้าข้างผม แต่คุณพ่อกลับเข้าข้างคนอื่น ”
พูดจบ เขาก็ลุกพรวดจากเก้าอี้ เดินออกจากบ้านหลังใหญ่ด้วยอารมณ์โมโห
หญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างสามีหันมามองด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ คุณไปพูดกับลูกแบบนั้นได้ยังไง เห็นไหมว่าลูกงอนแล้ว ”
“ ก็ช่างมันสิ ”
“ นี่คุณไม่แคร์ความรู้สึกลูกเลยใช่มั้ย ”
เธอพูดเสียงเข้ม ก่อนจะสะบัดหน้าเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของบ้าน
…
อีกไม่กี่วันต่อมา ในห้องรับแขก
“ คุณผู้หญิงคะ ไหมขอลาพักสักหนึ่งอาทิตย์ได้มั้ยคะ ”
หญิงเจ้าของบ้านวางถ้วยชาลงอย่างแรง “ ถ้าจะลาเยอะขนาดนั้นทำไมไม่ลาออกไปเลยล่ะ ”
“ คือพ่อของไหมกำลังป่วยค่ะ ไหมจำเป็นต้องกลับไปดูแลท่าน ”
“ ก็ฉันถึงแนะนำให้เธอลาออกไง เธอจะได้มีเวลาอยู่ดูแลพ่อเต็มที่ ”
“ แต่ไหมก็ต้องทำงานหาเงินเพื่อส่งให้ทางบ้านด้วยนะคะ ”
“ งั้นเธอก็ต้องเลือกระหว่างกลับไปดูแลพ่อหรือจะทำงานที่นี่ ”
“ คือไหมขอลาแค่อาทิตย์เดียวไม่ได้เหรอคะ ”
“ ไม่ได้ ถ้าจะลาหนึ่งอาทิตย์ก็เตรียมหางานใหม่ ”
หญิงสาวเม้มปากแน่น “ งั้นไหมขอลาสักสามวันได้มั้ยคะ ”
“ เยอะไป ฉันให้เธอลาได้มากสุดสองวัน ”
“ แค่เดินทางกลับก็ใช้เวลาเกือบหนึ่งวันเต็มเลยนะคะ ”
“ แล้วไงอ่ะ ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องลา ”
“ สองวันก็สองวันค่ะ ”
“ ดีที่ยังพูดรู้เรื่อง ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไป ฉันจะพักผ่อน ”
“ ค่ะ ”
เธอก้มหน้า กล่าวจบก็เดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย
…
เวลาผ่านไปไม่นาน ชายสูงวัยเจ้าของบ้านเห็นเธอเดินอยู่ในสวน จึงเรียกเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“ เป็นอะไรหรือเปล่า มีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็บอกนะ ”
“ เปล่าค่ะ ”
“ แน่ใจนะ ”
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงเบา “ คือพ่อของไหมกำลังป่วยค่ะ ”เธอลังเลอยู่นาน ก่อนตัดสินใจพูดความจริงออกมา
“ แล้วทำไมไม่รีบกลับไปดูแล ”
“ คือไหมเพิ่งไปขออนุญาตคุณผู้หญิงมาค่ะ ”
“ แล้วนี่จะกลับวันไหน กลับกี่วัน ”
“ กลับพรุ่งนี้ค่ะ กลับสองวัน ”
“ ห๊ะ! สองวัน ”
“ คุณผู้หญิงอนุญาตให้ลาได้สองวันค่ะ ”
“ แล้วทำไมไม่มาขออนุญาตฉัน ”
“ คือไหมไม่อยากให้คุณท่านมีปัญหากับคุณผู้หญิงค่ะ ”
“ แต่ฉันเป็นเจ้าของบ้านนะ ดังนั้นฉันมีสิทธิ์อนุญาตให้เธอลากลับบ้านกี่วันก็ได้ ”
“ แต่ไหม…”
“ ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง ”
“ ขอบคุณคุณท่านมากๆ เลยนะคะที่เข้าใจไหม ”
“ ต่อไปนี้ถ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วยก็บอกนะ ”
“ ค่ะ ”
…
หลายวันต่อมา
เสียงของหญิงเจ้าของบ้านดังขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาในห้องรับแขก
“ นังเด็กไหมนั่นยังไม่กลับมาอีกหรอ ”
“ ยังค่ะ เธอบอกว่าจะกลับไปเยี่ยมพ่อหนึ่งอาทิตย์ ”
“ นังเด็กนี่พูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง ใครอนุญาตให้กลับตั้งหนึ่งอาทิตย์ ”
“ ผมเป็นคนอนุญาตเอง ”
“ คุณปราชญ์! ”
“ นี่คุณอย่ามาขึ้นเสียงใส่ผมนะ! ”
“ ถ้าจะปกป้องกันขนาดนั้น ทำไมไม่รับมันมาเป็นเมียน้อยเลยล่ะ ”
“ ผมไม่ได้ปกป้องใคร แต่ผมมองว่าการที่คุณทำแบบนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง และผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานหรอก ”
“ ทำไมนังเด็กนั่นไปฟ้องอะไรคุณ ”
“ เธอไม่ได้ฟ้องอะไรทั้งนั้น ”
“ ถ้าไม่ฟ้องแล้วคุณจะรู้ได้ยังไง ”
“ ผมรู้ด้วยตัวเอง ”
“ ไม่จริง! คุณโกหกเพื่อปกป้องมัน ”หญิงวัยกลางคนสะบัดหน้าแล้วเดินหนีด้วยความไม่พอใจ
“ นั่นคุณแม่จะไปไหนครับ ”
“ ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ต้องเห็นหน้าพ่อ ”
“ คุณพ่อไม่คิดจะไปง้อคุณแม่หน่อยหรอครับ ”
“ ง้อทำไม พ่อไม่ผิด ”
ชายหนุ่มนิ่งไป ก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตามผู้เป็นแม่ขึ้นไปบนชั้นบน
“ ก๊อกๆ คุณแม่ครับ ”
“ แม่ไม่ได้ล็อกประตู ”
เขาค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างระมัดระวัง“ คุณแม่งอนคุณพ่อหรอครับ ”
หญิงวัยกลางคนหันมามองลูกชายด้วยแววตาเศร้าและขุ่นเคืองปนกัน“ เมื่อก่อนคุณพ่อไม่เคยพูดจาแบบนี้ใส่แม่ แต่พอนังเด็กนั่นเข้ามาทำงาน คุณพ่อก็เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรคุณพ่อก็เข้าข้างมัน ปริญก็เห็นด้วยกับแม่ใช่มั้ย ”
“ ครับ ผมเห็นด้วยกับคุณแม่ และผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดนังเด็กนั่นให้ออกไปจากบ้านเรา ”
หญิงวัยกลางคนยิ้มบางๆ อย่างโล่งใจเมื่อได้ยินคำตอบนั้น แต่กลับไม่รู้เลยว่า…คำพูดในวันนั้นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

