บท
ตั้งค่า

Ep.4

‘มันดูคุ้นๆ แฮะ’ ชายหนุ่มคิด พลางเพ่งพิศเค้าโครงหน้ารูปไข่นั้นอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้ง

รูปร่างและทรงผมของหล่อน มันดูคล้ายๆ ดารานางเอกสาวที่ชื่อพลอยไพลินมากเหลือเกิน นี่ถ้าหล่อนถอดแว่นตาอันใหญ่นั่นออก เขาคงจะหายสงสัยว่าเจ้าหล่อนเป็นใคร

พลอยไพลินจ้องหน้าผู้ชายไร้มารยาทอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ไม่อยากจะเสียเวลากับคนอย่างเขาอีก จึงรีบเดินไปนั่งที่เดิม แต่ร่างสูงเกินสันทัดก็เดินตามมา และมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้สายตาคู่สวยภายใต้กรอบแว่นตาอันใหญ่ ต้องเลิกคิ้วขึ้นมามองชายหนุ่มแปลกหน้าด้วยสีหน้าแปลกใจระคนไม่พอใจ ที่เขาจ้องมองเธออยู่อย่างนั้น ก่อนที่ริมฝีปากหยักได้รูปจะขยับเอื้อนเอ่ยออกมา

“คุณใช่ลูกสาวของป้าพรพรรณหรือเปล่า” ชายหนุ่มไม่อยากถามไปตรงๆ ว่าเธอใช่ดารานางเอกสาวที่ชื่อพลอยไพลินใช่หรือไม่ เพราะกลัวว่าเธอจะอายเพราะข่าวที่ยังคงอื้อฉาวไม่ซาลง อาจทำให้บางคนแถวๆ นี้เบี่ยงเบนความสนใจมาที่เธอ ซึ่งมันคงไม่เป็นที่ปรารถนาของนางเอกสาวตกกระป๋องอย่างพลอยไพลินนัก

พลอยไพลินรู้สึกอึ้งมากเมื่อถูกชายหนุ่มแปลกหน้า เอ่ยชื่อมารดาของเธอออกมาอย่างสนิทสนม แล้วเขาเป็นใครกันทำไมถึงได้รู้จักชื่อแม่ของเธอ แต่พอมองๆ ไป โครงหน้าของเขาก็คุ้นๆ เหมือนกันนะ และพอดีกับที่ทินกรถอดแว่นตาดำออกพอดี หญิงสาวจึงมีโอกาสสำรวจใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง

แล้วสายตาสวยซึ้งก็ไปสะดุดเข้ากับสายตาที่เธอคุ้นเคยมานานแสนนาน สายตาคมกล้าดุจพญาเหยี่ยว ที่ยังคงความเข้มคมกริบเมื่อมองสบตา หากใบหน้าเรียบตึงนั้นแย้มยิ้มออกมาสักนิด เขาคงจะดูดีมีเสน่ห์มากขึ้นไม่น้อย แต่เคราเขียวครึ้มที่ไม่ได้โกนมาหลายวัน กลับทำให้ใบหน้าคมคร้ามนั้นดูเถื่อนหน่อยๆ

“นายนั่นเอง ทินกร” หญิงสาวครางเรียกชื่อเขาเสียงแผ่วอย่างตกตะลึง รู้สึกว่าหล่อนเพิ่งจะหาเสียงของตัวเองเจอเดี๋ยวนี้เอง หลังจากสำรวจใบหน้าหล่อเหลาคมคายของชายหนุ่มอยู่นานสองนาน แล้วแก้มนวลสองข้างก็แดงระเรื่อขึ้นเมื่อรู้สึกตัวว่าเผลอจ้องเขานานเกินไปแล้ว

‘ทินกร นายเปลี่ยนไปมากจริงๆ’ นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ มากจนเธอจำเขาแทบไม่ได้เลย ทุกอย่าง...มีเพียงแววตาคมกล้าของเขาเท่านั้นที่ยังรู้สึกคุ้นเคย

เขาเองก็จำเธอไม่ได้เหมือนกันในคราวแรก เพราะเธอใส่แว่นตาสีดำอันใหญ่อำพรางใบหน้าสวยๆ เอาไว้

“ใช่ผมเอง ขอบคุณที่ยังจำกันได้” เขาเอ่ยเสียงเรียบ เดาไม่ออกเลยว่าตนรู้สึกเช่นไรที่ได้พบกับเธอ

“นายมารับฉันเหรอ” หญิงสาวถามเหมือนไม่แน่ใจนัก

“อืม” ชายหนุ่มตอบสั้นๆ พยักหน้าเล็กน้อย

“ไหนบอกว่าป้าภาจะมารับฉันไง ทำไมถึงกลายเป็นนายไปได้” หญิงสาวสงสัย เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอทินกรรวดเร็วปานสายฟ้าแลบแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ และบอกตัวเองไม่ได้เลยว่ารู้สึกอย่างไร ตื่นเต้น ดีใจ เสียใจ หรือว่าเฉยๆ แต่เมื่อสบสายตาคมกริบของเขาก็ทำเอาเธอประหม่าไปบ้างเหมือนกัน

“บังเอิญผมมีธุระต้องเข้าเมืองพอดี เลยอาสามารับแทน เพราะถ้าจะให้ป้าภามารับคุณเองท่าทางจะลำบากคนแก่มากเกินไป เพราะต้องนั่งรถขึ้นเขาลงเขาตั้งนานกว่าจะถึงบ้าน” เขาอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดิม

“ขอบคุณ” หญิงสาวเอ่ยสั้นๆ โดยไม่มองหน้าชายหนุ่มสักนิด

ไม่ใช่ว่าเธอไม่พอใจเขา แต่เพราะเธอกำลังรู้สึกประหม่าไม่กล้าสบตาคนตัวโตสูงใหญ่ตรงหน้านี่มากกว่า โดยเฉพาะสายตาที่มองเธออย่างสำรวจนั่นด้วย ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย รู้สึกขอบคุณแว่นตาดำนี่จริงๆ ที่มันอำพรางใบหน้าและดวงตาของเธอไว้ ไม่อย่างนั้นทินกรต้องรู้แน่เลยว่าเธอรู้สึกประหม่ามากแค่ไหน

ทินกรมีผิวสีแทนเพราะคล้ำแดด ยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูคมเข้มหล่อเหลาสมชายชาตรี รูปร่างของเขาสูงใหญ่บึกบึนต่างจากเมื่อหลายปีก่อนลิบลับ พลอยไพลินไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กวัยรุ่นผู้ชายที่ผอมแห้งเมื่อก่อน จะกลายร่างมาเป็นเทพบุตรที่หล่อแบบเถื่อนๆ ชวนให้เธอใจเต้นได้มากมายถึงเพียงนี้

“นี่กระเป๋าเดินทางของคุณใช่มั้ย”

ร่างเพรียวบางสมส่วนพยักหน้า จากนั้นร่างหนาก็ย่อตัวยื่นมือไปคว้ากระเป๋าใบใหญ่ของหญิงสาวมาถือไว้และเดินนำหน้าหล่อนไปที่รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ของเขาโดยไม่พูดอะไรอีก

ขาเรียวที่สั้นกว่าชายหนุ่มก้าวตามแทบไม่ทันจนต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามสารถีหนุ่มไปคล้ายจะไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก ที่เขาเป็นคนมารับเธอเองแทนที่จะเป็นป้านิภา

ระหว่างทางที่นั่งรถกลับบ้าน พลอยไพลินตั้งใจมองทิวทัศน์สองข้างทางด้วยความเพลินเพลิน ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก เจริญขึ้นไปตามยุคตามสมัย

พลอยไพลินจำได้ว่าสมัยก่อน ก่อนที่เธอจะออกจากหมู่บ้านไป ถนนส่วนใหญ่ยังเป็นดินลูกรัง แต่ตอนนี้กลายเป็นถนนคอนกรีตเกือบทั้งหมด ป่าไม้บนภูเขาที่เคยหนาทึบเขียวขจีเมื่อก่อน บัดนี้ป่าไม้ล้อมรอบภูเขาแต่ละลูกบางลงไปมาก แต่ก็ถือว่ายังค่อนข้างสมบูรณ์อยู่เมื่อเทียบกับป่าไม้บางภาคของไทย

ทินกรเงียบไปตลอดทางขึ้นเขาขณะขับรถ เพราะไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับหญิงสาวดี วันเวลาที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานทำให้เกิดช่องว่างมากมาย แม้แต่คำถามว่าสบายดีไหม ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยมันออกมา ทั้งที่เขาเองก็อยากจะถามหล่อนเหมือนกัน

แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา กับคำดูถูกเหยียดหยามอย่างไม่ไว้หน้าของเจ้าหล่อน ก็ทำให้ใบหน้าของโชเฟอร์หนุ่มเรียบตึงยิ่งกว่าเดิม บรรยากาศภายในรถจึงเต็มไปด้วยความอึดอัด จนพลอยไพลินเป็นฝ่ายร้อนรนทนไม่ไหวต้องทำลายบรรยากาศที่เงียบงันราวกับป่าช้านั่นเสียเอง

“ท่าทางของนายเหมือนไม่ได้เต็มใจอยากจะมารับฉันสักนิด” เสียงหวานเอ่ยออกมาเหมือนจะน้อยใจ

“รู้ได้ยังไง”

“ก็นายหน้าบึ้งเป็นตูดเป็ดแบบนี้ จะให้ฉันคิดเป็นอื่นได้ยังไง นายคงถูกป้านิภาขอร้องให้มารับฉันสินะ”

พลอยไพลินคิดว่าใช่ วันนี้ป้าของเธออาจจะมีธุระด่วนที่สำคัญจึงได้ไหว้วานให้เขามารับเธอแทนก็เป็นได้ แต่แปลกที่ทำไมป้าของเธอถึงไม่ยอมโทรมาบอกเธอก่อนว่าจะให้ใครมารับ เพราะถ้าหากรู้ว่าเป็นเขา หล่อนก็คงจะหาทางกลับบ้านป้าภาของเธอเองยังจะดีเสียกว่า

“ก็แค่ไม่อยากให้คนแก่ลำบาก” เขาตอบออกไปแบบส่งๆ ไม่อยากบอกความจริงว่าเขาเองก็อยากจะเห็นหน้าดาราตกกระป๋องที่เคยด่าทอถากถางเขามาก่อนเหมือนกันว่า หล่อนจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน และจะรู้สึกเช่นไรที่เจอหน้าเขา แต่ชายหนุ่มก็ยังเดาใจหล่อนไม่ออก เพราะแว่นตาสีดำอันใหญ่อำพรางความรู้สึกของดาราสาวไว้เป็นอย่างดี

“ไม่ใช่เพราะอยากจะมาสมน้ำหน้าฉันหรอกเรอะ ที่ตอนนี้ฉันตกอับจนต้องกลับมาบ้านนอกเพราะทนสู้หน้าใครไม่ได้ นายคงจะรู้สึกสะใจมากสินะ”

“เพราะอะไรคุณถึงคิดแบบนั้น” ร่างหนาไม่ตอบแต่กลับย้อนถามเธอแทน

“ก็เมื่อก่อนฉันเคยพูดจาดูถูกนาย” หล่อนตอบ

“จำได้ด้วยเหรอ” เขาถามเหมือนประชดเสียมากกว่า

แล้วบรรยากาศในรถก็เงียบลงอีกครั้งเมื่อทั้งสองต่างก็ย้อนนึกไปถึงวันวาน ที่ทั้งคู่ไม่เคยพูดจาดีๆ ต่อกันเลยสักครั้งที่เจอหน้า พลอยไพลินรู้สึกหวาดหวั่นในหัวใจแปลกๆ เมื่อคิดว่าทินกรอาจจะกำลังหาทางกลั่นแกล้งเอาคืนเธออยู่ก็เป็นได้

ความหวาดกลัวไม่ไว้ใจชายหนุ่มเริ่มครอบงำจิตใจ เมื่อนึกได้ว่านั่งรถมากับเขาสองต่อสอง และไม่กล้าที่จะเอื้อนเอ่ยวาจาใดๆ ออกมาอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel