สปอยเนื้อหา Ep.1
เป้าหมายของหล่อนคือตามหาบิดาที่ไม่เคยเจอหน้า
ไม่คิดสักนิดว่านอกจากจะได้มาพบรักทั้งที่ตัวเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว หล่อนยังเข้าไปอยู่ใจกลางปัญหาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ฝากหนูเคทกับพี่วินด้วยนะคะ สนุก-ไม่สนุก ถูกใจ-ไม่ถูกใจตรงไหน สามารถคอมเมนต์เข้ามาได้ค่ะ
สปอยเนื้อหา 1
เป็นเวลาเกือบบ่ายจัด เมื่อรถโอเปิล คอร์ซ่า 3 ประตู สีน้ำเงินคันกะทัดรัด จากเต๊นท์รถเช่าในตัวจังหวัด เลี้ยวจากถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน เป็นครั้งที่สามนับจากได้เลี้ยวลงจากสายเมนหลักสี่เลนประมาณสี่สิบนาทีที่แล้ว
ถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน เป็นถนนสองเลน ยังเป็นถนนลาดยาง แม้ว่าจะเป็นลาดยางที่ขรุขระ มีหลุมมีบ่อ และรอยร้าวเป็นระยะ
จากแผนที่คร่าวๆ ประกอบคำบอกเล่า หากหล่อนไม่เลี้ยวผิดตรงไหนสักแห่ง ก็จะเจอชุมชนเล็กๆ อีกแห่ง พ้นชุมชนนี้ไปแล้วไปต่ออีกประมาณสิบสองกิโลเมตรก็จะพบไร่ขนาดใหญ่ไร่แรกชื่อสนทอง ทางซ้ายมือ เลยไร่สนทองไปพอสมควรจะถึงไร่ฉัตรแก้ว และไร่สันติธรตามลำดับ
เวลาผ่านกว่าสามสิบนาที โดยที่ยังรักษาระดับความเร็วของรถไว้ที่ห้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็เกิดสถานการณ์ที่ทำให้ขวัญณภัทรต้องเหยียบเบรกกะทันหัน
หล่อนเจอทางแยกเจ้าปัญหา และเป็นปัญหาใหญ่เสียด้วย เนื่องจากในแผนที่คร่าวๆ ประกอบคำบอกเล่าของเจ้าของเต๊นท์รถเช่าไม่ได้พูดถึงทางแยกนี้เลย
เมื่อตัดสินใจเช่ารถจากเต๊นท์รถเช่าในจังหวัด หลังจากเดินทางมาถึงเมื่อเช้านี้ ขวัญณภัทรได้สอบถามถึงเส้นทางที่จะนำหล่อนสู่สวนหงส์จากเจ้าของเต๊นท์รถอย่างละเอียด
เขาถามหล่อนว่าตั้งใจจะไปจุดไหนของสวนหงส์ เพราะพื้นที่สวนหงส์ประกอบไปด้วยหลายตำบล มีหมู่บ้านอีกนับไม่ถ้วน หล่อนเกือบจะจนคำตอบ กระทั่งนึกได้ถึงชื่อไร่ที่ชายคนขับแท็กซี่ผู้มีน้ำใจพูดถึงว่าเคยเป็นข่าวเกรียวกราวบนหน้าหนังสือพิมพ์
“ไร่ฉัตรแก้วค่ะ พอจะรู้จักไหมคะ?”
เจ้าของเต๊นท์รถเช่ามองหน้าหล่อนนิ่งอยู่อึดใจก่อนตอบ
“รู้จักครับ ไร่ฉัตรแก้วเป็นไร่ใหญ่มาก ถึงว่าไม่เคยไปก็ต้องเคยได้ยินชื่อ รู้ว่าอยู่ตรงจุดไหนของสวนหงส์ นอกจากไร่ฉัตรแก้ว ละแวกนั้นยังมีไร่ใหญ่ๆ อีกหลายไร่ อย่างไร่สันติธร ไร่สนทอง นี่ก็กว้างขวางไม่แพ้กัน”
เห็นว่าเจ้าของเต๊นท์รถเช่าพูดอย่างรู้จักพื้นที่แถบนั้นดี หล่อนก็ถามต่อโดยเร็วอย่างมีความหวัง
“แล้ว...พอจะเคยได้ยินไร่คุณแสงโสม จันทร์ฉายไหมคะ?”
“แสงโสม จันทร์ฉายหรือครับ? เอ... ที่ผมพอจะรู้จัก ท่านชื่อแสงโสม แต่นามสกุลโสมนันท์ ไม่ใช่จันทร์ฉาย จันทร์ฉายเป็นชื่อไร่ครับ ไม่ใช่นามสกุล ไม่รู้ว่าจะใช่คนเดียวกับที่คุณถามถึงหรือเปล่า”
เจ้าของเต๊นท์รถเช่า ซึ่งน่าจะเป็นคนกว้างขวางทีเดียว เริ่มมองหล่อนอย่างพินิจมากขึ้น แต่ก่อนเขาจะทันถาม หล่อนก็ถามขึ้นก่อน
“แล้วคุณแสงโสม โสมนันท์ท่านนี้ มีลูกชายชื่อภูมิไหมคะ?”
ถามออกไปแล้วก็แทบจะกลั้นใจรอคำตอบ
“รู้สึกท่านจะมีแต่ลูกสาวนะครับ ผมพอรู้จักอยู่คนหนึ่ง คุณสวพร ที่แต่งงานกับคุณทวีลาภ มหัตสิน เจ้าของกิจการหลายอย่างในจังหวัดนี้เอง”
ถึงความหวังจะถูกทอนลงไปกว่าครึ่ง แต่ท่าทีลังเลเหมือนไม่แน่ใจของเจ้าของเต๊นท์รถเช่าก็ช่วยให้ไม่ถึงกับหมดหวังเสียทีเดียว ด้วยเหตุนี้หล่อนจึงมุ่งหน้าสู่สวนหงส์ด้วยความหวังที่ไม่ยอมให้หมดไป พยายามบอกตัวเองว่า ถึง ‘แสงโสม โสมนันท์’ จะไม่มีลูกชายชื่อภูมิ แต่ก็มีไร่ชื่อจันทร์ฉาย ไม่แน่ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องเป็นญาติกับ ภูมิ จันทร์ฉาย บิดาของหล่อนทางใดทางหนึ่งก็เป็นได้
ยิ่งพอนึกถึงภาพลงแทรกในหนังสือที่หล่อนนำติดตัวมาด้วย ความหวังที่ลดวูบก็กลับเพิ่มระดับขึ้นอีกครั้ง
“ไร่จันทร์ฉายจะอยู่คนละฟากแม่น้ำกับไร่ฉัตรแก้วนะครับ พอคุณออกจากตัวอำเภอขึ้นไปตามเส้นทางมุ่งสู่ทิศตะวันตก ให้สังเกตป้ายบอกเส้นทางที่จะไปภูไพรเอาไว้เรื่อยๆ คุณไปตามนั้นเลย กระทั่งถึงบึงน้ำทดค่อยเลี้ยวลงทางแยกทางซ้ายมือ ขับไปเรื่อยๆ จะเจอทางแยกอีกสองแห่ง เลยทางแยกที่สามก็จะพบชุมชนเล็กๆ เลยจากชุมชุนเล็กๆ นั้นไปประมาณสิบสองโล จะถึงไร่สนทองก่อน อีกประมาณสิบห้าโลจึงจะเข้าเขตไร่ฉัตรแก้ว เลยไปอีกเกือบสิบโล ข้ามสะพานไม้เล็กๆ ค่อมคลองก็จะข้าเขตไร่สันติธรละครับ ส่วนไร่จันทร์ฉาย ถ้าจะไปตามเส้นทางเดียวกันนี้ คุณจะต้องไปต่ออีกเกือบยี่สิบโล ข้ามสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งตามที่บอกแต่แรก เอางี้ ผมจะเขียนแผนที่ให้คร่าวๆ ละกัน อ้อ ลืมบอกไปเกี่ยวกับที่พัก เผื่อคุณจะขี้เกียจตีรถกลับมาพักในเมือง ในตัวอำเภอมีโรงแรมเล็กๆ พอให้อาศัยแรมคืนได้ครับ หรือจะย้อนกลับมาพักที่รีสอร์ทตามรายทางที่คุณผ่านก่อนจะเข้าเขตสวนหงส์ ก็พอจะหาได้สองสามแห่ง ถ้าคุณไปถูกทางก็จะมองเห็นละครับ รีสอร์ทตามรายทางที่ว่า”
หวนคิดถึงคำบอกของเจ้าของเต๊นท์รถเช่า ขวัญณภัทรก็แน่ใจว่าหล่อนมาถูกทาง เพราะผ่านรีสอร์ทซึ่งขึ้นป้ายเอาไว้เห็นชัดเหล่านั้นมาแล้วตั้งแต่ก่อนถึงตัวอำเภอสวนหงส์
ขวัญณภัทรคิดว่าหล่อนก็เลี้ยวตามแผนที่เขียนด้วยลายมือหยาบๆ มาตลอด ผ่านหมู่บ้านมาหลายหมู่บ้านก่อนจะเจอแต่ท้องทุ่งสลับป่าละเมาะเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร แต่ก็ยังไม่เห็นมีชุมชนเล็กๆ ที่เจ้าของเต๊นท์รถเช่าบอกว่าจะเป็นแหล่งชุมชนสุดท้ายก่อนเข้าเขตไร่ใหญ่ๆ ที่เขาทำเครื่องหมายให้เป็นที่สังเกตง่ายเอาไว้ในแผนที่หยาบๆ ที่หล่อนวางไว้บนเบาะข้างๆ ตัว แล้วนอกจากจะไม่เจอชุมชนเล็กๆ ดังกล่าว หล่อนยังมาเจอทางแยกเข้าให้ ทีนี้จะไปตรงหรือเลี้ยวไปตามทางแยกนี้ดีเล่า?
ขณะลังเลอยู่นั้น หล่อนก็นึกถึงคำบอกเล่าเกี่ยวกับเส้นทางช่วงต้นๆ ของชายผู้นั้นว่าให้มุ่งหน้าเข้าหาทิศตะวันตก
เอาละ ตะวันตกก็ตะวันตก หล่อนจะยึดดวงอาทิตย์ดวงโตลอยเรี่ยยอดไม้ที่มองเห็นอยู่ในขณะนี้เป็นหลัก ก็หวังว่าจะเป็นการเลือกที่ถูก
ตัดสินใจได้แล้วก็มองกระจกหลังนิดหนึ่ง ไม่พบยวดยานตามมาสักคันก็หักเลี้ยวลงถนนแยกย่อยทางขวามือ
เวลาผ่านไปประมาณหกถึงเจ็ดนาที แอสฟัลต์ หรือยางมะตอย ซึ่งลาดทับลงไปบนผิวดินหรือหินเพียงบางๆ ก็สิ้นสุดลง กลายเป็นถนนดินลาดต่ำลงเรื่อยๆ กระทั่งกลายเป็นทางรถวิ่งอยู่ในแนวระนาบเดียวกันกับพื้นแทนถนนไปเรียบร้อย
ขวัญณภัทรได้สำนึกว่าหล่อนมาผิดทางเสียแล้ว แม้ดวงอาทิตย์สีส้มกลมโตใกล้จะลับหายยังอยู่เบื้องหน้า เมื่อถนนดินเริ่มขรุขระ
ขณะลังเลว่าควรไปต่อหรือเลี้ยวกลับก็พอดีรถหล่นลงไปในหลุมและกระดอนขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ได้ยินเสียงก้อง ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร สติก็ดับวูบ
