บทที่ 7 ท้า
ผมเดินเข้าไปให้ไอ้พวกวัยรุ่นขยะเห็นหน้าตาความนิ่งของผมคงทำให้พวกมันไม่กลัวสินะถึงได้ทำหน้าตากวนตีนแบบนั้น
“สนามเหี้ยๆ แบบนี้พวกกูก็ไม่อยากมานักหรอก!”
สายตาสีดำสนิทของชายผู้หนึ่งมองมายังผมพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างท้าทาย ใบหน้าที่มีรอยซ้ำ แผลที่ได้มาจากเหตุการณ์เมื่อกี้น้อยกว่าคนอื่นๆ บอกได้ว่าไอ้นี่สินะหัวหน้า
“ถุย! แล้วมึงก็เสือกมา!”
คราบแพทย์อันขาวสะอาดเมื่อกี้ถูกลบเลือนออกไปอย่างสิ้นเชิง มีเพียงผู้ชายที่ดูเถื่อนๆ ถุยน้ำลายลงพื้นด้วยความกวนทรงผมถูกเซทขึ้นเผยใบหน้าขาวตี๋อย่างชัดเจนกางเกงสีดำขาดๆ เหมาะกับเสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยยีนสีเข้มดูโดดเด่นมากขึ้นด้วยสีผิวที่ขาวซีด
คำพูดออกจากปากของเจ้าสนามพูดขึ้นแล้วก็เดินเข้าไปช้าๆ พร้อมทั้งลูกน้องอีกนับสิบคนที่เดินตามไปติดๆ
สายตาสีทองแดงเข้มยังจับจ้องไปทางไอ้ดรีม หัวหน้าของกลุ่มที่มาหาเรื่องที่สนามแข่งของผมถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสามก็แล้วเถอะทำตัวกร่างไปทั่วทำไมผมถึงจะไม่รู้ชื่อของมันละแต่ในเมื่ออยากโดนดีไอ้รูธคนนี้ก็ให้ได้
“…”
“มึงข้องใจเชี้ยอะไรวะกับสนามของกูหะไอ้ดรีม!”
“…”
คนชื่อดรีมแปลกใจไม่น้อยที่ผมรู้จักชื่อของมันสายตาที่เหมือนจะตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเข้มเข้ากลบเกลื่อนตามเดิม คิดว่าคนอย่างไอ้รูธไม่รู้หรอกวะบอกเลยกระจอก
“แพ้เองหาเรื่องเองงั้นหรอวะหรือว่า....”
ผมยังพูดไม่จบก็มีการแทรกพูดขึ้นมาทันที
“พวกกูมาเอาเงินเดิมพันคืน”
“แม่ง !แต่พวกมึงแพ้”
เกินไปไหม?
แพ้แล้วมาขอเงินเดิมพันคืนบอกเลยว่าด้านวะเกลียดเข้าไส้กับคนประเภทนี้ใครให้ก็โง่เต็มทนแล้วแบบนี้
“แพ้แล้วไงวะก็กูจะเอาเงินคืน ไม่อยากให้...หรือไม่มีจ่ายกันแน่”
“…”
“เออหรือว่ามึงจะให้พวกกูพังที่นี่ละเลือกเอา!”
“คิดว่ากลัว?” คนอย่างผมมีปัญญาจ่ายคืนเต็มจำนวนแน่ๆ หรือมากกว่านั้นอีกถ้าเกิดมีการผิดพลาดเกิดขึ้นแบบแฟร์ๆ แต่คงไม่ให้คืนแน่นอนกับพวกปัญญาอ่อน ไม่มีหัวคิดจริงๆ แบบแพ้แล้วทวง “มีแต่ตีนที่กูจะให้พวกมึง!”
“เฮ้ย! พวกเราลุย!”
เสียงไอ้ดรีมหันตัวไปสั่งลูกน้องทันทีเมื่อได้ยินผมปฏิเสธความคุกกรุ่นกระจายไปทั่วทุกสารทิศในช่วงเวลานี้ สายตาที่ต่างคนต่างแสดงออกถึงความไม่ยอมใครทั้งนั้นความดุเดือดที่ออกมาจากองค์ประกอบทั้งอุปกรณ์การสู้ทั้งไม้หน้าสาม ท่อนเหล็กขวดแก้วเป็นต้นที่แต่ละคนถือยิ่งเป็นการตอกย้ำได้ดีจริงๆ
ปัง! ปัง! ปัง!
ปัง! ปัง! ปัง!
“จากตีนเป็นลูกปืนก็แล้วกันง่ายกว่าเยอะ” ผมพูดขึ้นเมื่อยิงไปที่พื้นคอนกรีตหนาตรงหน้าไอ้ดรีมที่กำลังจะเดินเข้ามาก่อเรื่องลูกน้องมันต่างชะงักถอนลงไปเมื่อได้ยินเสียงนี้ความเหนือกว่ามันใช้ได้ถ้าคนเรารู้จักการใช้มันสมองให้เกิดประโยชน์การจัดการกับหัวหน้ากลุ่มย่อมทำให้ลูกน้องไม่กล้าเข้ามาอีกเป็นหน้า “อยากตายก็เข้ามาลูกปืนของกูมีเพียบ พร้อมยิงเสมอถ้าเสร่อเข้ามาหาความตาย!”
“เอาไงดีลูกพี่?”
เสียงชายวัยรุ่นกลุ่มตรงหน้าพูดขึ้นถามไอ้ดรีม แต่สายตาคู่นั้นก็มองมายังวัตถุสีดำวาวที่อยู่ในมือของผมอย่างสั่นๆ เพราะความกลัวโลดแล่นเข้าใส่
“พวกมึงป๊อดหรือไงวะ” เสียงหัวเสียของไอ้ดรีมพูดขึ้นถัดมา
“แต่พวกนั้นมีปืนนะลูกพี่พวกเราแค่ท่อนไม้ เหล็กแก้วคงสู้ไม่ได้” วัยรุ่นคนดังกล่าวพูดขึ้นอีกครั้ง
“เงียบ!”
เสียงตะคอกของไอ้ครีมดังขึ้นมาด้วยแรงโทสะที่รุนแรงเพื่อเตือนลูกน้องของตัวเองก่อนที่สายตาจะหันกลับมาสบตาของผมอีกครั้งหนึ่ง ไอ้นี่มันกัดไม่ปล่อยง่ายๆ
“ถ้ามึงไม่กลัวก็เข้ามาไอ้ดรีมแต่นัดนี้ กู....ไม่พลาด!”
กริ๊ก!
ปัง!
เมื่อเสียงเตือนของผมจบลงลูกกระสุนก็พุ่งออกจากปลายกระบอกปืนโลดแล่นเข้าไปสู่มือด้านซ้ายของไอ้ดรีมเลือดอันแดงฉานต่างออกทะลักมาอย่างล้นหลาม
“ช่วยไม่ได้มึงไม่เชื่อกูเอง”
“…”
เสียงประกาศิตออกจากริมฝีปากได้รูปอย่างช้าๆ ด้วยความใจเย็นไม่สนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสายตาที่ลูกน้องไอ้ดรีมมองผมเหมือนกับว่าไม่เชื่อสายตา
“ใครอยากเป็นรายต่อไปก็เข้ามา...”
