บท
ตั้งค่า

บทที่20 พ่อลูกผูกพัน

“หะ แกว่าไงนะ” เสียงอุทานแทบจะเป็นตะโกนอย่างหลุดกิริยาของลูกชายคนโตของบ้านทำเอาลูกชายคนกลางที่มักจะทำตัวเข็ม ๆ คล้าย ๆ พี่ชายต้องยิ้มแห้ง ๆ ส่งให้ “ผิดที่ยัยพลอยเลยพี่ ยัยพลอยบอกหลานว่าผมเคยเจ้าชู้ หลานเลย...”

“ไม่ใช่นะคะพี่เพลิง พลอยแค่บอกว่าเพชรเคยมีผู้หญิงเยอะ ไม่ได้เป็นคนทำให้หลานมองพี่เพลิงแบบนั้นซะหน่อย เพชรคนเดียวเลย” คนถูกหาว่าเป็นสาเหตุรีบชี้แจงก่อนจะค้อนให้รณพีร์ ปัดโธ่ อย่ามาโยนความผิดให้เธอสิ ใครจะไปคิดละว่าหลานจะฉลาดคิดอะไรได้ขนาดนั้นน่ะ

รัชพลมองน้องชายที น้องสาวทีก่อนจะพรั่งพรูลมหายใจออกมาแทนที่จะต่อว่าต่อขานหรือลงไม้ลงมือกับน้อง ๆ มันไม่มีประโยชน์ที่จะตีโพยตีพายแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้เขาปวดหัวมากก็ตาม

ก็เขาดันทิ้งแกไปตั้งแต่แกยังไม่เกิดจริง ๆ ยัยหนูจะคิดว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้เหมือนรณพีร์มันก็คงไม่ผิด

“ผมขอโทษนะพี่ ผมแค่คิดว่าถ้ากล่อมลลินน์มาเป็นพวกได้ ทุกอย่างก็จะไม่บานปลาย”

“พลอยก็ขอโทษค่ะ ความจริงพลอยไม่ควรเล่าอะไรแบบนี้ให้หลานจำ”

“ช่างเถอะ พี่ไม่โกรธหรอก” พี่ใหญ่ของน้อง ๆ บอกพลางยักไหล่ ไม่ใช่ว่าไม่เครียดหรือกังวลว่าจะโดนยัยหนูเกลียดเอา แต่ที่ไม่โกรธน้อง ๆ ก็เพราะหลายปีมานี้ในระหว่างที่เขาไม่อยู่คุณอาทั้งสองก็ช่วยกันดูแลหลานสาวอย่างดี จะไปโกรธลงได้ยังไงกัน

“แล้วเรื่องลลินน์...”

“มันก็เป็นเรื่องที่พี่ต้องให้คำอธิบายกับยัยหนูอยู่แล้ว พวกนายไม่ต้องกังวลหรอก เขาถึงบอกว่าผูกเองก็ต้องแก้เองไง” ชายหนุ่มบอกน้อง ๆ ก่อนจะยักไหล่ไม่ให้น้อง ๆ ต้องเป็นกังวล จะบอกว่าตัวเขาไม่กังวลก็ไม่ได้ แต่เรื่องนี้พอมาคิดดี ๆ มันก็เป็นเรื่องที่เขาต้องแก้ไขด้วยตัวเองจะให้ครอบครัวมาเป็นกังวลด้วยก็คงไม่ได้

“เอาละ ๆ พักเรื่องนี้แล้วไปกินข้าวกันดีกว่า” แม่เลี้ยงพรพรรษาแทรกขึ้นก่อนจะดันหลังลูก ๆ ให้ไปที่ห้องรับประทานอาหารแค่รัชพลยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ให้การหย่าเกิดขึ้นและจะทำทุกอย่างให้เด็กหญิงพิมพ์รตามีครอบครัวที่อบอุ่นเธอก็สบายใจแล้ว เรื่องที่เหลือก็ปล่อยให้เจ้าตัวดีจัดการ ไว้มีเรื่องอะไรให้พ่อแม่และน้อง ๆ ช่วยก็ค่อยว่ากัน

ก็อย่างที่รัชพลบอก ผูกเองก็ต้องแก้เอง ในเมื่อลูกชายของเธอเรียนผูกเอง ก็ต้องแก้ไขมันด้วยตัวเอง

ทุกอย่างเกิดขึ้นในเช้าวันใหม่ รัชพลสะพายกระเป๋ามุ่งตรงไปมาที่ไร่อิงตะวันด้วยใบหน้ามุ่งมั่น เขาไม่ได้มุ่งตรงมาหยุดที่หน้าบ้านหลังใหญ่แต่เดินลัดเลาะไปยังเรือนด้านหลังซึ่งเป็นที่อาศัยของอดีตแม่เลี้ยงของไร่ตามที่สอบถามจากคนงานระหว่างทางที่เดินมา

แม่เลี้ยงลาวัลย์ปลายสายตามองหลานเขยที่มานั่งนิ่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก่อนจะส่งเสียงฮึในลำคอ ลองเข้ามานั่งในบ้านหลังนี้แล้วละก็ ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าจะเข้าหลังบ้าน กะจะให้ยายแก่คนนี้ช่วย คนอาบน้ำร้อนมาก่อนได้แต่คิดกับตัวเองก่อนจะก้าวเข้ามานั่งยังที่นั่งประจำ

“เรื่องบางเรื่องฉันก็แก่เกินจะยุ่ง เห็นทีจะมาเปล่าประโยชน์ซะละมั้ง”

“ผมไม่ได้มาขอให้ช่วยเรื่องหย่าครับ แค่...” คนมาถึงเรือนด้านหลังบอกและเว้นคำพูดก่อนจะอ้าปากพูดต่อด้วยเสียงที่เบาลง “เรื่องของยัยหนูน่ะครับ”

“ไปเรียกลลินน์มาที่นี่หน่อยสิรดา บอกว่ามีคนซื้อขนมมาฝากยายยายเลยให้ชวนมากินเป็นเพื่อน” ไม่ต้องให้พูดว่าจะให้ช่วยอะไรแม่เลี้ยงลาวัลย์ก็หันหลับไปบอกกับรินรดาหลานสาวในอุปถัมภ์และหันกลับมามองชายหนุ่มที่มีศักดิ์เป็นหลานเขยอย่างพิจารณา

“งานเรียบร้อยดีแล้วเหรอ”

“ครับ คดีเสี่ยพจน์จบแล้ว” ชายหนุ่มตอบไปตามความเป็นจริงขณะที่ตอบก็มองไปทางประตูอยู่บ่อยครั้ง ด้วยอยากจะเห็นยัยหนูเต็มที

“ไม่ต้องใจร้อน ยัยหนูไม่ได้เล่นอยู่แถวนี้ไม่โผล่มาไวนักหรอก รดาคงได้เล่นซ่อนหาสักครู่ใหญ่กว่าจะมาได้”

“แกเลี้ยงยากมั้ยครับ” ชายหนุ่มถามขึ้นหลังจากที่ถูกจับสังเกตได้ว่าอยากเจอลูกจนเสียกิริยา ความจริงเขาก็พอจะเดาได้ลูกสาวเลี้ยงไม่ยากนักแต่ก็ถามเพื่อเป็นการชวนคุยไม่ให้บรรยากาศเงียบเกินไป ความจริงเขากับอีกฝ่ายเคยพูดคุยกันแค่ไม่กี่ครั้ง วันนี้โผล่มาหาถึงที่ก็เกร็งอยู่ไม่น้อย

แม่เลี้ยงลาวัลย์ปลายตามองก่อนจะถามกลับคนชวนคุย “แล้วเท่าที่เห็น เห็นว่าแกเลี้ยงยากมั้ยละ”

รัชพลส่ายหน้าแทนการตอบ เท่าที่สัมผัสได้เด็กหญิงพิมพ์รตาเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายทีเดียว เป็นเด็กดีและสดใสมาก ๆ เสียด้วย

“แม่เขาเลี้ยงมาอย่างว่านอนสอนง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเด็กดีกับทุกคน” หญิงชราบอกก่อนจะจ้องมองคนมาหาทั้งที่เคยพูดคุยกันแค่ไม่กี่ครั้งอย่างจริงจัง “เรื่องของผู้ใหญ่น่ะจะไปยังไงทำยังไงต่อก็คุยกันเอาเอง แต่เรื่องลลินน์ หวังว่าจะไม่ทำให้ยัยหนูของฉันเสียใจนะผู้กอง”

“ผมจะไม่ทำให้ยัยหนูเสียใจอีกครับ ผมสัญญา”

“จำคำพูดตัวเองเอาไว้ละ เมื่อไหร่ที่ผิดคำพูด อย่าหาว่ายายแก่คนนี้ใจร้ายก็แล้วกัน”

“คุณยายจะไม่ได้ใจร้ายแน่นอนครับ” เขาตอบพลางหันไปมองประตูอีกครั้งคราวนี้ได้ยินเสียงกระดิ่งดังมาไม่ได้เงียบสนิทเหมือนตอนแรก เขาก้มลงมองตามทางเดินก่อนจะกลั้นยิ้มเอาไว้อย่างสุดความสามารถเมื่อเห็นเจ้าแมวที่ชื่อคล้าย ๆ เขาเดินต้วมเตี้ยมมาหยุดอยู่ที่หน้าขาของเขาก่อนจะเอาหน้ามาลูบกับขาแข็งแรง...เจ้าตัวนี้นี่มันช่างน่าจกพุงจริง ๆ

“ต้นเพลิงเนี่ย ไม่รอเลย โอ๊ะ...” เสียงใสกังวานหลุดอุทานก่อนที่ร่างเล็กในชุดกระโปรงฟูฟ่องจะขยับไปหลบหลังรินรดาด้วยใบหน้าตื่น ๆ รัชพลขมวดคิ้วมองตามร่างเล็กที่หลบหลังเด็กสาวก่อนจะค่อย ๆ ยื่นหน้ามามองเขา พอเห็นว่าเขาจ้องอยู่ก็รีบหลบในทันที

ลูกคงไม่ได้กลัวเขาอะไรทำนองนั้นใช่มั้ย?

“อ้าว เป็นอะไรล่ะนั่น พ่อเขาเอาขนมมาหลายอย่างเลยนะ ไม่มากินกับทวดเหรอ” คนเป็นคุณทวดถามหลานสาวที่อยู่ ๆ ก็แสดงกิริยาตื่น ๆ ออกมาทั้งที่เมื่อคืนวานก่อนจะนอนวิ่งมาจ้อให้ฟังว่าเจอพ่อมาอย่างนั้นอย่างนี้ เขินพ่อหรือไงกันเด็กคนนี้

“ละ ลลินน์ ลลินน์” ยัยหนูที่คิดว่าจะตั้งหน้าตั้งตารอพ่อมาอธิบายพอเจอพ่อจ๋าเข้าจริง ๆ กลับรู้สึกเขิน ๆ ไม่ค่อยคุ้นชินขึ้นมาเสียอย่างนั้น ความคิดในตอนแรกที่รู้ว่าเป็นพ่อลูกกันกลับมาอีกครั้ง พ่อจ๋าจะโกรธที่เธอจำไม่ได้หรือเปล่า แล้ว แล้วพ่อจ๋าจะรักเธอมั้ย

แม่เลี้ยงลาวัลย์ถอนใจเบา ๆ “เฮ้อ เป็นอย่างนี้ไป งั้นปล่อยพ่อลูกเขาอยู่ด้วยกันซะก่อน รดาเอาขนมไปจัดใส่จานแล้วไปรอที่หลังบ้านกันเถอะ”

“ค่ะคุณยาย”

พอรินรดาขยับตามแม่เลี้ยงลาวัลย์ไปคนที่แอบอยู่ด้านหลังก็ร้องประท้วง “งื้อ พี่รดา”

เมื่อเหลือเพียงสองพ่อลูกชายหนุ่มก็มองใบหน้าที่ดูตื่น ๆ ของยัยหนูด้วยความหวาดหวั่น “ลลินน์กลัวพ่อเหรอ”

“เปล่าน๊า ไม่ใช่”

“แล้วหนูโกรธพ่อเหรอคะ”

ยัยหนูส่ายหน้ามองพ่อจ๋าที่มองมาด้วยใบหน้าที่คล้ายกับเจ้าต้นเพลิงเวลาจะอ้อนก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ ๆ “พะ พ่อจ๋าไม่โกรธลลินน์ใช่มั้ยคะ ลลินน์ทั้งขู่ทั้งไม่รู้ว่าพ่อจ๋าเป็นพ่อจ๋า”

“โธ่ลูก พ่อจะโกรธหนูได้ยังไง พ่อต่างหากที่ควรโดนโกรธ”

“พ่อจ๋าไม่โกรธลลินน์จริง ๆ เหรอคะ”

“จริงสิ พ่อไม่โกรธ และถ้าหนูไม่ได้เกลียดพ่อ มา...มาให้พ่อกอดหน่อยได้มั้ย”

เด็กหญิงพิมพ์รตาไม่ลังเลอะไรอีกแล้ว หนูน้อยก้าวเข้าไปในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อในทันทีและกอดเอาไว้ด้วยแขนเล็ก ๆ ด้วยความคิดถึง “ฮึก ลลินน์คิดถึงพ่อจ๋ามากเลย ในที่สุดลลินน์ก็ได้เจอพ่อจ๋า”

“พ่อขอโทษนะลูก พ่อผิดเอง พ่อไม่ดีเอง”

รินรดาแอบมองสองพ่อลูกก่อนจะรีบไปรายงานคุณยายอุปถัมภ์เมื่อเห็นว่าพ่อลูกจะเข้าใจกันแล้ว แม่เลี้ยงลาวัลย์ยิ้มสบายใจก่อนจะจิบชารออย่างมีความสุข ให้พ่อลูกเขาคุยกันสักหน่อยค่อยเรียกมากินขนมท่าจะดี

รัชพลกอดลูกสาวอยู่เนิ่นนานกว่าจะยอมปล่อยและมองยัยหนูอย่างมุ่งมั่น มาวันนี้เขาก็มาเพื่อจะอธิบายสิ่งที่ลูกเข้าใจผิดแต่ไม่ทันจะพูดยัยหนูก็ถามเสียก่อน

“พ่อจ๋าเจ้าชู้เหมือนอาเพดมั้ยคะ”

“ไม่นะลูก พ่อไม่เคยทำตัวแบบอาเพชรนะ”

“แล้วทำไมแม่จ๋าโกรธพ่อจ๋าละคะ”

“คือ...” ทั้งที่คิดจะมาอธิบายแต่คำตอบของคำถามมันก็เป็นเรื่องที่ทำให้รัชพลนึกลังเลที่จะพูด “พ่อ...”

“พ่อจ๋าทำอะไรให้แม่จ๋าโกรธคะ”

“พ่อจ๋าไปทำงาน ไม่รู้ว่าแม่จ๋ามีหนู เลยไม่ได้ช่วยแม่จ๋าดูแลหนู ทั้งยังพูดไม่ดีทำร้ายจิตใจแม่จ๋า แม่จ๋าก็เลยโกรธพ่อจ๋า แต่ทั้งหมดพ่อจ๋าเป็นคนผิดทั้งหมด แม่จ๋าจะโกรธก็ไม่ผิด” ชายหนุ่มอธิบายโดยไม่ลงลึก เป็นไปได้เด็กหญิงพิมพ์รตาไม่ต้องรู้เลยจะดีกว่าว่าพ่อกับแม่มีเรื่องราวเป็นมายังไง

“ลลินน์จะช่วยพูดกับแม่จ๋าให้เอง วางใจลลินน์ได้เลย”

ยัยหนูแสดงท่าทีมุ่งมั่นแต่ชายหนุ่มกลับส่ายหน้า “อย่าเลยลูก แบบนั้นแม่จ๋าน้อยใจคิดว่าหนูรักพ่อจ๋ามากกว่านะ ให้พ่อจ๋าจัดการเองดีกว่า”

“พ่อจ๋าคะ แล้ว ถ้าพ่อจ๋าทำให้แม่จ๋าหายโกรธไม่ได้พ่อจ๋าจะได้มาอยู่กับลลินน์มั้ยคะ ลลินน์อยากอยู่กับพ่อจ๋า”

“พ่อจ๋าจะมากับลลินน์ให้ได้ นี่ เตรียมกระเป๋ามาแล้ว ถ้าแม่จ๋าไม่ให้พ่อจ๋าอยู่กับลลินน์ พ่อก็จะอยู่บ้านพักคนงาน จะอยู่ใกล้ ๆ ลลินน์ชดเชยเวลาที่ผ่านมา จะทำให้ลลินน์มีความสุขที่สุดเลย พ่อจ๋าสัญญา”

“ลลินน์จะช่วยเป็นกำลังใจให้นะคะ”

สองพ่อลูกยังคงพูดคุยกันโดยไม่รู้เลยว่ามีใครคนนึงเข้ามาในเรือนหลังและถอยร่นออกไปแล้ว ลัลน์ลภัสเดินห่างออกมาจากเรือนหลังก่อนจะเดินเรื่อย ๆ ไปในไร่อย่างใช้ความคิด กว่าจะรู้ตัวก็เดินมาถึงแปรงดินที่ว่างเปล่าที่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไร รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของแม่เลี้ยงแห่งไร่อิงตะวันในชั่วพริบตา

ถ้าเธอไม่ให้อยู่กับลูกจะไปอยู่บ้านคนงานงั้นเหรอ...งั้นก็เป็นคนงานไปเลยแล้วกัน โดนแดดสักหน่อย ก็คงจะยอมแพ้ไปเองนั่นแหละ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel