บท
ตั้งค่า

ตอนที่2 เป็นใครกันแน่

“มันมีบริษัทที่อย่างจากบ้านของหนูไม่ไกลนักนะ เป็นบริษัทที่ค้าพวกเพชรพลอยแล้วก็เครื่องประดับหอยมุกอะไรพวกนี้ หนูลองยื่นใบสมัครไปที่นั่นดูนะ อ่อ...แล้วหลังจากนี้เราก็อาจจะได้เจอคนที่อยากเจอมาทั้งชีวิต แต่ชีวิตของหนูก็จะมีอุปสรรคเข้ามาหนักพอสมควร ป้าอยากให้หนูอดทนหมั่นสร้างแต่ความดี แล้วกรรมที่หนักก็จะทุเลาลงได้ สุดท้ายหนูก็จะเจอกับความสวยงามในชีวิต”

พราวจันทร์ไม่ได้กังวลเรื่องอุปสรรคในชีวิตแม้แต่น้อย เพราะทั้งชีวิตเธอก็เจอมันมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว แต่เรื่องคนที่เธออยากจะเจอมาตลอดชีวิตคือพ่อกับแม่ที่แท้จริง หากสิ่งที่ถูกทักเป็นความจริงเธอก็จะดีใจมากๆ

“ส่วนหนู ให้พ้นเดือนหน้าไปก่อนนะแล้วค่อยสมัครงาน เพราะจะมีคนชวนหนูไปทำงานด้วย” เป็นคิวของเมขลาที่ถูกทักขึ้น

“แล้วจะเป็นบริษัทที่หนูชอบแล้วทำได้ยาวหรือเปล่าคะ”

“ชอบไม่ชอบหนูก็ต้องไปเชื่อป้าสิ รายได้ดีมากด้วยล่ะ แต่ระวังคนอื่นจะนำปัญหามาให้หนูกับพี่ชาย หมั่นชวนพี่ชายหนูทำบุญเอาไว้เยอะๆ ก็แล้วกัน”

“คนอื่น...ใครเหรอคะ หนูจะได้ระวังไว้”

“ป้าพูดได้แค่นี้จริงๆ”

“ค่ะ” ตอนนี้เมขลายังคิดเรื่องว่าใครที่จะนำปัญหามาให้ไม่ออก แต่ก็ดีใจที่อนาคตจะได้มีรายได้ที่เข้าขั้นดีมากแค่นี้เธอก็ดีใจแล้ว

“ถึงตาหนูแล้วนะ”

ล้อมรักนั่งยิ้มแป้น มือทั้งสองเกาะติดขอบโต๊ะเพื่อรอฟังคำทำนายอย่างตั้งใจ

พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า จะมีเปิดรับพนักงานบัญชีที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่หน้าเว็บไซต์หางาน หนูยื่นไปที่นั่น จะได้เพื่อนร่วมงานที่ดี แถมยังมีโอกาสเจอเนื้อคู่อย่างที่ใจหนูคิดด้วยนะ อาจจะมีอายุหน่อยนะ แต่เค้าจะรักหนูจริงๆ”

“เนื้อคู่/เนื้อคู่”

พราวจันทร์และเมขลาต่างก็หันไปมองจ้องล้อมรักที่นั่งก้มหน้างุดกันเป็นตาเดียว เพราะไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนตัวเองนั้นจะคิดอยากเจอเนื้อคู่แล้ว

“มันก็มีแวบๆ เข้ามาในหัวน่ะ” ล้อมรักอมยิ้มแก้เขิน ไม่เคยคิดจะบอกความลับนี้กับเพื่อนๆ แต่วันนี้ความในใจก็ถูกเปิดเผยขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น หมอดูบทจะแม่นก็แม่นอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ

“วันนี้ป้าบอกพวกหนูได้เท่านี้ เอาไว้หากวันหน้าฟ้าลิขิตอยากให้เรามาเจอกัน เราก็จะได้เจอ” พูดจบแม่ค้าร่างท้วมก็เดินลุกขึ้นหายเข้าไปในความมืด สามสาวเห็นเช่นนั้นจึงลุกขึ้นเดินอ้อมต้นโพธิ์ใหญ่และกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ปรากฏว่าบนโต๊ะของพวกเธอว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ก๋วยเตี๋ยวสักชาม

“อ้าว ใครมาเก็บไปอะ ยังไม่ได้กินเลย” พราวจันทร์ยืนบุ้ยปาก แววตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังเพราะตอนนี้หิวจนท้องร้อง ยังไม่ทันได้เคี้ยวแคปหมูกรอบๆ กับก๋วยเตี๋ยวของทั้งหมดก็อันตรธานหายไปแล้ว

ไม่กี่วินาทีหลังจากสามสาวทำหน้าผิดหวังเด็กเสริฟผู้ชายก็เดินถือถาดที่มีชามก๋วยเตี๋ยวสามชามมาเสริฟให้พวกเธอ

“อันนี้ทำมาให้ใหม่เหรอคะ” เมขลายิ้มกลายๆ ด้วยพอจะรู้แล้วว่าแม่ค้าคงเห็นว่าก๋วยเตี๋ยวที่ทำท่าจะเย็นชืดเลยทำให้ใหม่

“เปล่าครับ ป้าเพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้นี้เอง”

“คะ? ป้าเพิ่งทำ”

คำตอบของเด็กเสริฟที่กำลังวางชามก๋วยเตี๋ยว ทำสามสาวเริ่มมองหน้ากันและกลืนน้ำลายไม่ลงคอ โดยเฉพาะเมขลาพอจะเดาได้อย่างรวดเร็วว่าพวกเธอจะต้องเจออะไรแปลกๆ กันแน่นอน

“ครับ เพิ่งเสร็จจากออเดอร์สามบิลแรก ป้าก็รีบทำให้พวกน้องเลยครับ”

“อ๋อค่ะ”

ให้หลังเด็กเสริฟไปได้ทั้งสามก็มองไปยังแม่ค้าร่างท้วมที่กำลังยืนลวกก๋วยเตี๋ยวมือเป็นระวิง ให้เดาเหตุการณ์จากคำพูดของเด็กเสริฟเท่ากับว่าเมื่อครู่แม่ค้าร่างท้วมที่พวกเธอเห็นตอนนี้ยังไม่ได้เดินออกไปจากหน้าร้านแม้แต่ก้าวเดียว แล้วที่พวกเธอเจอคือใครกัน

“เมื่อกี้อย่าบอกนะว่าเราเจอเรื่องเหนือธรรมชาติอะ” ล้อมรักยื่นมือเขย่าแขนเพื่อนทั้งสองด้วยสีหน้าเหยเก

“รีบกินให้อิ่มแล้วก็รีบกลับดีกว่า อย่าคิดอะไรมากเลย เค้าไม่ได้มาไม่ดีไม่ใช่เหรอ” เมขลารีบเตือนสติไม่ให้เพื่อนทั้งสองรู้สึกกลัวอะไร เพราะเมื่อครู่ที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เหตุการณ์ไม่ดี เธอไม่รู้หรอกว่าที่คุยกับแม่ค้าร่างท้วมที่หลังต้นโพธิ์จะใช่แม่ค้าจริงๆ หรือเปล่า แต่อย่างน้อยเค้าก็มาชวนพวกเธอทำบุญ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่วนคำทำนายที่พวกเธอถูกทักจะจริงหรือไม่จริงก็รอตัดสินกันในอนาคตก็แล้วกัน

พราวจันทร์กลับมาถึงบ้านได้เธอก็มาช่วยสโรชา น้าสาวที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กๆ เก็บและทำความสะอาดร้านอาหารตามสั่งที่เปิดอยู่หน้าบ้าน

“ท่าจะขายดีใช้ไหมจ๊ะวันนี้ ปิดร้านซะดึกเลย”

“ก็บ้านท้ายซอยญาติเค้ามาเยี่ยมกะทันหัน เลยสั่งกับข้าวหลายอย่างน้าก็เลยเพิ่งจะได้เก็บร้านนี่แหละ แล้วกินอะไรมาหรือยังพราว”

“กินก๋วยเตี๋ยวก่อนกลับมาแล้วจะ”

“ว้า...วันนี้น้าอุตส่าห์ทำไก่ตุ๋นเอาไว้รออยู่ในครัว” ผู้หญิงตัวเล็กผิวขาววัยสี่สิบกว่าเอ่ยหยอกหลานสาวฉายาป้าแว่นหน้าหวานที่กำลังยกเก้าอี้ขึ้นเก็บบนโต๊ะ

“แต่พราวก็ยังกินของอร่อยได้อยู่จะน้าบัว” พราวจันทร์ได้ยินชื่อของโปรดก็หูผึ่ง ไม่ว่าเธอจะอิ่มแค่ไหนก็ขอให้ได้รับประทานของโปรดลิ้มรสมันสักคำสองคำเธอก็พลอยชื่นใจ

“ว่าแล้วเชียว” สโรชาหรี่ตามองหลานสาว เธอส่ายหัวน้อยๆ เดาไม่ผิดว่ายังไงตัวแสบของเธอก็จะต้องไม่ปฏิเสธเมนูที่เธอทำเอาไว้ให้อยู่แล้ว

อ่อ...แล้วไปขอพรมาคนเยอะหรือเปล่า”

“แน่นเลยน้าบัว คนศรัทธาท่านเยอะมาก พราวว่าถ้าได้งานแล้วพราวจะกลับไปหาท่านอีก”

“จะไปเมื่อไหร่ก็บอก น้าว่าจะไปด้วย อยากได้ยอดขายเยอะกว่านี้ อ่อ...เค้าว่าที่ตรงนั้นมีหมอดูแม่นอยู่นี่นา เราได้แอบไปดูกันบ้างหรือเปล่าล่ะ”

คำถามของสโรชาทำคนที่ยิ้มร่าเริ่มหน้าเจื่อน คราแรกเกือบจะทำใจให้ไม่คิดเรื่องที่ไปเจอมาได้แล้ว แต่เมื่อถูกน้าสาวตั้งคำถามพราวจันทร์ก็รู้สึกขนลุกขนชันขึ้นมาอีกรอบ

“ก็...ดูกันมาบ้าง น้าบัวไปอาบน้ำเถอะจะได้พักผ่อนมันดึกแล้ว เดี๋ยวพราวไปกินข้าวสักคำสองคำก็จะเข้าห้องนอนเหมือนกัน” พูดจบก็รีบสาวเท้าเดินไปยังครัวทันที เพราะไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ เอาไว้หากเช้าแล้วหรือวันอื่นที่เธอหายกลัวเธอก็ค่อยเล่าให้น้าของเธอได้ฟังคราวหลัง

“อ้าว...นึกจะรีบก็รีบไปดื้อๆ ซะงั้นหลานคนนี้” สโรชายืนเท้าเอวขมวดคิ้วชะเง้อมองตามหลังพราวจันทร์ ไม่เข้าใจว่าทำไมหลานเธอต้องรีบร้อนอะไรขนาดนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel