ตอนที่ 4
พอแม่สั่ง เด็กชายก็หันไปยกมือไหว้พี่เลี้ยง ค้อมตัวลงด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นดู มัทนารีบจูงมือเด็กชายตัวน้อยตามเธอไปเกือบถึงถนนใหญ่ก็ต้องชะงักเมื่อจู่ ๆ มีรถเก๋งแล่นเข้ามาจอดข้าง ๆ หญิงสาวหยุดยืนและกุมมือลูกชายไว้มั่น พอประตูรถเปิดออกก็มีร่างสูงของใครคนหนึ่งก้าวลงมา เมื่อเห็นว่าเป็นใครหญิงสาวถึงกับใจหายวาบ
“โรส...”
รังสิมันต์เรียกชื่อของเธอเมื่อเขาก้าวลงจากรถ ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปหามัทนาที่กุมมือลูกชายไว้แน่น เห็นได้ชัดว่าเธอทั้งกลัวและประหม่า หนูน้อยเงยหน้ามองแม่แล้วถาม
“แม่คับ...ใครคับ?”
“สวัสดี...หนูชื่ออะไรครับ?
รังสิมันต์ย่อตัวลงและพูดคุยกับเด็กชายตัวน้อยที่ทำให้เขาเกิดความตื่นเต้นตั้งแต่แรกเห็น
“ชื่อเด็กชายฤทธิ์คับ...แม่คับเรียกน้องริว”
“ชื่อเพราะจังเลยครับ น้องริว”
“คุณน้าเป็นใครคับ?”
“น้าเมฆนะครับ...เรียกน้าว่าน้าเมฆ”
“เรารีบกลับกันเถอะจ้ะลูก”
มัทนาดึงมือลูกชายแต่แล้วรังสิมันต์กลับพูดขึ้นว่า
“โรส...ผมขอเวลาคุยกับคุณสักครู่...จะได้ไหม...น้องริวครับ คุณน้าเป็นเพื่อนกับแม่คับนะครับ คุณน้าจะพาน้องริวไปกินไอติมที่ร้านที่อร่อยที่สุด
ชายหนุ่มหันไปพูดคุยกับเด็กชายซึ่งมีสีหน้าลังเล มองหน้าเขาทีหนึ่ง มองหน้าแม่ทีหนึ่งเหมือนขอความเห็น มัทนาเองก็ลังเลแต่เธอก็ตอบกลับไปว่า
บทที่ 3
สัญญาใจ
“แค่ไม่นานนะคะ...ฉันมีเวลาไม่มาก”
“แค่นี้ก็พอแล้ว...มากพอแล้วจริงๆ...เอ้อ...คุณมารถอะไร?”
“ฉันมารถแท็กซี่ค่ะ”
“คุณนั่งแท็กซี่มารับลูกทุกวันหรือ?”
“ค่ะ...ฉันยังไม่มีรถส่วนตัว แต่คิดว่าจะซื้อในอนาคต”
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็พาลูกไปกับรถของผมก่อน...น้องริวครับ วันนี้น้าเมฆจะพาน้องริวไปกินไอติมและจะพาไส่งบ้านด้วยนะครับ”
ชายหนุ่มพูดกับหนูน้อยด้วยรอยยิ้ม เด็กชายหันมองแม่อีกครั้ง
“แม่คับสอนน้องริวว่า...อย่าไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้าคับน้าเมฆ”
“แต่ตอนนี้เรารู้จักกันแล้วนะ และต่อไปเราก็จะรู้จักกันมากกว่านี้...โอเคไหมครับน้องริว”
“โอเคคับ...ใช่ไหมคับแม่คับ?”
ฤทธิ์หันไปถามมัทนาที่ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะต้องปั้นหน้าอย่างไร ถ้าจะไล่รังสิมันต์ไปตอนนี้ก็เกรงว่าจะทำให้ลูกชายตกใจจึงต้องไปตามน้ำและดูท่าทางเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจ ตรงข้ามเขากลับแสดงความอ่อนโยนออกมาอย่างเห็นได้ชัดตอนพยายามทำความสนิทสนมคุ้นเคยกับลูกชายของเธอด้วยการจูงมือฤทธิ์ที่ขึ้นรถ ร่างบอบบางเดินตามไปอย่างเสียมิได้และจำต้องให้เขาพาไปถึงร้านไอศครีมที่บอกไว้ ตลอดทางเธอแทบไม่พูดอะไรกับเขา และเมื่อไปถึงมัทนาก็ยังแสดงท่าทีแบบเก่า นั่นคือพยายามไม่เข้าใกล้เขา แสดงความเย็นชาห่างเหินและได้แต่มองรังสิมันต์ชวนลูกชายคุยเรื่องต่าง ๆ อย่างเงียบๆ
“แม่คับ...น้องริวขอไปเล่นไดโนเสาร์หน่อยนะคับ”
ฤทธิ์บอกมารดาหลังกินไอศกรีมหมดไปสองแก้วใหญ่ ๆ มัทนาหันมองตุ๊กตาไดโนเสาร์ที่สนามหญ้าหน้าร้านซึ่งมีเด็กเล็กไปเล่นกันสองสามคน เธอพยักหน้าและบอกลูกว่า
“ไปซีคะ...น้องริวต้องเล่นระวังนะคะ และต้องไม่แกล้งเพื่อนด้วย”
เด็กชายพยักหน้าก่อนวิ่งผลาวออกไป ที่โต๊ะตอนนี้เหลือเพียงมัทนากับรังสิมันต์นั่งประจันหน้ากัน หญิงสาวทำหน้าม้านและถามเขาเสียงจริงจัง
“พี่เมฆรู้ได้ยังไงว่าน้องริวอยู่ที่ไออุ่นเนอร์สเซอรี่”
“พี่ถามอภิวัฒน์...เพื่อนพี่เป็นห่วงโรส เขาอยากให้โรสทำงานกับพี่”
“บริษัทที่เปิดรับสมัครเลขามีออกเยอะแยะค่ะ โรสสมัครเองได้”
“แต่ตอนนี้มันยากมากที่บริษัทจะรับพนักงานใหม่”
“ก็ไม่ได้เกี่ยวกับพี่เมฆ”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้องริวเป็นลูกของพี่”
“อย่ามาอ้างสิทธิ์ลูกของโรสนะคะ น้องริวเป็นลูกของโรสคนเดียว โรสเลี้ยงน้องริวมา พี่เมฆไม่ได้อยากเห็นหน้าลูกด้วยซ้ำ”
“โรส...พี่ขอโทษ”
น้ำเสียงห้าวลึกของรังสิมันต์อ่อนลง เขาถึงกับถอนหายใจออกมาและใบหน้าแสดงความสำนึกผิด
“โรส...เรื่องเมื่อห้าปีที่แล้วพี่ไม่ได้ตั้งใจ”
