ตอนที่ 2
อภิวัฒน์บอกกับร่างสูงสง่าในชุดลำลองที่ค่อย ๆ หย่อนตัวลงนั่งข้างเขา ทำให้ตอนนี้มัทนาซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามต้องประจันหน้ากับ ใคร คนนั้นซึ่งเธอไม่ได้พบหน้ามากว้าห้าปี ใคร คนนั้นที่อยู่ในความทรงจำอันล้ำลึกของเธอเสมอ และเมื่ออยู่ต่อหน้าอภิวัฒน์ หัวหน้าของเธอเอง หญิงสาวจึงจำเป็นต้องประสานสายตากับเพื่อนของเขาตรง ๆ ต้องนั่งจ้องมองใบหน้าคร้ามเข้ม เค้าโครงใบหน้าหล่อเหลาที่มัทนายังจดจำได้ นัยน์ตาสีสนิมเหล็กใต้ปื้นคิ้วหนา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาได้รูป สันกรามแกร่งมีไรขนเคราสั้น ๆ และเรือนร่างสูงสง่าแข็งแรงเพราะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาเก่าก่อน ประกายตาคู่นั้นที่มองมายังเธอดูเหมือนมีประกายแห่งความตื่นเต้นฉายออกมาชัดเจน หากแต่หญิงสาวจำต้องยกมือไหว้และกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“สวัสดีค่ะ...คุณรังสิมันต์”
“สวัสดีครับ คุณ...โรส”
“โรสเขาเป็นเลขาของฉันเอง ฉันนัดเธอมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทตอนนี้ถูกเทคโอเวอร์แล้ว มีคณะกรรมการไม่กี่คนที่รับรู้ ฉันเองยังไม่อยากเข้าไปเจอใครตอนนี้เลยนัดเลขาของฉันออกมาคุยเป็นการส่วนตัว”
อภิวัฒน์พูดพลางยกแก้วน้ำขึ้นจิบโดยไม่ทันได้สนใจว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างเพื่อนของเขาและเลขาส่วนตัว มัทนายังนั่งนิ่งขณะที่รังสิมันต์ก็จ้องหน้าเธอโดยไม่ยอมละสายตาไปทางไหน ชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับอภิวัฒน์จ้องใบหน้าสวยหวานของผคู้หญิงที่นั่งตรงข้าม ห้าปีที่ผ่านมามัทนาไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย แต่เธอดูสวยขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอไม่ใช่นักศึกษาสาวน้อยปีหนึ่งดังที่เขาเคยรู้จัก ตอนนี้เธอเป็นเลขาของเพื่อนสนิท แต่ท่าทีสำรวม เรียบร้อยและอ่อนหวานนั้นไม่เคยเปลี่ยน สักครู่อภิวัฒน์ก็เอ่ยขึ้นกลบความเงียบในวงสนทนา
“เมฆ...ฉันกำลังคุยกับโรสว่าถึงสถานะของบริษัทจะเปลี่ยนไปเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน แต่อยากจะยืนยันกับเธอว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของบริษัทหรือพนักงาน และที่ฉันอยากจะให้นายช่วยรับเลขาของฉันไว้ ให้เธออยู่ในตำแหน่งเดิมเพราะโรสมีภาระต้องรับผิดชอบ เธอมีลูกเล็กหนึ่งคนที่ต้องเลี้ยงดู”
คำอธิบายของอภิวัฒน์ทำให้คนฟังตาวาวขึ้นมา ประกายตาของเขาเจิดจ้าเมื่อได้ยินคำนั้น ลูก...รังสิมันต์หันไปถามเลขาของเพื่อนเขาว่า
“คุณโรสมีลูกแล้ว ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ?”
“ผู้ชายค่ะ”
“ชื่ออะไรหรือครับ?”
“ชื่อริวค่ะ”
“ชื่อน่ารักมาก แกอายุกี่ขวบแล้วครับ”
“สี่ขวบค่ะ...เอ้อ...แล้วไม่ทราบว่าลูกของคุณรังสิมันต์อายุกี่ขวบแล้วล่ะคะ”
“คุณโรส...เมฆเพื่อนผมมันยังไม่แต่งงานครับ”
อภิวัฒน์แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงรื่นเริง เขาตบบ่าคนข้าง ๆ เบา ๆ แล้วเอ่ยว่า
“เมฆมันบ้างาน นี่เรียนจบมาตั้งหลายปีแล้วยังไม่ยอมแต่งงาน โสดจนคนที่บ้านพาลคิดว่าเพื่อนผมคงไม่ชอบผู้หญิงเสียแล้ว แต่คุณโรสไม่ต้องกลัวนะครับว่าทำงานกับเมฆจะอึดอัด เพื่อนผมคนนี้จริงจังก็จริงแต่เป็นคนซื่อตรงและเมตตากับลูกน้องเสมอ ผมคิดว่าถ้าคุณทำงานกับเขาคงไม่เป็นปัญหา”
“ไม่เป็นปัญหาหรอก ฉันตอบตกลงว่ารับเธอมาเป็นเลขาของฉันเลยก็แล้วกัน”
รังสิมันต์พูดเสียงหนักแน่น มัทนายกมือไหว้เขาแล้วเอ่ยว่า
“ขอบคุณในความกรุณาของคุณรังสิมันต์นะคะที่จะรับดิฉันไว้เป็นเลขาของคุณ แต่ว่า...ดิฉันคงไม่สามารถทำงานนี้ต่อไปได้อีกแล้วล่ะค่ะ”
“อ้าว...โรส...ดะ...เดี๋ยวก่อน”
อภิวัฒน์ร้องขึ้นเมื่อเห็นเลขาของเขาวางเอกสารบนโต๊ะแล้วคว้ากระเป๋าสะพายลุกขึ้นท่ามกลางสายตาแสดงความประหลาดใจและตกใจของทั้งอภิวัฒน์และรังสิมันต์
