บทนำ : ชายอัปลักษณ์ที่คนรังเกียจ
บทนำ
ชายอัปลักษณ์ที่คนรังเกียจ
“ข้าไม่แต่งกับเขา ข้าไม่ได้รักเขา ฮือ ๆ ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่สี่ เห็นใจข้าเถิด ข้าสัญญาว่าจะไม่ขี้เกียจ จะช่วยทุกคนทำงานหาเงิน แต่ขอร้อง อย่าให้ข้าแต่งกับเขาเลย” เสียงอ้อนวอนปนร่ำไห้ดังขึ้นมาจากสตรีนางหนึ่งที่กำลังเว้าวอนขอความเห็นใจจากทุกคนในครอบครัวที่กำลังผลักไสให้นางไปตบแต่งกับบุรุษผู้หนึ่งที่ตนไม่ได้รัก
“คนอัปลักษณ์เช่นเจ้าจะหาเงินจากที่ใดได้เยอะแยะ แต่งออกไปแบบธรรมดาก็ไม่ได้ ขายก็ไม่ได้ ไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้จะมาอ้อนวอนอันใด” ผู้เป็นบิดานั้นหัวเสียไม่น้อย หลังตวาดลั่นก็ใช้เพียงหางตามองบุตรสาวก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง
“แต่ถึงกระนั้นข้าก็สามารถดูแลท่านพ่อท่านแม่ในยามแก่เฒ่าได้ ข้า…”
“เหอะ พวกข้ามีบุตรสาวบุตรชายตั้งหลายคน พวกเขาก็ล้วนแต่ดูแลพวกข้าได้เช่นกัน และข้าคิดว่าดูแลได้ดีกว่าเจ้าเป็นแน่” ครานี้ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นบ้าง ถ้อยคำล้วนแต่บาดลึกลงไปในจิตใจของผู้เป็นบุตรสาว
“แต่ข้า….” แม้จะเจ็บปวดแต่ก็อยากจะขอร้องให้มากที่สุด ทว่า
“ท่านพ่อท่านแม่ รีบเอานางไปขังไว้แล้วตอนค่ำก็เอานางไปส่งที่เรือนนาให้ไอ้อัปลักษณ์นั่นเถิด”
พี่สาวคนรอง หรือก็คือพี่สี่ของหญิงสาวกลับรีบกล่าวตัดบท เพื่อให้บิดามารดารีบจัดการทุกอย่างให้เร็วยิ่งขึ้น ไม่ทันได้ร้องขอสิ่งใด จ้งชุนเยว่ ก็ถูกพี่ชายทั้งสองจับตัวแล้วโยนเข้าไปขังไว้ที่ห้องเก็บฟืนเสียแล้ว
จ้งชุนเยว่นั้นเป็นสตรีรูปร่างสั้นเตี้ย ผิวคล้ำ ใบหน้ามีรอยกระดำขึ้นมากมายจนเต็มใบหน้านั่นยิ่งทำให้ดูอัปลักษณ์ยิ่งในสายตาผู้คน ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว เรื่องนี้ทำให้กระทบถึงการออกเรือนของเหล่าพี่ชายพี่สาวเป็นอย่างมากและยิ่งหนักยิ่งขึ้นเมื่อผู้เป็นมารดาได้ไปดูดวงกับหมอดูที่ตลาดในเมืองผู้หนึ่ง กล่าวว่าหากพวกเขายังเก็บตัวอัปลักษณ์ไว้ในบ้าน บุตรชายและบุตรสาวที่เหลือจะมิได้ออกเรือน หรือออกเรือนไปก็จะได้ไปอยู่กับคู่ครองที่ไม่ดี หากแต่งสะใภ้เข้ามาก็จะได้สะใภ้ที่ไม่ดีเช่นกัน
หนทางแก้ไขคือต้องแก้เคล็ดด้วยการรีบจัดการออกไปให้พ้นจากครอบครัวชายคาเดียวกัน แต่ห้ามฆ่าหรือขายโดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้เองสองสามีภรรยาบ้านจ้งจึงได้หัวเสียกับบุตรสาวคนเล็กมากถึงเพียงนี้ สุดท้ายในเมื่อทำอันใดก็ไม่ได้จึงได้คิดที่จะส่งบุตรสาวคนเล็กไปอยู่กับตัวอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านให้จบ ๆ ไป ถือว่าเป็นการแก้เคล็ดได้ขับไล่จ้งชุนเยว่ให้ออกจากชายคาไปแต่หากว่าหากมีอันใดก็สามารถเรียกตัวอีกฝ่ายมาใช้งานได้ เช่น งานซักล้างและงานนา ก็ถือว่าไม่ผิดต่อคำทำนายอันใด
ด้านชุนเยว่นั้นในใจเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม เพราะบุรุษที่คนในครอบครัวจะให้นางออกเรือนไปอยู่ด้วยนั้นเป็นคนที่อัปลักษณ์ที่เรียกได้ว่าน่าเกลียดน่ากลัว ผู้คนกล่าวว่านางอัปลักษณ์ แต่นางกลับเทียบคนผู้นั้นไม่ติดเลยสักนิด คราหนึ่งเพราะความอยากรู้อยากเห็นว่าบุรุษอัปลักษณ์ที่ผู้คนเล่าลือกัน ที่อาศัยอยู่ที่เรือนนาท้ายหมู่บ้านจะหน้าตาเป็นเช่นไร จึงได้แอบไปดูตามลำพัง และภาพที่เห็นก็ทำให้ต้องผงะ คนผู้นั้นนั่นจะเรียกว่าคนได้อีกหรือ
ราวกับผีก็ไม่ปาน
หนำซ้ำยังขาพิการอีก!!
เมื่อนึกถึงวันนั้นคราใดในใจยิ่งมีแต่ความหวาดกลัวและความรังเกียจ แล้วจะให้นางออกเรือนไปกับคนเช่นนั้นได้หรือ หญิงสาวคิดในใจว่าหากจะต้องตบแต่งไปกับตัวอัปลักษณ์ราวกับผีเช่นนั้นตนขอตายดีกว่า
คิดแล้วจ้งชุนเยว่จึงได้หาทางออกจากห้องเก็บฟืนเป็นการด่วน จนในที่สุดก็สามารถพังฝาผนังที่ผุพังของห้องเก็บฟืนออกไปจนได้
หญิงสาววิ่งออกจากห้องเก็บฟืนไปอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะไปหยุดที่แม่น้ำใหญ่ในหมู่บ้าน
“หากต้องแต่งงานกับคนเช่นนั้น ข้ายอมตายดีกว่า” จ้งชุนเยว่กล่าวพลางน้ำตานองหน้าก่อนจะกระโดดลงไปที่แม่น้ำนั้นโดยไม่ลังเลทันที
ตูม!
เสียงสายน้ำสาดกระจายออกเป็นวงกว้างนั้นกังวานไม่น้อยหากแต่ไม่มีผู้ใดอยู่ในเหตุการณ์จึงไร้คนขัดขวาง หญิงสาวจึงได้แต่ปล่อยร่างของตนเองให้จมแล้วปล่อยให้สายน้ำพัดพาร่างของตนไป
ด้านคนที่ทำให้สตรีผู้หนึ่งหวาดกลัวจนถึงขั้นปลิดชีวิตตัวเองทิ้งอย่างง่ายดายนั้น ยามนี้กำลังนั่งกินมันเผาที่เด็กน้อยสองคนกำลังนำมาให้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
พี่ชายอร่อยหรือไม่ เสียงใสเอ่ยถามผู้ที่กำลังกินมันเผาด้วยความรอคอยบางอย่าง เป็นอวี๋หรู เด็กน้อยวัยหกหนาวที่มีดวงตากลมโตและใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตาล้มลุก
อืม
สองเด็กชายหญิงที่นั่งตาแป๋วเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายตอบว่าอร่อย ดวงหน้าทั้งสองก็เผยรอยยิ้มกว้าง นี่พวกเขาไปหาจากในป่ามาเองเลยนะ แล้วพี่ชายก็ตอบว่าอร่อยด้วย
แม้ว่าใบหน้าของชายหนุ่มจะไม่ปรากฏอารมณ์ใดมากนัก แต่สายตากลับปรากฏความเอื้อเอ็นดูต่อเด็กน้อยทั้งสองคนไม่น้อย
ต่อให้ผู้คนจะรังเกียจหรือหวาดกลัวเขา แต่เด็กน้อยทั้งสองคนกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งยังพยายามนำอาหารที่หามาได้นำมาแบ่งปันเขาอยู่เสมอ หากนับดูก็ราว ๆ หนึ่งปีแล้วกระมังที่พวกเขาทำเช่นนี้ นับตั้งแต่ที่เขามาอยู่ที่นี่… ทั้งที่พวกเขาเองนั้นก็เกือบจะไม่พอกิน ดูได้จากรูปร่างผอมกะหร่องและใบหน้าแสนมอมแมมนั่นเถิด
“พี่ชาย แล้วเรื่องนั้นท่านจะทำอย่างไรหรือ” อวี๋ซิ่ง เด็กน้อยวัยแปดหนาวเอ่ยถามพี่ชายเรือนนาผู้นี้ ด้วยเรื่องที่ว่าบ้านจ้งจะส่งบุตรสาวมาอยู่ที่นี่กับพี่ชาย พวกเขาแอบได้ยินมาจึงได้รีบมาบอกพี่ชายให้เตรียมรับมือ
“ไล่!”
ชายหนุ่มตอบ ดวงตาคมเผยความลึกล้ำและไม่ชอบใจ
จะส่งผู้ใดมาอยู่กับเขา ถามเขาแล้วหรือยัง
คอยดูเถิด หากกล้าส่งมาเขาก็จะไล่ตะเพิดไป
และจะทำให้ทุกคนเห็นว่าตัวอัปลักษณ์ที่พวกเขากล่าวถึงแท้จริงนั้นน่ากลัวเพียงใด ต่อไปจะได้ไม่คิดมาวุ่นวายกับเขาอีก
คิดแล้วมุมปากข้างหนึ่งก็เผยรอยยิ้มแสนน่ากลัว
เด็กน้อยทั้งสองเห็นเช่นนั้นได้แต่มองหน้ากันก่อนจะจับมือกันไว้แน่น
