บท
ตั้งค่า

บทที่ 2-1

กัณหาจอดรถญี่ปุ่นคันกะทัดรัดของตนไว้บริเวณลานจอดร้านอาหาร ในใจกำลังตีกันวุ่น จะเข้าไปหรือไม่ไป งานเลี้ยงรุ่นเพื่อนนักเรียนสมัยม.ปลายก่อนตามแม่ไปอยู่ต่างประเทศ

เธอเจอปัทม์ในมหาวิทยาลัยซึ่งไปเป็นอาจารย์พิเศษ วิชาตามสาขาที่จบมา

“นิลถึงไหนแล้ว”

ปัทม์แว่วมาตามสาย

“ลานจอดรถแล้วจ้ะ”

ตอบแล้วนึกอยากเขกกะโหลกตัวเอง รู้อย่างนี้น่าจะปฏิเสธไปเสียก็ดี

“ได้จ้ะ งั้นเดี๋ยวไปรับ”

สายตัดลงพร้อมกับการถอนหายใจยาว เอาเถอะน่า คงไม่โชคร้ายเจอคนไม่อยากเจอหรอก หรือหากเจอจริงๆ เขาคงลืมเรื่องเธอหมดไปแล้ว แม้ว่ากัณหาจะไม่เคยลืมก็ตาม

“โอ้โห นิลเป็นด็อกเตอร์วิศกรปริโตเลียม เก่งจัง”

เพื่อนได้ฟังดีกรีการศึกษาพากันอุทานชม กัณหาแกล้งกวาดสายตามองทุกคน แม้ใจกระตุกกับร่างสูงๆ เขายังคงเป็นกุมุท หนุ่มหน้าตาดี ท่าทางจริงจังเป็นที่พึ่งพาได้

กุมุทผู้ไม่มีชื่อเล่น แต่ชื่อจริงเสมือนตัวที่แปลว่าดอกบัวขาว ไร้มลทินด่างพร้อย ขาวทั้งความประพฤติและผิวสะอาดสะอ้านตามเชื้อสายลูกผสมจีน

“แล้วงานนิลต่างจากงานไอ้คิ้มยังไง เห็นจบปริโตๆ เหมือนกัน”

หนุ่มเนื้อหอมพยักพเยิดไปทาง “ไอ้คิ้ม” ซึ่งกำลังเคี้ยวไก่ทอดอยู่

“กูจบปริโตเคมีเว้ย นิลจบปริโตเลียม ใกล้เคียงกันแต่ไม่เหมือนกัน”

คนโดนพาดพิงโวย

“จริงๆ ในอุตสาหกรรมปริโตเคมีแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ คืออัพสตรีม แบบงานของฉัน ทำตั้งแต่สำรวจหาแหล่งน้ำมัน ขุดเจาะ ผลิต แบบที่อยู่บนแท่นกลางทะเลนั่นแหละ”

เธอร่ายตอบคำถามเดิมๆ ซึ่งผู้คนมักสงสัย

“ส่วนของกูคือดาวน์สตรีม งานเริ่มเวลาน้ำมันดิบมาถึงโรงกลั่น ที่ได้มาจะไปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แบบ น้ำมัน พลาสติก พวกเชื้อเพลิงต่างๆ ปริโตเลียมเจลลี่หรือวาสลีนทาปากนั่นก็มาจากฝีมือพวกฉันนะจ๊ะ”

วิศวกรปริโตรเคมีเสริม ปากเต็มไปด้วยไก่ แต่ตาแกล้งเจ้าชู้ใส่ สาวๆ ซึ่งเบ้ปากร้องยี้

“แล้วนิลต้องขึ้นแท่นขุดเจาะน้ำมันบ่อยไหม”

คิ้มซักเพื่อนร่วมสายอาชีพ

“งานส่วนมากจะเป็นโอเปอร์เรชั่นอยู่บนแลนด์ มีออฟชอร์บ้าง”

“ทั้งเก่ง ทั้งสวยออกอย่างนี้แต่งงานแล้วหรือยัง”

อดีตทอมแม่ลูกสองถามทึ่งๆ

“ลูกหนึ่งแล้วจ้ะ”

เสียงแสดงความยินดีจากเพื่อนกรี๊ดกราด ทุกคนเปลี่ยนไปจากสมัยม.ปลาย บางคนอ้วนขึ้น บางคนผอมลง บ้างครั้งหนึ่งไม่ถูกชะตา ตอนนี้กลายเป็นชื่นชม เปลี่ยนไปไม่เว้นแม้แต่กุมุท

โลกที่นิ่งกลับมาหมุนอีกครั้ง เขารับเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์บางเบาจากบริกร ยกจิบดึงสติ เพื่อนพูดคุยกันจ๊อกแจก แต่หูกลับได้ยินบทสนทนาเธอชัดเจน

กัณหาผู้มีชื่อเล่นว่านิล คนปากเปราะในห้องเคยนินทากันสนุกปากว่าแม่ช่างตั้งได้เหมาะ ตัวดำเหมือน “นิล” สมชื่อ เธอเปลี่ยนไปมาก เป็นผู้ใหญ่กิริยาสุขุม

ผมยาวขึ้น ยิ้มเยอะ จมูกรั้น ดวงตาแม้นิ่งแต่แวบหนึ่งยังคม พร้อมเชือดเฉือนเหมือนเดิม เขาแปลกใจที่กัณหาเรียนจบถึงดอกเตอร์ สมัยม.ปลายเธอไม่มีวี่แววคนขยัน ชอบโดดเรียนไปอยู่ในห้องสมุดเป็นประจำ

“ลูกหนึ่งแล้วจ้ะ”

บางอย่างขัดๆ ขึ้นในอก กัณหาแต่งงานแล้ว ...กับคนอื่น มีลูก เรื่องระหว่างเขาและเธอคงเป็นเพียงแค่ความอยากรู้อยากลองตามประสาวัยรุ่น

“เดี๋ยวกลับแล้ว ประมาณเที่ยงคืน อยากกินอะไรไหม จะแวะซื้อให้ เหรอ... งั้นเอาชีสไบท์แช่ไว้ในตู้เย็นนะ นอนก่อนได้เลยจ้ะไม่ต้องรอ”

บทสนทนาที่เหมือนจะธรรมดา ทำเอาคนออกจากจากห้องน้ำหยุดชะงัก กัณหากำลังคุยโทรศัพท์ ใบหน้ายิ้มแย้ม ปลายสายคงเป็นสามี

สามี! กุมุทหน้าตึงขึ้นมากะทันหัน คำนี้ใช้เรียกผู้ชายซึ่งแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยพฤตินัยและนิตินัย

แม้ว่าคนๆ นั้นจะเป็นของคนอื่นมาก่อนตาม อย่างเช่น กัณหากับกุมุทเคย...

ข้างห้องน้ำก่อกำแพงอิฐมอญแดง ตรงกลางใส่ระแนงไม้โปร่งแทนหน้าต่าง ร้านปลูกไม้เลื้อยเขียวชอุ่มตามกำแพงเชื่อมเรือนจัดเลี้ยง กัณหาจึงเพลินทั้งตาและการคุย ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกแอบมอง

เธอยิ้มอ่อนโยนอย่างนี้ได้ด้วยหรือ เคยเห็นแต่ทำหน้าเฉยเวลาโดนอาจารย์ตักเตือนเรื่องความประพฤติ ตาคู่นั้นกุมุทเคยเห็นคมวาวเหมือนแมวโกรธ

เขาเดินเข้าใกล้ ไอร้อนเดือนเมษาบวกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้หวลคิดถึงหมากฝรั่งแอปเปิล รสหวานลิ้นและหอมอวล ซึ่งกัณหาเคยให้ลิ้มลอง

“สบายดีเหรอ”

กุมุททักเก้อเขินเมื่อเธอคุยโทรศัพท์เสร็จ เผลอตัวมายืนอยู่ข้างหลังกัณหาเสียแล้ว ห่างกันแค่พอเอื้อมมือ

“ค่ะ สบายดี คุณละคะ”

เธอถามกลับเรียบเฉย เหินห่าง มองเขาแวบเดียว ก่อนเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง บุคลิกนิ่งไม่เหลือเค้าเด็กสาวเลือดร้อนในสมัยม.ปลาย

“...ผมก็สบายดี”

บทสนทนาจบลง กัณหายิ้มให้ตามมารยาท จากนั้นขอตัวกลับเข้าไปในงาน ลมกลางคืนพัดมาเบาๆ ให้คลายร้อน ปลายผมเธอยามสะบัดหน้า แตกเส้นกระทบแก้มเขา ...เล็กบางนุ่ม

กุมุทกลับเข้างาน กัณหากำลังคุยกับเจ้าของฟิตเนส แก้วเหล้าเพื่อนเติมให้มิได้ขาด มือยกกระดกแต่ในใจกลับนึกถึงอดีต

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel