บทที่ 2 เตรียมความพร้อมก่อนทะลุมิติ
บทที่ 2 เตรียมความพร้อมก่อนทะลุมิติ
ต่อจากโบรเกอร์ส่วนตัว เธอจัดการติดต่อทนายประจำตระกูลทันที ในฐานะทายาทคนสุดท้ายของตระกูลนักวิชาการและนายทหารเก่า มรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อนนั้นมหาศาล เธอสั่งให้ทนายจัดการขายอสังหาริมทรัพย์และหุ้นของตระกูลทั้งหมดที่มีในครอบครองโดยเร็วที่สุด เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นเงินสด ไม่ว่าราคาจะตกต่ำแค่ไหนก็ตาม
"ฉันต้องการสภาพคล่องสูงสุดภายใน 25 วัน" เธอ บอกกับทนายผ่านโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
"คุณหนูคะ คุณหนูหมายถึงที่ดินหลายผืนนั้น...และก็บ้านทุกหลังด้วยหรือคะ"
"ใช่ ขายให้หมด" เธอกล่าวตัดบท
“ราคาไหนก็ได้ รวมทั้งพวกทองคำของเก่าที่สะสมมาทั้งหมดด้วย ให้เร็วที่สุด”
ตอนนี้ของเหล่านั้นเธอไม่สามารถที่จะใช้ที่นี่ได้แล้ว สู้ขายแล้วไปซื้อเอาใหม่ที่โน่นจะดีกว่า เพราะว่าจากข้อมูลที่เธอได้เรียนรู้ว่า พวกของเก่าเครื่องประดับเพชรทองคำนั้น ในปลายยุค 70 ยังมีมากมายและราคาก็ถูกมากด้วย ดังนั้นเธอเพียงหาเงินที่นี่ให้เยอะและตุนของให้มากที่สุดก็พอ
"เรื่องเหตุผล... ถือว่าเป็นความต้องการสุดท้ายของคนที่เพิ่งรอดตายมาก็แล้วกัน"
เธอไม่ได้บอกพวกเขาต่อว่า หลังจาก 27 วันนี้ เธอก็จะกลับไปตายใหม่ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเข้าใจยาก
สงครามการเงินได้เริ่มขึ้นแล้ว และตอนนี้คือสงครามการจัดเตรียมยุทธปัจจัยในการดำรงชีพของเธอก็เริ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันความสับสนและหลงลืมในเวลาที่จำกัด เธอเปิดแท็บเล็ตคู่ใจขึ้นมา จัดการทำเช็คลิสต์สิ่งของที่จะนำไปใส่ในพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ที่ ‘เสียง’ นั้นให้มา 1,000 ตารางเมตร! มันไม่ใช่แค่โกดัง แต่มันคือคลังแสงดี ๆ นี่เอง
พร้อมกันนั้น เธอจัดการเช่าโกดังขนาดใหญ่ชานเมืองแห่งหนึ่งในนามบริษัทวิจัยที่เพิ่งตั้งขึ้นหมาด ๆ เพื่อให้ข้าวของที่กำลังจะสั่งซื้อจากทั่วโลกมาส่ง จะได้นำเข้ามิติได้ง่าย โดยไม่เป็นที่สังเกต
หน้าจอแท็บเล็ตสว่างขึ้น ‘ปฏิบัติการทะลุมิติสู่ปี 1975 รายการยุทธปัจจัย’
สัปดาห์แรก: ยุทธปัจจัยแห่งการเอาชีวิตรอด
ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาล สวี่จิ้งอีก็เริ่มเคลื่อนไหวราวกับพายุ การเตรียมการของเธอไม่ได้สะเปะสะปะ แต่เป็นระบบและมีเป้าหมายชัดเจนเหมือนการวางแผนการรบ
หนึ่ง: คลังเวชภัณฑ์
ในฐานะแพทย์ทหาร เธอรู้ดีว่าในยุค 70 ที่ขาดแคลน ยาปฏิชีวนะล้ำค่ากว่าทองคำ เธอใช้เส้นสายทางการทหารและใบอนุญาตแพทย์ของตัวเองกว้านซื้อยาปฏิชีวนะหลากหลายชนิด ทั้งเพนิซิลลิน อะม็อกซีซิลลิน เตตราไซคลีน ทั้งในรูปแบบยาฉีดและยาเม็ด ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาถ่ายพยาธิ วิตามินรวม เซรุ่ม: บาดทะยัก, พิษสุนัขบ้า, แอนติเวนอม (เซรุ่มแก้พิษงู) อุปกรณ์ทำแผลปลอดเชื้อ ชุดเครื่องมือผ่าตัดเล็กครบชุด แอลกอฮอล์ทางการแพทย์ ไอโอดีน ทุกอย่างถูกสั่งซื้อในปริมาณที่มากพอจะเปิดคลินิกขนาดเล็กได้สบาย ๆ และเพื่อความไม่ประมาท เธอยังนำอาวุธปืนหลายชนิดไปด้วย ทั้งปืนสั้น ปืนยาว และทั้งหมดก็หายวับเข้าไปในมิติโกดังที่ว่างเปล่าของเธอ แน่นอนว่าเธอไม่ลืม ผ้าอนามัย (แบบสอดและแบบแผ่น) ตลอดการใช้งาน 10 ปี
สอง: คลังเสบียง
เธอไม่ได้ซื้อแค่อาหารสำเร็จรูปอย่างพวกแฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด และอาหารปรุงสุกเจ้าดังเจ้าอร่อยมากมายหลากหลายเท่านั้น แต่เธอซื้อวัตถุดิบพื้นฐานในปริมาณมหาศาล ทั้งผักผลไม้สดจากไร่จากสวน ข้าวสาร แป้งสาลี น้ำมันพืช เกลือ น้ำตาล เครื่องปรุงรส เนื้อสัตว์ทุกชนิดทั้งบนบกและทะเล ทั้งสดและตากแห้งที่เก็บได้นาน กุ้ง หอย ปู ปลา พวกหมูน้ำค้าง ขาหมูแฮมใหญ่ ๆ ไส้กรอกชนิดต่าง ๆ ไก่ตากลม ปลาตากแห้ง ผักดอง พริกดอง กิมจิ ส้มผัก เธอขนไปมากมาย และอาหารมากมายที่เธอชอบจากต่างประเทศ ต่างก็ขนมาส่งให้เธอด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำกันเลยทีเดียว ทำอย่างไรได้ในยุคนี้เธอรวย รวยมาก ดังนั้นก็ขอขนไปกินที่ยุค 70 ที่แสนจะอดอยากก็แล้วกัน
เธอรู้ว่าความหิวโหยคือศัตรูที่น่ากลัวที่สุดในยุคแห่งการปันส่วน นอกจากนี้ยังมี ของกินเล่นที่หาได้ทั่วไปในยุค 2025 อย่าง ลูกอม ไอศกรีม ช็อกโกแลต ขนมนานาชนิดที่เธอพอจะคิดออก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารสำเร็จ อาหารแช่แข็ง และพวกเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ น้ำสะอาด น้ำอัดลม น้ำหวาน เหล้า ไวน์ บุหรี่ ชา กาแฟ และพวกสมุนไพรหายากต่าง ๆ เช่น โสม เห็ดหลินจือ ถั่งเช่า ก็ถูกบรรจุเข้าไปในมิติ มันจะเป็นเครื่องมือซื้อใจชั้นเยี่ยม เรื่องอาหารนี้เธอให้ความสำคัญมากสุด เตรียมไปเยอะสุดจริง ๆ
สาม: ธนาคารเมล็ดพันธุ์ (แก้ไขจาก "สอง:")
นี่คือแผนการระยะยาวของเธอ ในฐานะวิศกร เธอรู้ว่าผลผลิตคือหัวใจของการพัฒนา เธอเดินทางไปยังสถาบันวิจัยการเกษตร ติดต่อซื้อเมล็ดพันธุ์พืชที่ผ่านการปรับปรุงสายพันธุ์ให้ทนทานต่อโรค ให้ผลผลิตสูง และเติบโตเร็ว ทั้งข้าวโพด มันเทศ มันฝรั่ง ถั่วเหลือง และพืชผักสวนครัวต่าง ๆ เมล็ดพันธุ์เหล่านี้คือไพ่ตายที่จะเปลี่ยนผืนดินที่แห้งแล้งให้กลายเป็นแหล่งความมั่งคั่ง
สัปดาห์ที่สอง: องค์ความรู้และเครื่องมือสร้างชีวิต
สวี่จิ้งอีไม่ได้ขนไปแค่สิ่งของ แต่เธอกำลังจะขน "อารยธรรม" ไปด้วย เธอใช้เวลาหลายวันในห้องสมุดและร้านหนังสือขนาดใหญ่ ถ่ายเอกสารและซื้อตำราเรียนทุกระดับชั้นตั้งแต่ประถมจนถึงมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะสาขาวิทยาศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา ตำราทำอาหารเกือบทุกประเทศ แบบแปลนเครื่องจักรกลพื้นฐาน สูตรทางเคมีสำหรับผลิตสบู่ ผงซักฟอก น้ำยาชนิดต่าง ๆ น้ำหอม และเธอยังซื้อสบู่ก้อนกลิ่นธรรมดา 10,000 ก้อน กลิ่นหอมอื่น ๆ คละกัน สิริรวมทั้งหมด 50,000 ก้อน นี่คือสินค้าทำเงินในอนาคตระหว่างรอให้เธอสามารถตั้งโรงงานได้ เธอยังดาวน์โหลดข้อมูลมหาศาลจากอินเทอร์เน็ตลงในแท็บเล็ตที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์หลายเครื่อง พวกประวัติศาสตร์จีน 1970-2025 เส้นเวลาทองคำ เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ นโยบายของรัฐบาลในแต่ละปี เพื่อให้เธอสามารถเดินหมากได้อย่างถูกต้องและไม่พลาดโอกาสสำคัญ
สัปดาห์ที่สาม: พวกของอุปโภคต่าง ๆ
ที่เธอรู้ว่าต้องขาดแคลนอย่างมากแน่นอน ดังนั้นเธอจึงจัดเต็มขนให้หมดทั้ง เครื่องครัว หม้อ ถัง กะละมัง จานชาม ช้อน ตะเกียบ เครื่องมือช่างพื้นฐาน ชุดไขควง ประแจ ค้อน เลื่อย สว่านมือ ไปจนถึงจักรเย็บผ้า จักรยานก็เอาไปด้วย 5 คัน มีดทำครัวคุณภาพดี ไฟแช็ก ไฟ LED แผงโซลาร์เซลล์แบบพับเก็บได้ (รุ่นล่าสุด) และแบตเตอรี่ลิเธียมความจุสูง (สำหรับชาร์จแท็บเล็ตและอุปกรณ์ในมิติ) จากนั้นก็เป็นพวกรองเท้า เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้าหนา ๆ เสื้อผ้าในฤดูต่าง ๆ ทั้งสำหรับเธอและขนาดอื่น ๆ ด้วยเผื่อได้ช่วยเหลือ และที่สำคัญคือผ้าที่ทนทาน ผ้าไหมม้วน, ผ้าฝ้ายอย่างดี, ผ้ายีนส์ (สำหรับแฟชั่นยุค 80) ผ้าฝ้ายผืนใหญ่หลากหลายสีและขนาดเผื่อเอาไปตัดที่นั่น
และยังมีนาฬิกาที่เธอรู้มาว่าในยุคนั้นเป็นที่ต้องการมาก เธอก็กว้านซื้อไปเกือบ 5,000 เรือนเลยทีเดียว ทุกอย่างที่จำเป็นต่อการสร้างชีวิตจากศูนย์ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบในโกดังมิติ 1,000 ตารางเมตรของเธอ และพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ขนไปอย่างละ 10 กว่าชุด ความจริงเธออยากจะเอาไปมากกว่านั้นแต่พื้นที่ไม่พอ เพราะเธอเหลือพื้นที่เล็ก ๆ เอาไว้สำหรับรถจี๊ปคันใหญ่คันโปรดของเธอ ที่เธอรู้ว่าไม่นานก็สามารถนำออกมาขับได้ และภายในรถก็ไม่ได้ให้เสียพื้นที่ เธออัดของจำพวกเครื่องสำอาง รูปครอบครัว เครื่องประดับเพชรพลอยที่เธออยากจะนำไปด้วยเพราะเป็นของแม่ของเธอที่ให้มา และพวกครีมชนิดต่าง ๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า น้ำหอมที่เธอชอบใช้เข้าไปจนประตูรถปิดไม่ได้ บนหลังรถก็ไม่เว้น เต็มไปด้วยกล่องของที่เธออัดแพ็กอย่างดี
วันสุดท้าย...
ห้องพักของสวี่จิ้งอีว่างเปล่าราวกับไม่เคยมีคนอยู่ ข้าวของทุกชิ้นถูกขายหรือทิ้งไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงตัวเธอกับเสื้อผ้าชุดเดียวที่สวมอยู่
เธอยืนริมหน้าต่าง มองดูแสงสีนีออนของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีน้ำตา ไม่มีคำอาลัย มีเพียงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในแววตา
"ลาก่อน สวี่จิ้งอีแห่งปี 2025" เธอกระซิบกับตัวเองเบา ๆ
"จากนี้ไป ฉันคือสวี่จิ้งอีแห่งปี 1975"
ทันใดนั้น เสียงจักรกลที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นในหัวอีกครั้ง
[การเตรียมการสิ้นสุด... เริ่มต้นกระบวนการเคลื่อนย้ายมิติใน 3... 2... 1...]
ความรู้สึกเหมือนถูกฉีกกระชากออกจากมิติเวลาถาโถมเข้าใส่ร่างของเธอ โลกทั้งใบหมุนคว้าง ก่อนจะแตกสลายกลายเป็นเศษเสี้ยวของแสงและความมืด
แล้วทุกอย่างก็ดับวูบลง...
ความรู้สึกแรกที่กลับมาคือความหนาวเย็น ความหนาวที่เสียดแทงเข้าถึงกระดูก มันไม่เหมือนความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ แต่มันคือความเย็นชื้นที่แฝงไปด้วยกลิ่นอับของดิน และฟางเน่า ๆ ตามมาด้วยความเจ็บปวดระบมไปทั่วร่าง และความหิวโหยที่บิดเกร็งในช่องท้องจนแทบทนไม่ไหว
สวี่จิ้งอีพยายามฝืนลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าพร่าเลือน แต่สิ่งที่เธอเห็นคือหลังคาฟางผุ ๆ ที่มีแสงจันทร์ลอดผ่านลงมาเป็นลำเล็ก ๆ อากาศเย็นยะเยือกจนทำให้ลมหายใจของเธอกลายเป็นไอขาว
[การเชื่อมต่อเสร็จสมบูรณ์ ขอให้โชคดี ผู้รับภารกิจ]
เสียงนั้นเงียบหายไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่หลั่งไหลเข้ามาในสมองของเธอราวกับเขื่อนแตก...
สวี่จิ้งอี ปัญญาชนเยาวชนที่ถูกส่งมายังคอมมูนชิงซานอันห่างไกล กำลังป่วยหนักด้วยไข้สูงและกำลังจะหนาวตายอย่างเดียวดายในกระท่อมรวมแห่งนี้...
เปลือกตาของเธอ หนักอึ้งราวกับมีหิมะทับถมมานานนับศตวรรษ
นี่คือจุดเริ่มต้นของเธอ หมากตานี้ เดิมพันด้วยชีวิต และเธอ จะต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้น
***ขนไปครบหรือยังนะ!!***
