ตอนที่21.ค้นหาบางสิ่ง
ซึ่งก็คงหาได้ยากนัก บ้านทั้งหลังแถมมีพื้นที่สำหรับตากสมุนไพรอย่างนี้ ทั้งบ้านมีเงินรวมกันไม่ถึงสามสิบตำลึงด้วยซ้ำ
“แต่ถ้าท่านพ่ออยากอยู่ที่นี่จริงๆ ท่านพ่อก็ต้องไปนั่งตรวจโรคที่ร้านยา ส่วนข้าจะลองทำขนมไปขายดีไหมเจ้าคะ เราจะได้มีเงินมาจ่ายค่าบ้านกัน”
คนเป็นพ่ออ้ำอึ้ง เขาไม่เคยรู้ว่าในบ้านมีเงินเท่าไหร่ หากเจอคนไข้ให้เงิน เขาก็รับมาแบบไม่ได้นับแล้วส่งให้ลูกสาวจัดการ
“ท่านพ่อค่อยๆ คิดเถิด” นางแย้มยิ้มจนดวงตาเป็นประกาย “เตรียมเดินทางก็ไม่ได้ยุ่งอะไรนักหรอก”
หมอมู่หยางซัวได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดาไร้เงา ทว่ากลับพ่ายแพ้ต่อการต่อปากต่อคำกับลูกสาวจริงๆ นางรู้ใจเขาดียิ่งกว่าตัวเขาเองเสียอีก อยู่ที่นี่สองปี ทุกอย่างสงบไม่มีเหตุภัยร้ายแรงอะไร ก็เห็นทีน่าจะได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง
“ว่าแต่” พ่อหรี่ตามองลูกสาวอย่างค้นหาบางสิ่ง
“อะไรเจ้าคะ”
“เจ้าคงไม่ได้ล่วงเกินใครจนต้องรีบย้ายออกไปหรอกนะ”
“ลูกหนะรึ” นางชี้นิ้วที่ใบหน้าตนเองก่อนส่ายหน้าไปมาเร็วๆ “ไม่มีๆ ข้าไม่ได้ไปทำอะไรใครนะ”
จู่ๆ นางก็คิดถึงใบหน้าของชายผู้นั้น ฆ่างูของนางแล้วยังมาทวงคำขอบคุณอีก นิสัยลูกคนเดียวจริงๆ แต่เอ๊ะ! นางก็ลูกคนเดียวนี่ ไม่หรอกๆ นางเป็นคนมีเหตุผลไม่ใช่คนประเภทเดียวกับเขาออย่างแน่นอน.
จากเดิมที่คิดว่าจะเดินทางเพียงสามหรือสี่วันกลับกลายเป็นสิบวันเต็ม เขาควบม้ากลับมาถึงจวนแม่ทัพจ้าวเช้ามืด บ่าวรับใช้ยังไม่ตื่นเต็มตาดีนัก ทว่าก็ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นสภาพเขาที่กลับมา เมื่อหลังจากลงจากหลังม้าแล้วก็ส่งบังเหียนให้ผู้ดูแลจูงมันไปพัก ส่วนตนก็ปลดเสื้อคลุมออก คล้ายว่ามันห่อเอาฝุ่นทรายกลับมาด้วย เป็นพ่อบ้านตู้ผู้ตื่นเช้าเข้ามารับเสื้อคลุมทันที แม้จะควบม้าเร็วจนไม่ได้พักมาตลอดสิบสองชั่วยาม แต่บุรุษร่างสูงดูไม่มีท่าทางอิดโรยแม้แต่น้อย
“ข้าน้อยจะไปเรียนท่านทัพ”
“ไม่ต้อง เอาไว้ท่านพ่อตื่นแล้วค่อยเรียนให้ทราบ ให้คนไปเตรียมน้ำให้ข้าอาบก่อน”
เพราะเขาไม่ต้องรีบร้อนรายงานตัวจึงเดินตรงดิ่งกลับไปที่ห้องพัก เขาชะงักเท้าเมื่อต้องเดินผ่านทิศทางที่จะเดินไปห้องของเคอเค่อหลิ่งหลิน เขาหันไปถามพ่อบ้านตู้ที่เดินตามมา
“นางตื่นหรือยัง”
“คุณหนูยังไม่ฟื้นขอรับ” พ่อบ้านรายงานไปตามจริง “แต่ระหว่างนี้ท่านหมอมู่กับบุตรสาวแวะเวียนมาดูอาการบ่อยๆ สีหน้าคุณหนูก็ดีขึ้นมากขอรับ”
ตั้งแต่ก่อนไปก็บอกว่าดีขึ้น กลับมาก็บอกว่าดีขึ้น แต่คนก็ยังไม่ตื่น จะดีขึ้นตรงไหน
จ้าวจิ่นสือหงุดหงิดอยากเดินเข้าไปดูให้เห็นกับตา แต่สภาพตนเองตอนนี้คงไม่เหมาะนัก เขาจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ แล้วเดินตรงดิ่งไปที่ห้องของตนเอง โบกมือไล่บ่าวรับใช้ไม่ต้องเข้ามา ระหว่างรอคนเติมน้ำอุ่นให้นั้น เขาก็ปลดอาวุธออกจากกายวางบนโต๊ะ แล้วรอให้บ่าวรับใช้ออกไป แล้วเขาจึงปลดเปลื้องเสื้อผ้า เหลือเพียงเนื้อกายเปลือยเปล่าลงไปแช่น้ำอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมานาน ร่างกายประท้วงว่าเหนื่อยล้าต้องการพักผ่อนอย่างรู้สึกได้
ไม่ใช่งานสอดแนมแฝงตัวครั้งแรก แต่ก็รับคำสั่งทำจริงจังแค่ไม่กี่ครั้ง อดคิดถึงหญิงสาวอีกคนที่ยังไม่ตื่นฟื้น นางเป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่อดทนได้มากกว่าเขาอย่างนั้นหรือ? เพราะทุกครั้งที่มีงานแฝงตัว นางมักได้รับหน้าที่เสมอ
หลับตาขณะแช่กายในน้ำอุ่น ใจก็ประหวัดถึงเคอหลิ่งหลิน นี่มันครบเดือนแล้วกระมัง ทำไมนางหลับไปนานเช่นนี้ ระหว่างเดินทางก็เป็นกังวล เกรงอาการนางจะทรุดลงไปอีก พยายามคิดในแง่ดีว่าเขากลับมาแล้วอาจจะเห็นนางตื่น จากที่คิดว่าจะหลับพักสักตื่น ก็รู้สึกว่าถ้าไม่ได้เห็นหน้าเคอหลิ่งหลินเขาคงไม่อาจวางใจได้แน่ๆ คิดได้ดังนั้นก็รีบจัดการชำระล้างร่างกาย สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาออกไปที่ห้องของเคอหลิ่งหลิน การทำอะไรด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็กทำให้ยามแฝงตัวสอดแนมดูไม่ผิดปกติกับคนผู้อื่นนัก นับว่าถูกแล้วที่ตนเองไม่มีบ่าวรับใช้ติดตามตัว เขาก้าวยาวๆ ออกมาจากห้องพักก็รู้สึกได้ว่าแสงเช้าแตะแต้มระบายฟ้าแล้ว เดินไปไม่กี่ก้าวก็หยุดที่หน้าห้องของเคอหลิ่งหลินลิ่นหลิง ยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นทำท่าจะเคาะประตูเรียกสาวใช้ที่อยู่ข้างใน บานประตูก็เปิดออกมาเสียก่อน
