บท
ตั้งค่า

ตอนที่11.อ่านหนังสือออกด้วยรึ

“แล้วเจ้าล่ะ อ่านหนังสือออกด้วยรึ”

“ถึงข้าไม่ได้เข้าเรียนในสำนักศึกษาแต่ท่านพ่อก็สอนอ่านเขียนนะเจ้าคะ” นางพูดด้วยความภูมิใจ อย่างน้อยนางก็รู้หนังสือเพราะบิดาของตน

จ้าวจิ่นสือมองนางอย่างประเมินแล้วลองสอบถาม “เจ้ารู้จักหลิ่งหลินได้อย่างไร”

“หลิ่งหลิน?” นางทวนคำแล้วก็นึกได้ “ท่านหมายถึงเคอหลิ่งหลินใช่หรือไม่”

“อืม...” อยู่ข้างนอก พี่สาวซุกซนคนนี้คงใช้แซ่เดิมของนาง

“ตอนนั้นข้าแอบหลบท่านพ่อขึ้นเขาไปหาสมุนไพร หลงป่าอยู่สามวันสามคืน บังเอิญพี่หลิ่งหลินมาพบข้าเข้าได้ช่วยชีวิตข้าไว้และพาข้าไปส่งที่บ้านอย่างปลอดภัย นับแต่นั้นก็ได้พบพี่สาวบ่อยๆ เจ้าค่ะ แต่มิรู้ว่านางเป็นลูกบุญธรรมแม่ทัพจ้าว”

“พี่สาว? ท่าทางเจ้าสนิทสนมกับนางนะ”

“ก็...” นางอึกอักคิดคำตอบ จะบอกว่าสนิทสนมก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะนางเองก็เพิ่งรู้ว่าเคอหลิ่งหลินเป็นลูกบุญธรรมแม่ทัพจ้าว แต่ถ้าพูดไม่ว่าสนิทนางก็พลั้งปากเรียก ‘พี่สาว’ อยู่หลายครั้ง

“เจ้าเรียกนางว่าพี่สาว คงสนิทสนมในระดับหนึ่ง” เขาหรี่ตามองอย่างประเมิน “ทำไมนางถึงบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้”

“เรื่องนั้น” นางเม้มริมฝีปากแน่นจนเรียบตึง จำได้ว่าก่อนที่เคอหลิ่งหลินจะออกไปนำไข่มุกหมื่นราตรีมารักษาคุณชายเฉิน นางถึงกับบังคับให้ผู้อารักขาคุณชายให้คำสัตย์สัญญาว่าจะไม่บอกใคร แล้วนางก็ยืนอยู่ตรงนั้น จะให้นางพูดได้อย่างไรกัน

“ขออภัย ข้าน้อยไม่ทราบเรื่องนั้นจริงๆ”

“ไม่ทราบหรือไม่พูด” เขายกมือขึ้นกอดอก ปรายตามองหนังสือในอ้อมอกของนางที่กอดไว้อย่างหวงแหน

“ไม่ทราบเจ้าค่ะ” นางยืดตัวขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้แววซุกซน จ้องมองเขากลับไม่มีท่าทางหวาดกลัว

“ข้าน้อยเข้าใจว่าท่านชอบพี่สาวมาก คงจะทรมานใจมิน้อยที่เห็นนางบาดเจ็บขนาดนี้ แต่ท่านเค้นถามข้าน้อยอย่างไร คำตอบของข้าน้อยก็เป็นเช่นเดิม”

ชายหนุ่มถลึงตามอง ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะใจกล้า! กล้าพูดแบบนี้กับเขาได้ ยิ่งท่าทางไม่ยอมใครของนางด้วยแล้ว ยิ่งทำให้นางไม่เหมือนหญิงชาวบ้านทั่วไป

เห็นเขากัดฟันข่มโทสะ นางก็ไม่อยากก่อกวนเขาเกินความจำเป็นนัก อย่างไรนางก็ไม่รู้จักเขาและคงไม่มีทางข้องเกี่ยวกับคนผู้นี้เป็นแน่ หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายยอมถอยให้ครึ่งก้าว นางได้หนังสือที่ต้องการแล้ว รอเพียงแค่ชุนเอ๋อร์มารับนางซึ่งป่านนี้ก็คงเช็ดตัวให้เคอหลิ่งหลินเสร็จแล้ว นางจะได้กลับเสียที

“แม่นางมู่ อุ๊ย! คุณชายจ้าว”

แค่คิด คนที่นึกถึงก็เดินเข้ามาตามพอดี ชุนเอ๋อร์เห็นคุณชายของบ้านก็ย่อตัวคารวะ ท่าทางนอบน้อมของชุนเอ๋อร์ทำให้มู่ฟางเหนียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นางกวาดสายตามองบุรุษร่างสูงและเค้าโครงหน้าคมคายที่ถอดแบบมาจากแม่ทัพจ้าวซื่อก่วง ทว่ามีดวงตาอ่อนโยนดุจเดียวกับฮูหยินอี้ซิ่ว นางสูดลมหายใจลึกแต่ไม่แสดงท่าทางอะไร นางติดตามบิดารอนแรมรักษาคนไปทั่ว เจอทั้งยาจกและเศรษฐี คหบดีหรือราชนิกุล เรื่องกระตุกหนวดเสือนางก็ทำมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว หากแต่ไม่เคยสังเกตใบหน้าของเขาจึงไม่สนใจจะคาดเดาฐานะของคนผู้นี้

แทนที่นางรู้ฐานะของเขาแล้วจะแสดงอาการนอบน้อมหรือตื่นตระหนก เขากลับเห็นเพียงแววตาสงบนิ่งและชินชา ราวกับเขาไม่ใช่บุคคลสำคัญให้ใส่ใจ โทสะที่สงบกรุ่นขึ้นมาอีก แต่ก็ต้องข่มไว้เพราะนางเป็นเพียงสตรี เขาไม่อยากได้ชื่อว่ารังแกแม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ

“ข้าน้อยขอตัวเจ้าค่ะ”

นางแนบหนังสือไว้กับอก ย่อตัวคารวะแล้วมองทางชุนเอ๋อร์ที่มายืนรอรับนางแล้ว เพียงเท้าของนางก้าวพ้นธรณีประตู เสียงเรียกด้านหลังก็ทำให้นางชะงัก

“หนังสือนั่นท่านแม่ข้าให้เจ้ายืม เจ้าต้องเอามาคืนบนชั้นตามตำแหน่งเดิมและไม่ขาดหรือชำรุดแม้แต่แผ่นเดียว”

“ข้าน้อยทราบแล้วเจ้าค่ะ”

นางตอบแล้วก็เดินตามชุนเอ๋อร์ออกไป พอพ้นประตูได้หลายก้าวแล้ว นางก็เบ้ปากนิดๆ ผู้ชายอะไร คิดเล็กคิดน้อยอย่างกับผู้หญิง เอาแต่ใจตนเองเหมือนพวกลูกคนเดียว เอ๊ะ! นิสัยนี้คุ้นๆ แฮะ เหมือนที่พี่สาวเคยพูดถึงน้องชายอยู่บ่อยๆ แต่คนผู้นั้นตัวโตออกปานนั้น อายุก็คงพอๆ กับพี่หลิ่งหลิน คงไม่ใช่น้องชายที่นางมักเล่าให้ฟังบ่อยๆ หรอกนะ

“พี่ชุนเอ๋อร์” นางเรียกอย่างเกรงใจ ขณะเดินกลับไปที่ห้องพักของเคอหลิ่งหลินเพื่อหยิบล่วมยาเตรียมกลับบ้านพร้อมหนังสือในอ้อมอก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel