บทที่5 โลกกลม
แก้มหวานเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งฟุบหน้าบนโต๊ะภายในห้องเรียนก่อนโอดครวญออกมาเบาๆ “ฮื่อ..จะทำยังไงดี”
“อ๊าย! อาจารย์หล่อมาก”
“งื้อ..อาจารย์หล่อจัง”
เธอนั่งฟุบหน้าอยู่อย่างนั้นจนเสียงกรีดกราด และเสียงชื่นชมของเพื่อนผู้หญิงในห้องดังระเบ็งเซ้งแซ้ขึ้นเธอจึงผงกหน้าขึ้นมองเพียงครู่นึ่ง ก่อนฟุบลงเหมือนเดิมตอนนี้เธอไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องใดๆทั้งนั้นนอกจากปัญหาของน้องสาว
มิราที่เห็นว่าเพื่อนสาวเอาแต่นั่งฟุบหน้าไม่ร่าเริงเหมือนเดิมยืนมือไปจั๊กจะจี้เอวเบาๆเพื่อหยอกเย้าไม่ให้เพื่อนสาวเครียดและมันก็ได้ผลแก้มหวานถึงกับหัวเราะร่าออกมาอย่างลืมตัว “ฮ่าฮ่า..หยุดนะมิรา”
‘อุ๊บ!’
ก่อนที่เธอจะต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้เมื่อสายตาเธอปะทะเข้ากับสายตาของอาจารย์หนุ่มที่จ้องเธออยู่จังๆ มือเล็กประนมยกขึ้นไหว้อาจารย์หนุ่มด้วยความประหม่า “ขะ..ขอโทษค่ะอาจารย์”
“....” ไร้เสียงและปฏิกิริยาตอบกลับจากอาจารย์หนุ่ม ดวงตาคมกริบจับจ้องดวงหน้าสวยนิ่งๆ ก่อนที่เขาจะกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อมั่นใจว่าเธอคือพี่สาวของแก้วตาคนที่เห็นในคลับเมื่อคืนโลกช่างกลมเสียจริง เขาปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะเอ่ยแนะนำตัว “สวัสดีครับอาจารย์ชื่อปุณณวิชญ์ สิริราญากุลจะมาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาแทนอาจารย์กนกวรรณนับตั้งแต่วันนี้”
ดวงตาคมกริบไล่มองหน้านักศึกษาทุกคนภายในห้องเรียน ก่อนหยุดสายตาอยู่ที่ใบหน้าของแก้มหวานที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะรู้สึกคุ้นๆน้ำเสียงของอาจารย์หนุ่มจนต้องหันไปถามเพื่อนสาวโดยไม่รู้เลยว่ากำลังโดนจับจ้องอยู่ “ทำไมฉันคุ้นๆเสียงอาจารย์จังเหมือนเคยได้ยินที่ไหน”
“เราเพิ่งเคยเจออาจารย์ครั้งแรกแกจะเคยได้ยินจากไหนเสียงมันก็คล้ายกันได้น่า”
“อือก็คงงั้น” เธอไหว่ไหล่ให้เพื่อนสาวอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ก่อนแสสายตามองออกไปนอกหน้าต่างเรื่องของน้องสาวพลันย้อนกลับเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง
“แก้ม” จนเสียงของมิราดังขึ้นข้างๆหูดึงให้เธอหลุดออกจากห้วงความคิด ดวงตากลมโตตวัดมองหน้าเพื่อนสาวเชิงตั้งคำถาม “อะไรมิรา”
"ฉันได้ยินมาว่าอาจารย์เป็นลูกชายของอธิการบดีมหาวิทยาลัยเลยนะแถมจบปริญญาเอกจากเมืองนอกอีกด้วยคนอะไรทั้งหล่อทั้งเก่งทำไมเพิ่งได้มาเจอตอนพวกเราเรียนปีสุดท้ายแล้วอะ" มิราโน้มไปกระซิบกระซาบประชิดกกหูเพื่อนสาวด้วยท่าทางตื้นเต้นปนเสียดาย คนได้ฟังส่ายหน้าเบาๆก่อนกระซิบตอบแบบกวนๆ “อยากรู้ก็ไปถามอาจารย์เองสิ”
“ชิ..” มิราจีบปากจีบคอใส่เพื่อนสาวอย่างงอนๆ ก่อนจะกอดอกสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น
ท่าทางกระฟัดกระเฟียดของมิราทำให้แก้มหวานระบายยิ้มออกมาบางๆ นิ้วเรียวจิ้มลงบนแขนเพื่อนสาววซ้ำๆ อย่างนึกมันเขี้ยว ทว่าเธอก็ต้องหุบยิ้มและหยุดการกระทำลงฉับพลันเมื่อเหลือบไปเห็นว่าอาจารย์หนุ่มยืนจ้องอยู่ เธอค่อยเอนตัวหลบหลังเพื่อนที่นั่งเก้าอี้ด้านหน้าก่อนจะยื่นมือไปสะกิดเพื่อนสาวแล้วพูดขึ้น “มิราอาจารย์มีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่าทำไมเอาแต่จ้องฉัน”
มิราปรายตามองอาจารย์หนุ่มตามคำบอกของเพื่อนสาวแต่ก็พบว่าเขาไม่ได้มองมาเหมือนที่เพื่อนสาวพูด “แกคิดไปเองหรือเปล่าอาจารย์ไม่เห็นจ้องเลย”
คนได้ฟังขมวดคิ้วชนกันก่อนจะชะโงกหน้ามองอาจารย์หนุ่มปรากฏว่าเขากำลังก้มหน้าทำอะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะไม่ได้จ้องเธอจริงๆ แต่เธอไม่ได้คิดไปเองเมื่อกี้อาจารย์หนุ่มจ้องเธออยู่จะจ้องด้วยสาเหตุอะไรนั้นก็มิอาจทราบได้
“ใครเป็นหัวหน้าห้องครับ” ระหว่างที่หญิงสาวกำลังครุ่นคิดอยู่เสียงอาจารย์หนุ่มก็ดังขึ้น เธอจึงรีบยกมือตอบ “หนูค่ะ”
“ตามผมไปเอาแบบสอบถามมาแจกเพื่อนๆด้วย” อาจารย์หนุ่มพยักหน้ารับก่อนเอ่ยต่อสิ้นสุดคำพูดก็ก้าวเท้าเดินออกไป ร่างบางรีบหยัดกายลุกเดินกึ่งวิ่งตามอาจารย์หนุ่มไปทันที
ปึก!
ร่างบางที่ก้มหน้าก้มตาเดินตามหลังอาจารย์หนุ่มมาติดๆชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างเต็มแรงเมื่อเขาหยุดเดินกระทันหัน ใบหน้าสวยเหยเกด้วยความเจ็บปนไม่พอใจที่จู่เขาก็หยุดเดินไม่บอกไม่กล่าว ทว่าเธอก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนน้อมศีรษะขอโทษในตอนที่อาจารย์หนุ่มหันกลับมองเธอด้วยแววตาดุดัน “ขอโทษค่ะอาจารย์”
“...” ไร้ปฏิกิริยาตอบสนองจากอาจารย์หนุ่มเขาเพียงจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งๆครู่นึ่งก่อนหันไปเปิดประตูเดินเข้าห้องทำงานของตัวเอง
“ทำไมเซ่อซ่าอย่างนี้นะแก้มหวาน” แก้มหวานมองไปทางประตูที่อาจารย์หนุ่มเพิ่งเดินหายเข้าไป มือเล็กยกขึ้นตีกะบาลตัวเองเบาๆเมื่อเห็นป้ายชื่อหน้าห้องก็เพราะถึงห้องทำงานเขาแล้วนั้นเอง เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนค่อยๆเปิดประตูเข้าไป กายเล็กถึงกับขนลุกซู่เมื่อความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องทำงานของอาจารย์หนุ่มตกกระทบผิวมันไม่ใช่แค่เย็นธรรมดาแต่โคตรเย็นยะเยือกเลย เธอเดาว่าอาจารย์หนุ่มคงเป็นคนขี้ร้อนหรือไม่ก็ชอบความเย็นเอามากๆ ดวงตากลมโตมองสำรวจภายในห้องอย่างพินิจพิจารณาเฟอร์นิเจอร์และของประดับที่วางในห้องไม่บอกก็รู้ว่าราคาแพงแค่ไหนดูสะดวกสบายราวกับไม่ใช่ห้องทำงานด้วยซ้ำซึ่งแตกต่างจากห้องอาจารย์คนอื่นสิ้นเชิง ทว่าเธอไม่แปลกใจเลยสักนิดเขาเป็นถึงลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยย่อมได้รับสิทธิพิเศษกว่าบุคลากรคนอื่นๆในมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว
“เธอชื่ออะไร” เสียงของอาจารย์หนุ่มดึงความสนใจคนที่กำลังมองสำรวจภายในห้องให้หันไปมองดวงตากลมโตสบประสานเข้ากับดวงตาคมกริบของอาจารย์หนุ่มอย่างจัง เธอรีบหลุบสายตาลงต่ำ ก่อนเดินไปยืนหน้าโต๊ะทำงานที่เขานั่งอยู่แล้วพูดขึ้น “จิณัฐตาค่ะ”
“อืม” อาจารย์หนุ่มพยักหน้ารับพร้อมทั้งหยิบแบบสอบถามปึกหนายื่นให้เธอ “วันจันทร์หน้ารวบรวมมาส่งผมด้วย”
“ค่ะ” มือเล็กเอื้อมไปรับเอกสารจากมืออาจารย์หนุ่มก่อนรีบหมุนตัวเดินออกจากห้องนำแบบสอบถามไปแจกเพื่อนๆ หลังจากนั้นจึงเดินทางไปทำงานที่คาเฟ่ต่อเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
