บท
ตั้งค่า

บทที่4 ทางเลือก

@เคียงดาวแมนชั่น

แก้มหวานเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยสมองที่หนักอึ้งเพราะคิดไม่ตกตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรเชื่อน้องสาวหรือไม่ เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าน้องสาวที่เธอดูแลมาตั้งแต่อายุ 12ปีเป็นคนยังไงกันแน่

ดวงตากลมโตสอดส่องมองหาน้องสาวทั่วห้องเพื่อเรียกมาถามไถ่เรื่องเงินสองล้านแต่ก็ไร้เงามือเล็กล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างเพื่อโทรหาน้องสาว ทว่าไม่ทันจะได้กดโทรออกน้องสาวก็เปิดประตูเข้ามา

“ไปเซเว่นมาค่ะ” แก้วตารีบชูถุงขนมให้พี่สาวดูด้วยความเร็วเมื่อเห็นสายตาดุดันที่พี่สาวมองมายังเธอ

“เรื่องเงินสองล้านแก้วไม่รู้เรื่องจริงๆเหรอ” หญิงสาวพยักรับก่อนถามไถ่ถึงเรื่องที่ค้างคาใจอยู่ดวงตากลมโตมองไปที่น้องสาวอย่างจับพิรุธ

“แก้วไม่รู้เรื่องจริงๆค่ะ” แก้วตาเดินมาหย่อนสะโพกนั่งข้างผู้เป็นพี่สาวแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ได้แสดงท่าทางที่เป็นพิรุธใดๆ

 “แต่ทางนั้นยืนยันหนักแน่นว่าแก้วโทรไปขอเบิกค่าเลี้ยงดูล่วงหน้าเขามีหลักฐานสลิปการโอนเงินเข้าบัญชีที่เป็นชื่อแก้มนะ”

“เป็นไปไม่ได้แก้วไม่เคยโทร” แก้วตายังคงยืนยันเสียงหนักแน่นเธอนิ่งเงียบไปสักพักก่อนเปล่งเสียงพูดอีกครั้งเมื่อฉุกคิดขึ้นได้ “หรือว่าจะเป็นพี่ลูกหมี”

“พี่ลูกหมีคือใคร” แก้มหวานขมวดคิ้วถามน้องสาวด้วยความสงสัย

“พี่ลูกหมีคือพี่สาวของเพื่อนคนที่พาแก้วไปเซ็นสัญญาไม่แน่เขาอาจจะเป็นคนโทรไป”

“ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วพี่สาวเพื่อนมีบัญชีธนาคารแก้วได้ยังไง”

“วันนั้นหลังจากเซ็นสัญญาเสร็จพี่ลูกหมีก็พาแก้วไปเปิดบัญชีใหม่”

“แล้วตอนนี้สมุดบัญชีกับบัตรเอทีเอ็มอยู่ไหน”

“อยู่ที่พี่ลูกหมีค่ะ”

“ทำไมถึงไปอยู่ที่เขา”

“วันนั้นหลังจากเปิดบัญชีเสร็จพี่ลูกหมีก็ขอสมุดบัญชีกับบัตรเอทีเอ็มจากแก้วแล้วรีบเดินออกไปเลย แก้วถามเพื่อนเพื่อนก็บอกว่าพี่สาวเขารีบเอาหน้าสมุดบัญชีไปถ่ายเอกสารส่งให้ผู้ว่าจ้างจะเอากลับมาคืนทีหลัง”

แก้มหวานถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ดวงตากลมโตมองหน้าน้องสาวด้วยแววตาอ่อนใจเธอไม่รู้ว่าควรโทษน้องสาวหรือตัวเองดีที่เลี้ยงดูประคบประงอมจนน้องสาวอ่อนต่อโลกไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนอื่น

“แก้วขอโทษที่สร้างปัญหาให้พี่” แก้วตาใบหน้าสลดลงเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของผู้เป็นพี่สาวความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาถ้าไม่ใช่เพราะเธอถือดีทำอะไรโดยไม่ปรึกษาพี่สาวเรื่องคงไม่บานปลายมาถึงขั้นนี้ ท่าทางของแก้วตาทำให้คนเป็นพี่สาวอย่างแก้มหวานอดสงสารไม่ได้มือเล็กเอื้อมไปรั้งตัวน้องสาวเข้ามากอดเชิงปลอบประโลม “ไม่เป็นไรเราค่อยๆหาทางแก้ปัญหากัน”

“ แก้วรู้ไหมบ้านเพื่อนอยู่ไหน” เธอสวมกอดน้องสาวนานนับนาทีก่อนผละกอดออกแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง คนโดนถามพยักหน้าแทนคำตอบ

“งั้นพาพี่ไปหน่อยตอนนี้เลย”

“ได้ค่ะ” สิ้นสุดคำพูดน้องสาวแก้มหวานก็คว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วพากันเดินออกไปขึ้นรถแท็กซี่ทันทีเธอรู้สึกร้อนรนใจมากจนรอให้ทีพรุ่งนี้ไม่ไหว ทว่าเธอแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อเดินทางมาถึงบ้านเพื่อนสาวแก้วตาแต่กลับพบว่าบ้านหลังนี้ติดป้ายประกาศขายด่วนสอบถามคนในละแวกนั้นเขาก็บอกว่าเจ้าของบ้านย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้ว

“จะทำยังไงกันดีคะพี่แก้ม”

“พรุ่งนี้ไปแจ้งความกันเราจะปล่อยให้คนเลวๆแบบนี้ลอยนวลไม่ได้พวกเขาต้องกลับมารับผิดชอบเรื่องนี้”

“หากแจ้งความตำรวจก็รู้สิคะว่าแก้วเป็นเด็กเสี่ยหรืออาจเป็นข่าวด้วยซ้ำไปพี่แก้มก็รู้ว่าเดี่ยวนี้โซเชียลมันแรงเรื่องนิดหน่อยก็เป็นข่าวถ้าแบบนั้นเพื่อนแก้วก็ต้องรู้แล้วแก้วจะเอาหน้าไปไว้ไหนอย่าแจ้งความเลยนะพี่แก้ม” แก้วตาร้องห้ามพี่สาวทันทีเธอรู้ดีว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่พูดออกไปแบบนั้นแต่เธอรับไม่ได้จริงๆเพียงแค่คิดว่าเรื่องนี้หลุดออกไปทุกคนที่เคยมองว่าเธอใสซื่อเป็นเด็กดีคงพากันนินทาดูถูกเหยียดหยาม

“อืม” แก้มหวานเพียงพยักหน้ารับก่อนโอบไหล่น้องสาวเดินออกไปเรียกรถแท็กซี่หน้าหมู่บ้านเดินทางกลับห้องพักด้วยสมองหนักอึ้งเพราะคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงต่อดีสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คงต้องโทรไปคุยกับเจ้านายของเจนภพเองเผื่อเขาจะเห็นใจยอมหย่อนๆให้ได้บ้าง

วันต่อมา

ร่างบางในชุดนักศึกษานั่งมองเบอร์โทรศัพท์ของเจ้านายเจนภพที่เธอเพิ่งโทรไปขอจากเขาเมื่อกี้ด้วยความรู้สึกกังวล เธอนั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะกดโทรออกถือสายรอเพียงไม่นานปลายก็กดรับ

(สวัสดีครับกวินท์พูดสายครับ)

แก้มหวานประหม่าเล็กน้อยเมื่อได้ยินน้ำเสียงของคนปลายสายจากที่ฟังดูเขาน่าจะอายุไม่เยอะเท่าไรต่างจากที่คิดไว้ เธอสลัดความคิดออกจากหัวแล้วเอ่ยแนะนำตัว (สวัสดีค่ะคุณกวินท์ฉันแก้มหวานพี่สาวแก้วตาค่ะ)

(ครับ..)

(คุณคงรู้เรื่องจากคุณเจนภพบ้างแล้วใช่ไหมคะ)

(ครับ..)

(งั้นคุณคงรู้ใช่ไหมคะว่าน้องสาวฉันโดนเพื่อนหลอกสวมรอยแล้วเชิดเงินสองล้านหนี)

(ครับ..)

เธอรู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมากที่คนปลายสายเอาแต่พูดอยู่คำเดียวไม่มีความคิดเห็นแถมน้ำเสียงยังไร้ความรู้สึกอีกเหมือนคนตายด้าน เธอพยายามผ่อนลมหายใจเข้าออกเบาๆระงับอารมณ์เอาไว้ก่อนเปล่งเสียงถามด้วยความไม่พอใจ (คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอคะ)

(ให้พูดอะไรนั้นมันเป็นปัญหาของคุณกับน้องสาวไม่ใช่ปัญหาของผม)

“...” ทว่าประโยคตอบกลับของคนปลายสายทำให้เธอถึงกับสะอึกเริ่มสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของเขาและเธอไม่อยากเสวนากับคนประเภทนี้นานๆเลยรีบบอกจุดประสงค์ของตัวเองไป (ฉันขอยกเลิกสัญญาของน้องสาวค่ะ)

(โอนเงินสองล้านคืนให้ผมสัญญาจึงจะถูกยกเลิก)

(ทำไมพวกฉันต้องคืนคนที่เอาไปไม่ใช่น้องสาวฉันสักหน่อยอยากได้คืนก็ไปตามจากสองพี่น้องนั้นสิคะ)

(ไม่เกี่ยวได้ยังไงในสัญญาเป็นชื่อและลายเซ็นของน้องสาวคุณ บัญชีธนาคารก็เป็นข้อมูลของน้องสาวคุณหากผมแจ้งความฐานฉ้อโกงคุณคงรู้ดีว่าผลจะออกมาเป็นยังไง)

(นี่คุณขู่ฉันเหรอคะ)

(ผมทำจริง..ผมมีทางเลือกให้คุณสามทาง หนึ่งหาเงินมาคืนผมภายในสองวัน สองให้น้องสาวคุณทำงานตามสัญญา สาม....)

(ข้อสามอะไรคะคุณเงียบทำไม) เสียงหวานเปล่งถามคนปลายสายด้วยความสงสัยเมื่อจู่ๆเขาก็เงียบไปทั้งที่ยังพูดไม่จบ

(คุณมาทำงานแทนน้องสาว)

ประโยคสุดท้ายจากปลายสายทำให้คนฟังถึงกับอ้าปากเหว่อ ทว่าไม่ทันที่เธอจะได้ตอบอะไรกลับปลายสายก็ตัดสายทิ้งไป

“คิดว่าใหญ่มาจากไหนอยากทำอะไรก็ทำ..เผด็จการ” แก้มหวานกรอกตามองบนพ่นลมหายใจหนักๆออกมาด้วยความรู้สึกโมโหเธอไม่เคยเจอใครที่ทำตัวลึกลับ เผด็จการแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ  

“เป็นอะไรแก้มหน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”

“ก็เรื่องแก้วนั้นแหละ”

“มีอะไรเหรอ” มิราเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย คนโดนถามถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆก่อนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนสาวฟัง

“...” มิราถึงกับหนักใจแทนเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดถ้าแค่เงินล้านครึ่งล้านเธอก็พอช่วยเพื่อนสาวได้อยู่หรอกแต่เงินเป็นสองล้านเธอก็จนปัญญาเช่นกันทำได้แค่ให้กำลังใจแทน

“เอาน่าสู้ๆ อย่าเครียดขึ้นห้องเรียนกันเถอะได้ยินว่าวันนี้มีอาจารย์ใหม่มาเป็นที่ปรึกษาแทนอาจารย์กนกวรรณด้วยนะไปดูกัน” เธอตบบ่าเพื่อนสาวเบาๆเชิงให้กำลังใจก่อนจะดึงมือเพื่อนสาวให้ลุกเดินตามขึ้นไปยังห้องเรียน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel