Chapter 14 เตรียมตัวให้พร้อม ฉันจะไปรอที่เตียง
หญิงสาวเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว นึกย้อนถึงคำพูดของมารดา นางคะยั้นคะยอให้เธอมาช่วยดูแลลูกชายของลุงไมเคิล หรือว่าผู้ชายตรงหน้า…
“คุณรู้จักแม่ของฉันได้ยังไง” มายาวีย์หันกลับไปถาม
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเธอ”
“ขอโทษที่ถาม” มายาวีย์บอกอย่างประชดประชัน ผินหน้าไปมองท้องทะเลที่เวิ้งว้าง
“เกาะนี้อยู่ในน่านน้ำของกัมพูชา ดินแดนที่มีอิทธิพลเถื่อนรอบด้าน ถ้าเธอไม่ไปกับฉัน นั่งอยู่ตรงนี้อาจจะโดนหนุ่มเพื่อนบ้านของเธอรุมโทรมก็ได้ ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยนะ”
มายาวีย์คิดตาม พลางกวาดสายตามองหวาดๆ รู้ข้อมูลมาบ้างว่าตรงตะเข็บชายแดนไทยกัมพูชาแถบนี้ ประกอบธุรกิจสีเทาเป็นส่วนใหญ่ นั่นหมายถึงว่าความปลอดภัยก็มีน้อยลงตามไปด้วย
หญิงสาวยกมือขึ้นพนมไหว้อย่างอนวอน “กรุณาฉันเถอะนะคะ ช่วยส่งฉันกลับไปที่ฝั่งเถอะค่ะ แล้วฉันจะไม่รบกวนคุณอีก”
“ไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับเธอ ฉันบอกเธอแล้วไงว่าต้องจ่ายเงินคืนจำนวน 10 เท่า หรือจะกลับออกไปเพียงแค่วิญญาณ”
“คุณเป็นผู้ชายที่โหดร้ายและเลือดเย็นที่สุด”
“แล้วแต่นะ ถ้าอยากนั่งอยู่ที่นี่ต่อก็ตามสบาย แต่ฉันไม่รับรองความปลอดภัยว่าเธอจะโดนรุมโทรมนะ” ชายหนุ่มขู่อีกรอบ หมุนตัวกลับและเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
มายาวีย์มองตามแผ่นหลังของเขาอย่างลังเล ในที่สุดเธอก็ลากกระเป๋าวิ่งตามเขาไป อย่างน้อยวิชาป้องกันตัวที่เธอมี จะปกป้องให้เธอรอดพ้นอันตรายของวันนี้ได้
เมื่อได้ยินเสียงล้อเลื่อนกระเป๋าตามมา คนเดินนำยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เขาก็ไม่สนใจหันกลับมามอง หญิงสาวกลับไปที่ห้องเดิมของตัวเอง
“เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปรอฉันบนเตียง” เขาบอกขึ้นอีกครั้ง
“ฉันบอกคุณไปแล้วไง ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด ฉันมาที่นี่ในตำแหน่งผู้ช่วยของคุณ และฉันก็จะทำงานในตำแหน่งที่ฉันตอบตกลงไปเท่านั้น”
ชายหนุ่มยิ้มเหยียด “แม่ของเธอสอนวิธีการโกงค่าตัวมาดีนี่ สมกับเป็นลูกแม่เล้าจริงๆ”
“ฉันไม่ได้โกงค่าตัว ฉันตอบรับมาทำงานที่นี่ในตำแหน่งผู้ช่วยของคุณสำรวจพื้นที่เท่านั้น” ฉันบอกไปตามความจริง เพราะตำแหน่งที่สมัครไปคือเป็นผู้ช่วย เพื่อสำรวจพื้นที่เพื่อสร้างคาสิโนแห่งใหม่ที่นี่
“สำรวจพื้นที่บนตัวเธอต่างหากล่ะ”
“ฉันบอกคุณไปแล้วไงว่า...แม้แต่ขนขาอย่างเธอ คุณก็จะไม่มีโอกาสได้เห็น”
“แล้วทำไมฉันถึงต้องพึ่งพาผู้ช่วยอย่างเธอ ในเมื่อฉันพูดภาษาไทยได้เหมือนเจ้าของภาษา สื่อสารภาษากัมพูชาได้เป็นอย่างดี ภาษาอังกฤษยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนไม่มีประสบการณ์อย่างเธอจะมาช่วยอะไรฉันได้ จากพื้นฐานของเธอที่ฉันเห็น คงทำได้แค่บริการบนเตียง ตามแบบแผนที่แม่ของเธอสอนมา” สายตาคู่ผมของเขาจับจ้องมาที่เธอ ดวงตาคู่นั้นหยาบคายเป็นที่สุด
“ถ้าคุณคิดว่าฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้ ก็ส่งฉันกลับ”
“บอกแล้วไง นักธุรกิจไม่มีทางเสียเปรียบแน่ ตอนนี้แม่ของเธอคงเสวยสุขอยู่กับเงินก้อนโตนั่นแล้ว”
หญิงสาวย่นหัวคิ้วเข้าหากัน “คุณหมายความว่ายังไง”
“อย่ามาทำเป็นไขสือ ใสซื่อกับเรื่องแบบนี้หน่อยเลย ฉันรู้ว่าพวกเธอทำงานกันเป็นทีม แต่เอาเถอะ…ในเมื่อเธออยากขาย ฉันจะใช้บริการเธอให้คุ้มกับค่าเงินที่จ่ายไป เรือนร่างของเธอทำให้เลือดลมอย่างเธอสูบฉีดมากเลยทีเดียว ปกติฉันไม่ชอบมีเซ็กส์กับผู้หญิงขายบริการหรอกนะ แต่ฉันจะลองกับเธอสักครั้ง”
“ต่ำช้า หยาบคายที่สุด”
“วิธีการเดียวที่จะทำให้เธอออกไปจากที่นี่ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยกลับมาให้ฉัน คือทำให้ฉันเบื่อที่จะมีเซ็กส์กับเธอ ฉันไม่ยอมจ่ายเงินก้อนโตโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาหรอกนะ”
“ฉันยังไม่ได้รับเงินอะไรจากคุณ และไม่มีทางที่ฉันจะขายตัวในแบบที่คุณบอกแน่” มายาวีย์บอกอย่างเด็ดเดี่ยว
เขาหัวเราะขันในลำคอ กวาดสายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “ไม่ได้ขายตัวงั้นเหรอ ไปถามแม่เธอดูก่อนไหมล่ะ”
‘แม่งั้นหรอ’ หญิงสาวนิ่งงันไป ย้อนนึกถึงคำพูดของแม่ที่พยายามโน้มน้าวกับเธอ นึกอยากเขกกะโหลกตัวเองที่เธอจำชื่อผู้ชายคนที่แม่บอกไม่ได้
“เธอไม่มีทางออกไปจากที่นี่ได้ ถ้าฉันไม่เบื่อ” น้ำเสียงหนักแน่นและดุดัน ย้ำให้มายาวีย์รู้ว่าเขาจริงจังกับคำพูดที่เปล่งออกมามากแค่ไหน
มายาวีย์ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ หนีเสือปะจระเข้จริงๆ ทั้งที่หลีกเลี่ยงงานแบบนี้มาทั้งชีวิต เพื่อรอเวลาเรียนจบและก้าวออกไปจากนรกขุมนั้น แต่เธอกลับพลาดตกม้าตายในก้าวสุดท้ายของตัวเอง
‘ถ้าจะยอมทำเพื่อรักษาชีวิตและออกไปจากตรงนี้ หลังจากนั้นก็ลืมทุกอย่างที่นี่’ หญิงสาวบอกตัวเองในใจ
‘แต่ตราบาปนี้ก็จะติดตัวแกไปตลอดชีวิตเหมือนเดิมนะเปรี้ยว’ ความคิดอีกด้านแย้งในความเห็น
‘ไม่...ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันจะกัดฟันสู้สุดชีวิต ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ไม่มีวันยอมเด็ดขาด’ มายาวีย์คนเดิมแย้งขึ้น
ในขณะที่ความคิดด้านดีกับด้านลบกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด ชายหนุ่มที่ยืนจ้องอยู่ก็จับสีหน้าอย่างเธอออก
“เอาไง”
“ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหม” หญิงสาวขอยืดเวลาให้ตัวเองได้ทำใจและหาทางออก
“เล่นตัวเล็กน้อยมันอาจจะมีค่า แต่อย่าคิดว่าความอดทนอย่างเธอจะมากพอ ฉันให้เวลาเธอ 2 ชั่วโมง”
พูดจบเขาก็เดินออกไป พร้อมกับเสียงกระแทกปิดประตูดังลั่น บอกได้ถึงความไม่พอใจของเขา
ปัง!
“จริงสิ!” มายาวีย์นึกอะไรออกบางอย่าง เธอรีบควานหาโทรศัพท์ของตัวเองในกระเป๋าสะพาย โชคดีที่ในห้องแปะพาสเวิร์ดสัญญาณ WiFi เอาไว้ ไม่รอช้าที่จะเชื่อมต่อกดเบอร์ต่อสายหาเบอร์ที่ไม่คิดว่าจะโทรหา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมลดทิฐิของตัวเอง เพราะต้องการข้อมูลบางอย่างจากปากของคนเป็นมารดา
คำตอบทุกอย่างอยู่ที่มารดาของเธอ แม้จะไม่อยากติดต่อกลับไป แต่เธอก็อยากจะรู้ความจริง
[ว่ายังไงนังตัวดี แกอยู่ไหน ฉันจะไปลากคอแกกลับมาตอนนี้] ทันทีที่ปลายสายกดรับ นางก็พ่นคำถามเสียงดังลั่นเหมือนตะคอก
[อยู่เกาะกง ส่งคนมาลากคอหนูกลับไปเลยแม่ ถ้าแน่จริง]
[แกไปทำไมเกาะกง] น้ำเสียงของคนเป็นแม่อ่อนลง ถามอย่างสงสัย รู้ว่าเกาะกงเป็นพื้นที่ธุรกิจสีเทาเป็นส่วนใหญ่ ไมเคิลก็มีธุรกิจอยู่ที่นั่นด้วย เพราะนางก็มักจะส่งผู้หญิงที่ร้านเวียนไปทำงานบ่อยๆ จึงสงสัยว่าลูกสาวไปอยู่ที่นั่นทำไม
[แม่นี่เล่นละครเก่งเกินกว่าที่หนูคิดเอาไว้เยอะเลยนะ คิดได้ยังไงถึงได้วางแผนส่งลูกตัวเองมาขายตัว แม่คิดได้ยังไง] มายาวีย์ถามกลับด้วยความอัดอั้นน้อยใจ เธอผิดเองที่ไม่ทันฉุกคิดถึงนามสกุลของเจ้านายตอนตอบรับงาน
[แสดงว่าแกไปทำงานกับคุณไมเคิลเหรอ]
[อย่าบอกว่าแม่ไม่รู้มาก่อน บอกมาตามตรง ว่าแม่ได้ไปเท่าไหร่ แม่ถึงยอมแลกกับชีวิตของลูกสาวทั้งชีวิต]
มาลียิ้มออก [ถ้าแกอยู่ที่นั่นแล้วก็ดี อย่าทำอะไรให้ขัดใจคุณลีอาห์ล่ะ]
[หนูถามว่าเท่าไหร่ แม่รับเงินเขามาเท่าไหร่] หญิงสาวถามย้ำ
[เงินตั้ง 20 ล้านนะแก ทั้งชีวิตแกจะมีปัญญาหาหรือเปล่า ฉันส่งแกไปสบายต่างหาก ถ้าเกิดว่าแกมัดใจคุณลีอาห์ได้] คนเป็นแม่ตอบกลับอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อน
[นี่หรือแม่] มายาวีย์ครางออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ปลายสายไม่ได้ยิน
[แกว่าอะไรนะ]
