Ep.4
“โอ ซอรี่ ไอลืมไป แต่ว่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้าคืออะไร ไอไม่เข้าใจ?”
ชัชวาลต้องเกาหัวแกรกๆ เมื่อต้องคุยกับเพื่อนรักไปและอธิบายไปด้วย เขาเองก็ยอมรับว่าฟินิกซ์พูดไทยได้เก่งมาก นั่นเป็นเพราะว่า ศจีพรรณ วรเวชนาคประสิทธิ์ มารดาของเขาอบรมเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก
เมื่อถึงเวลาเช็คบิล
“คุณเป็นเจ้าของร้านเหรอครับ?” ชัชวาลถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์
“ใช่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่พวกคุณมาอุดหนุนร้านของเรา”
กรกนกพูดไปตามมารยาททั้งๆ ที่ในหัวใจเริ่มเต้นแรง เพราะเธอเป็นโรคแพ้คนหล่อ พอเห็นผู้ชายหน้าตาดีๆ ทีไรหัวใจของเธอมันก็เต้นแรงทุกที และหญิงสาวก็รู้สึกได้ว่าผู้ชายที่กำลังสบตาเธอหน้าตาคุ้นๆ เหลือเกิน
“กาแฟร้านของคุณอร่อยมากครับ”
ลูกค้าหนุ่มเอ่ยชมอย่างจริงใจ แต่กลับยิ้มให้หญิงสาวด้วยนัยน์ตาหวานเชื่อม แต่เมื่อมองหน้าเจ้าของร้านคนสวยชัดๆ ชายหนุ่มก็รู้สึกคุ้นหน้าหญิงสาวมากเช่นเดียวกัน
“เอ่อ คือผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณมากๆ เลย ไม่ทราบว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าครับ?”
คำถามของชายหนุ่มแปลกหน้าทำให้กรกนกต้องหยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนที่จะเดินสำรวจไปรอบๆ ตัวของเขา แล้วหญิงสาวก็ต้องอุทานออกมาเสียงดังจนลูกค้าคนอื่นต่างก็พากันหันมามองเธอกับเขาเป็นจุดเดียว
“นายหูแหว่ง นายคือ...นายคือชัชวาล เพื่อนสมัยม.ปลายใช่มั้ย?”
ด้วยความเขินอายที่กรกนกออกอาการตื่นเต้นจนลืมนึกไปว่าตนเองอยู่ในร้านท่ามกลางลูกค้ามากมาย ทำให้ร่างสูงใหญ่ต้องดึงเธอไปยังหลังร้าน
ฟินิกซ์มองซ้ายมองขวาสักครู่ ก็เดินตามสองคนนั้นไปแม้จะรู้ว่าเสียมารยาทก็ตาม เพราะเขาก็ไม่อยากเป็นเป้าสายตาของพวกผู้หญิงที่มองเขาแปลกๆ ที่สำคัญดูท่าทางไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“นี่คุณ ตอนนี้เราไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะครับ แล้วคุณก็เลิกเรียกผมว่า นายหูแหว่งได้แล้ว ผมอายเขานะครับ” ชัชวาลรีบเบรกเจ้าของร้านกาแฟคนสวยทันทีที่อยู่ด้วยกันเพียงสองคนข้างหลังร้าน
“เอ่อ ก้อยขอโทษนะคุณชัช คือว่าก้อยลืมตัวไปหน่อย แหะๆ” คนที่มีความผิดติดตัวยิ้มแหยๆ อย่างสำนึกผิด แต่ชัชวาลก็ไม่ได้คิดติดใจอะไร
เมื่อมีโอกาสพิศมองคนตรงหน้านานๆ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี ทำให้มหาเศรษฐีหนุ่มเมืองเหนือถึงกับยอมรับกับใจตนเองว่า เพื่อนสาวของเขาคนนี้สวยขึ้นมากจนเขาเองก็แทบจะจำไม่ได้
ชัชวาลไม่คิดเลยว่า ยายผู้หญิงตัวแสบที่ชอบล้อเขาเวลาอกหักตอนสมัยยังเป็นวัยรุ่นตอนปลาย หนำซ้ำเธอยังผอมเก้งก้างเป็นกุ้งแห้งเยอรมัน แต่พอโตเป็นสาวเต็มตัวเขาคาดไม่ถึงเลยว่ากรกนกจะสวยงามผุดผาดได้ขนาดนี้
“นี่! ยูสองคนไม่คิดที่จะอธิบายเรื่องของพวกยูให้ไอฟังบ้างเหรอ หรือว่าไอกลายเป็นส่วนเกินไปแล้ว”
เมื่อเดินไปหลังร้านฟินิกซ์รีบสอดขึ้นมากลางปล้องทันทีเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกับหญิงสาวที่ยืนจี๋จ๋ากันตรงหน้าเขาไม่คิดที่จะสนใจเขาเลยสักนิด ในขณะที่เขาเดินเข้ามา ทำให้ทั้งชัชวาลและกรกนกต้องหันมายิ้มให้เขาเก้อๆ เขินๆ และออกอาการขำๆ ผู้ชายตัวโตที่ทำท่าแสนงอน ขี้น้อยใจเหมือนเด็กประถมไม่มีผิด
หนึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากที่ตกลงกันได้ว่าจะพาฟินิกซ์ไปเที่ยวที่ไหนต่อ ทั้งสามคนก็มาถึงเขื่อนอุบลรัตน์สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่น่าเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น โดยมีนายสมชายคนขับรถเจ้าเก่าของฟินิกซ์เป็นสารถีนำเที่ยวที่เชี่ยวชาญเส้นทางมากที่สุด
เขื่อนที่นี่กว้างใหญ่มาก น้ำก็ใสสะอาด บรรยากาศก็เย็นสบาย ลมเย็นๆ พัดผ่านตลอด สองหนุ่มหนึ่งสาวพากันมานั่งตรงโขดหินซึ่งเป็นมุมหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว แต่สามารถมองออกไปยังท้องน้ำที่กว้างใหญ่สวยงามนั้นได้
เพราะอกหักจากณัฐกานต์มา ชัชวาลจึงตัดสินใจมาเที่ยวทางภาคอีสาน ประจวบกับที่ฟินิกซ์โทรไปหาเขาพอดีว่าเขากลับมาอยู่ที่เมืองไทยแล้ว และก็มาอยู่กับพ่อที่ขอนแก่นตอนนี้ด้วย ชายหนุ่มจึงไม่ลังเลใจที่จะมาเที่ยวที่นี่ตามคำบัญชาของเพื่อนรัก และเพื่อต้องการมาพักใจจากความรักที่ไม่สมหวังด้วย
“แล้วแกจะอยู่ที่นี่นานหรือเปล่าฟินิกซ์?” ชัชวาลถาม
“ก็จนกว่าจะเบื่อ” นั่นคือคำตอบง่ายๆ กระชับและได้ใจความที่สุด
“คุณฟินิกซ์ น่าจะอยู่เมืองไทยนานๆ นะคะ” กรกนกชวนเพื่อนใหม่คุยบ้าง
“อาจจะอยู่นานได้นะครับ ถ้าเจอคนที่ถูกใจ” คำตอบของชายหนุ่มทำให้คนฟังต้องอมยิ้ม
“แล้วคุณฟินิกซ์ชอบผู้หญิงไทยหรือเปล่าล่ะคะ?”
หญิงสาวถามต่อ มองหน้าหนุ่มลูกครึ่งนิ่งอย่างพิจารณา ดูๆ ไปเขาก็หล่อมากเหมือนกันนะ หน้าตาแบบเขาคงเป็นพระเอกหนังน้ำเน่าได้สบายๆ เลยล่ะ
“ชอบมากครับ ผู้หญิงไทยสวย มีเสน่ห์ แต่มือหนักไปหน่อย”
กรกนกหัวเราะร่วนเบาๆ “คุณฟินิกซ์นี่ตลกจังเลยนะคะ แล้วคุณไปเจอผู้หญิงคนไหนทำร้ายมาเหรอคะ?” กรกนกดวงตาเป็นประกายทำท่าอยากรู้
“อีกไม่นานพวกคุณก็จะได้เห็นครับ และเย็นนี้เรามีนัดเดทกันด้วย ผมชักจะทนรอไม่ไหวแล้วสิครับ”
ดวงตาชวนฝันมองออกไปยังท้องน้ำที่กว้างใหญ่ของเขื่อน ภาพของม่านไหมยังคงแจ่มชัดในหัวใจของเขา รอยยิ้มเล็กปรากฏบนเรียวปากบางเฉียบ เมื่อนึกว่าจะได้เจอยาหยีมือหนักของเขาอีกครั้งในเย็นนี้
“ท่าทางเป็นเอามากนะแก ระวังเถอะจะถูกสาวไทยหักอกเอา” ชัชวาลล้อเพื่อนรักอย่างนึกขัน
“เหมือนยูใช่มั้ย ไอ้เพื่อนรัก ฮ่าๆๆ” ฟินิกซ์ได้ทีหัวเราะเยาะชัชวาลเสียงดังจนกรกนกต้องหันมาถามเรื่องจริงกับคนที่ถูกกล่าวหา
“จริงเหรอคะที่ว่าคุณอกหักมา คะคุณชัช?” ร่างบางเอียงคอถามคนที่กำลังทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกเพื่อนรักตอกกลับ
“เอ่อ ก็ไม่ถึงกับอกหักหนักมากเท่าไหร่หรอกครับ ผมเริ่มทำใจได้แล้วล่ะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนะครับ คนหล่อๆ อย่างผมถึงได้ผิดหวังเรื่องของผู้หญิงทุกครั้ง ตั้งแต่เป็นหนุ่มมา” ร่างหนาถอนหายใจยาวออกมาอย่างอัดอั้น
“อาจจะเป็นเพราะว่า คุณชัชมักจะชอบคนที่เขามีเจ้าของแล้วมั้งคะ คุณถึงได้อกหัก ทำไมคุณขัชถึงไม่ลองมองหาคนที่เขาโสดจริงๆ บ้างล่ะคะ คุณชัชอาจจะสมหวังก็ได้นะ” กรกนกออกความเห็น
ชัชวาลไม่รู้ตัวหรอกว่ากรกนกแอบชอบเขามาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย และหญิงสาวเองก็ไม่กล้าที่จะบอกเขา เพราะเธอมักจะถูกชัชวาลล้อว่าเป็นยายกุ้งแห้งเยอรมันอยู่เป็นประจำ
“ว่าแต่ก้อย ตอนนี้มีแฟนหรือยังล่ะ?” ชัชวาลหันมาถามผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มด้วยสายตาชนิดหนึ่งที่กรกนกก็ไม่อาจคาดเดาได้
“กุ้งแห้งเยอรมันอย่างก้อย จะมีหนุ่มคนไหนมาสนใจล่ะคะ”
คำตอบตรงๆ ของหญิงสาว ทำให้ชัชวาลหัวเราะเสียงดังแล้วนึกย้อนไปถึงวัยเด็ก ที่เขาและเธอยังเรียนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายที่เชียงใหม่ จากนั้นกรกนกก็ย้ายมาอยู่ที่ขอนแก่นตามบิดาของเธอ
“นี่ก้อยยังจำได้อีกเหรอ ไม่น่าเชื่อนะ ว่าวันเวลาจะพาให้เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง”
ชัชวาลหันมาสบตากับคนข้างๆ ด้วยรอยยิ้มแสนหวาน และเขาก็ได้รับยิ้มหวานตอบกลับมาเช่นกัน พร้อมกับแก้มนวลสองข้างของหญิงสาวที่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นเพราะความเขินอายของเจ้าตัว
“อ๋อ ไอนึกออกแล้ว ที่คนไทยเขาพูดว่า บุพเพอาละวาดใช่มั้ยเพื่อน?” ฟินิกซ์หันมาพูดสำนวนไทยแบบผิดๆ ถูกๆ จนหนุ่มสาวทั้งคู่ต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน พลอยทำให้หนุ่มลูกครึ่งหัวเราะตามไปด้วย
