บทที่ 1 ตอนที่ 3
"อืม...อาบน้ำรอผัวเหรอจ๊ะ...หอมเชียว น่ารักจริงๆ"
"อุ๊ย! คุณพอสปล่อยนะคะ มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" ร่างเล็กในชุดคลุมสีขาวที่เพิ่งก้าวออกมาจากห้องน้ำสะดุ้งโหยง จิตใจที่เลื่อนลอยกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อถูกโอบกอดและจูบหอมจากคนร่างใหญ่จากทางด้านหลัง
"มายืนรอตั้งนานแล้ว อาบน้ำนานจัง ขัดถูอะไรนักหนาเหรอ หืม...แต่หอมดีนะ สะอาดดี ฉันชอบ"
"ปล่อยก่อนค่ะ เจ้าขาจะแต่งตัว วันนี้เหนื่อยมาก" เธอสะบัดตัว พยายามแกะมือหนาใหญ่แข็งแรงที่รวบร่างแน่นออก แต่เปล่าประโยชน์ กลับถูกเขายกอุ้มพาไปยังเตียงนอนอย่างง่ายดาย
"คุณพอส!"
"เรียกอะไรนักหนาเนี่ย...กว่าจะมาได้เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย" ชายหนุ่มบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดรำคาญอย่างไม่ปิดบัง
"ถ้าเหนื่อยก็พักที่บ้านสิคะ ไม่ต้องมาก็ได้ เจ้าขาไม่หนีไปไหนหรอกค่ะ"
จันทิมันต์ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ไม่แสดงความไม่พอใจหรือโกรธเคืองให้เห็นเหมือนเคย เรียกรอยยิ้มเล็กๆ อย่างพึงพอใจจากคนอุ้ม ที่เขามา...ก็เพราะอยู่กับเธอแล้วสบายใจอย่างนี้แหละ จันทิมันต์เป็นหญิงสาวคนเดียวที่ไม่เคยเรียกร้อง ร้องขอ หรือสร้างความลำบากใจใดๆ ให้เขา เธออยู่ในที่ที่เขาให้อยู่ ยอมรับในสิ่งที่เขาให้ รับฟังทุกปัญหา และไม่เคยปริปากบ่นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม บางครั้งเหมือนจะเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่การมีผู้หญิงแนบกายไม่เคยขาดเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา ดังนั้น ความละอายจึงถูกฝังลึกจนแทบไม่สำนึกอะไรได้อยู่แล้ว
"แน่ใจนะว่าอยู่ได้ ขนาดมานอนเป็นเพื่อนเกือบทุกคืน ก็ยังฝันร้ายไม่หยุดไม่หย่อน คนเขาหวังดียังไม่สำนึกอีกนะ" ชายหนุ่มแสยะยิ้มหยอกเอิน อารมณ์ขุ่นใจเมื่อครู่วูบหายเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น นั่นเป็นปกติของคนผีเข้าผีออกอย่างเขาอยู่แล้ว
"เอ่อ...หายมาบ่อยๆ แบบนี้ เดี๋ยวที่บ้านจะเป็นห่วงนะคะ" เธอหลบสายตาคมปลาบยามเจรจาด้วย ไม่อยากให้เขาเห็นความปวดร้าวในแววตาอันหม่นหมองยามเอ่ยถึงเรื่องนั้น และพยายามหลีกเลี่ยงจะกล่าวถึงผู้หญิงอีกคนที่เป็นหนึ่งเหนือใคร
ร่างบางถูกวางอย่างถนอมบนเตียงกว้างขาวสะอาด ก่อนใบหน้าคมกร้านจะโน้มลงมาฝากฝังริมฝีปากไว้บนพวงแก้มหอมกรุ่นชวนหลงใหล
"ไม่ใช่ธุระของเธอ เจ้าขา...ฉันรู้ว่าต้องทำอะไร"
"ขอโทษค่ะ เจ้าขาไม่ได้ตั้งใจ..." การทำให้เขาโกรธคือสิ่งที่เธอต้องหลีกเลี่ยงและขลาดกลัว แม้เขาจะไม่เคยเอาเรื่องข้อตกลงมาข่มขู่ตั้งแต่เธอยอมตามใจเขา แต่ส่วนลึกก้นบึ้งของหัวใจมันยังขยาดหวาดหวั่นกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยจางหาย ทุกอย่างยังหลอกหลอนทุกครั้งที่หลับตา ไม่เคยลืมเลือนทุกครั้งที่หายใจเข้าออก
"กินอะไรหรือยัง หิวไหม...ออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกดีกว่า"
เปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว...
"มีของสดในตู้เย็น คุณอยากทานอะไรคะ เดี๋ยวเจ้าขาจะทำให้" การออกไปสู่สังคมข้างนอกถือเป็นความเสี่ยงที่หญิงสาวไม่อยากเผชิญ อาจมีสาวๆ ในสังกัดของเขาพยายามเปิดตัวอย่างภาคภูมิใจในความสัมพันธ์ลับๆ กับผู้ชายที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างเช่นเขา แต่ไม่ใช่เธอแน่นอน เพราะแค่นี้ก็น่าสมเพชเกินพอแล้ว
"ถ้าอยากกินอย่างอื่น แบบ...สดๆ แล้วไม่ต้องเปลืองแรงทำอะไรจะยอมให้กินไหม หืม..." ถามพร้อมหอมแก้มขาวฟอดใหญ่อีกครั้ง...
ไม่น่าเชื่อ ว่าพวกผู้ชายยามมีเล็กมีน้อย มีผู้หญิงอื่นนอกจากภรรยาจะทำอะไรโดยไม่คิดละอายใจกันเลย อนาถนัก กลับเป็นเธอที่รู้สึกเช่นนั้นแต่ไม่อาจหลุดพ้นไปจากวงจรบัดสีนี้ได้
"เจ้าขาอึดอัด...เหนื่อยมากด้วย ขอแต่งตัวก่อนนะคะ เรื่องมื้อค่ำเราค่อยคุยกันอีกทีดีกว่า เอ่อ...คืนนี้คุณจะค้างที่นี่หรือเปล่า?..."
"ไม่น่าถาม" คำตอบทุ้มลึกและก้องกังวานทั้งที่ชายหนุ่มกระซิบเพียงแผ่วเบา ส่วนลึกเหมือนจะพึงใจและในขณะเดียวกันก็อึดอัดตะขิดตะขวง เพราะเขาเป็นคนมีเจ้าของ หาได้ตัวเปล่าเล่าเปลือยไม่ หากยินดีปรีดา ไม่รู้สึกรู้สากับฐานะที่ถูกยัดเยียด เธอก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายอย่างสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง
"คุณน่าจะ เอ่อ...กลับไปนอนที่บ้านบ้างนะ เจ้าขาไม่อยากเป็นตัวปัญหาให้คุณ"
"นั่นไม่ใช่เรื่องของเธอ...ทำไมไม่รู้จักจำ..." ใบหน้าคมคายชะงักยั้ง ไม่ซุกไซ้ต่อ ดวงตาฉายแววดุดันนิ่งขึงเมื่อถูกขัดใจ จนอีกฝ่ายต้องกลืนน้ำลายลงคอแห้งผาก
"เจ้าขาแค่...เป็นห่วงคุณค่ะ"
"ฮึ...ห่วงตัวเองเถอะ" เขาผละห่างลุกนั่งและหันหลังให้ร่างระหงทันที หญิงสาวตั้งสติ รีบพยุงตัวลุกตามและเข้าไปช่วยถอดเน็กไทสีเข้มเมื่อเห็นว่าเขากำลังงุ่นง่านดึงทึ้งมันออกจากปกเสื้อ ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธการทำหน้าที่ของเธอ ยอมรับว่าตัวเองหงุดหงิดไร้สาระเกินไป อาจเป็นเพราะปัญหาหลายอย่างที่รุมเร้ารอการแก้ไข รวมไปถึงเรื่องบางเรื่องที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ เป็นความลับ เป็นอันตราย และเต็มไปด้วยความมืดมิดดำทมิฬ...
"ถ้าอย่างนั้นก็อาบน้ำก่อนนะคะ มาเหนื่อยๆ เดี๋ยวเจ้าขาจะทำกับข้าวรอ...คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม"
"ไม่ละ...ขออะไรเบาๆ ก็พอ เตรียมเครื่องดื่มให้ด้วยนะ ตั้งโต๊ะที่ระเบียงก็ได้ คืนนี้ท่าจะลมเย็นดี"
"ค่ะ..." จันทิมันต์รับปากเสียงแผ่วขณะที่ยังช่วยเขาจัดการกับเสื้อผ้า เธอถอดเสื้อสูทตัวนอกออกหลังจากปลดเน็กไทเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มดึงชายเสื้อออกจากกางเกง เธอจึงปล่อยให้เขาจัดการปลดกระดุมเอง ร่างเล็กร่นลงมานั่งบนพื้นห้องและค่อยๆ บรรจงถอดถุงเท้าให้ ทุกการกระทำถูกมองอย่างพึงพอใจจากเจ้าของร่างใหญ่ จวบจนกระทั่งหญิงสาวลุกเดินไปหยิบผ้าขนหนูในตู้มาวางให้และผละห่างหายลับเข้าไปในห้องน้ำ เหมราชถึงได้สติว่าเขามองเพลินจนลืมตัวชั่วขณะหนึ่งไปแล้ว
"เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย..." ความสับสนทำเอาหนุ่มใหญ่ขมวดคิ้วด้วยสงสัยในความรู้สึกตัวเองขึ้นมาครามครัน มันเป็นความชอบ ความหลง...สงสาร หรือมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่าที่เขามีให้กับจันทิมันต์ ผ่านผู้หญิงมานักต่อนัก แม้แต่ทุกวันนี้บรรดาสาวๆ ในฮาเร็มก็ยังเวียนว่ายอยู่ในวงโคจรของชีวิตไม่ได้ขาด เพียงแต่ห่างเหิน ลาจากกันไปบ้างตามสภาพ เนื่องจากเขากำลังเห่อของใหม่ นั่นแหละที่มันน่าแปลก เขาแทบไม่เหลือเวลาให้กับคนอื่นๆ เลยตั้งแต่มีเธอเข้ามา ซึ่งเป็นเรื่องที่ปลาไหลไม้เลื้อยไม่เคยเป็นมาก่อน นั่นเพราะ...ยังไม่อยากหยุดชีวิตเจ้าสำราญไว้เพียงเท่านี้ เขาเพิ่งจะสามสิบต้นๆ แม้จะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่หากปล่อยความสุขให้ลอยผ่านหน้าไปโดยไม่ไขว่คว้าก็เท่ากับโง่เต็มที
"เจ้าขาเตรียมน้ำอุ่นกับของใช้ให้แล้วนะคะ รีบอาบเถอะค่ะ" เสียงหวานทว่าหม่นหมองไม่สดใสสมวัยแรกผลิสะพรั่งทำให้เหมราชคืนสติหันมองและส่งยิ้มให้ เขารีบลุกจัดการกับเสื้อผ้าที่เหลือจนเปล่าเปลือยและเดินอาดเข้าไปหาสาวน้อย จันทิมันต์ผินหน้าหนี ทำท่าจะเลี่ยงไปทางอื่นเพราะลางสังหรณ์มันส่งสัญญาณบางอย่างให้รู้ว่าควรไปจากตรงนี้เสีย แต่ก็ยังช้าไป
"อุ๊ย! ปล่อยค่ะเจ้าขาจะไปทำกับข้าว..." ร่างงามระหงในชุดคลุมสีขาวที่เพิ่งชำระร่างกายเสร็จหมาดๆ ถูกล้อมรวบเอามาไว้ในอ้อมอกใหญ่แข็งแกร่งอย่างไม่อาจขัดขืนเอาตัวรอด
"ถ้าไม่อยากออกไปข้างนอกก็โทร.สั่งโรงแรมเอาก็ได้ ไม่เห็นต้องวุ่นวาย มาอาบน้ำให้ฉันดีกว่า"
"แต่..."
"เรื่องชอบขัดใจเนี่ย...มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของเราเลยนะ"
ผู้อยู่ใต้อำนาจจำต้องเงียบ เก็บความรู้สึกอยากเป็นอิสระอยากทำอะไรได้ดั่งใจคิดบ้างเอาไว้เช่นเดิม ก้มหน้ารับชะตากรรมด้วยความขมขื่น และทำใจ...ยอมรับว่ามันคือความจริง เธอไม่อาจหนีพ้นกรงสวาทนี้ไปได้หากเขาไม่ยินยอมปล่อยมือ
