
บทย่อ
เธอรักและเทิดทูนเขามาตั้งแต่จำความได้ และแปรเปลี่ยนไปตามการเติบโต ต่างจากเขาที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็ก ความรู้สึกเลยไม่เคยมากไปกว่าหลาน แม้ว่าความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม
ตอนที่1 ความรักไม่เหลือ
ปัง!!!
“เฮือก!!!” เด็กสาวในวัยเจ็ดขวบสะดุ้งผุดลุกขึ้นจากที่นอนพร้อมกับเหงื่อที่ซึมออกมาทั่วใบหน้า ฝันร้ายที่มันเหมือนเรื่องจริงจนทำให้เธอกลัวไม่น้อย กลัวจนเนื้อตัวสั่นเทาไปหมด กลัวจนเธอแทบไม่สามารถนอนคนเดียวได้เลย
“ฝันร้ายเหรอ” เสียงงัวเงียของชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าที่นอนข้างกายบนเตียงเดียวกันดังขึ้นเมื่อรู้สึกถึงเด็กสาวข้างกาย
“ค่ะ” เสียงแผ่วเบาติดสะอื้นตอบกลับไป
“ก็แค่ความฝัน ไม่เป็นไรแล้วนะ” เสียงอบอุ่นปลอบเธอขึ้นก่อนจะกระชับกอดเด็กสาวอย่างที่เคยทำเพื่อกล่อมให้เธอหลับและลืมเรื่องความฝันไปอีกครั้ง พร้อมกับความหวังในใจที่ขออย่าให้ความทรงจำเลือนลางในวัยเยาว์นั้นกลับเข้าสู่ห้วงความทรงจำของเธอได้
เด็กสาวกระชับกอดร่างแกร่งข้างกายของตัวเองแน่นอย่างที่เคยทำ ร่างกายและบุคคลที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความปลอดภัยมาตลอดและก็อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป
กระทั่ง...
“รออาเขาอยู่เหรอ” เสียงของหญิงวัยกลางคนถามเด็กสาวในวัยย่างสิบขวบขึ้นอย่างที่รู้ดี เด็กสาวที่เอาแต่เงียบหลังจากลูกชายของเธอไม่ค่อยได้กลับบ้านเหมือนวันวาน
“ค่ะ คุณแม่รู้ไหมว่าทำไมคุณอาเขาไม่กลับบ้าน” เสียงแห่งความเศร้าของสาวน้อยถามผู้ใหญ่ตรงหน้าขึ้นด้วยความอยากรู้ เพราะคำตอบที่เธอได้จากชายหนุ่มมีเพียงประโยคเดียวคือเขาไม่ว่าง กลับไม่ได้
“แม่จะบอกอะไรให้นะ อาเขาโตแล้ว เขามีงานต้องทำ มีเพื่อนที่ต้องพบเจอ แล้วที่สำคัญ อาเขามีคนรักที่ต้องให้เวลา เราจะให้อาเขาอยู่กับเราตลอดไปไม่ได้รู้ไหม” คำบอกเล่าของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นบอกเด็กสาวที่เธอนับเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่ง เด็กสาวที่ลูกชายให้ความสำคัญมาโดยตลอด
แต่ความสำคัญก็ต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยเช่นกัน
“แล้วอาเขาไม่รักหนูแล้วเหรอคะ” เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ใหญ่ตรงหน้ามันก็ทำให้เด็กสาวน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ถามออกมาอย่างเสียใจและเศร้าใจไม่น้อย
“รักสิ แต่มันเป็นความรักคนละแบบกัน เดี๋ยวหนูโตขึ้นหนูจะเข้าใจกว่านี้นะ” หญิงวัยกลางคนคนเดิมสอนสั่งเด็กสาวออกไปเท่าที่จะทำได้ สอนให้เด็กสาวได้เข้าใจถึงธรรมชาติของการเป็นผู้ใหญ่ที่จะเข้าใจได้ในตอนที่เติบโตกว่านี้
ตอนที่เด็กสาวจะเข้าใจคำว่ารักที่แตกต่างกันออกไป...
เด็กสาวในวัยสิบแปด เด็กสาวที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์วัยที่ได้เรียนรู้เรื่องเพศ วัยที่ได้เข้าใจถึงความรักที่แตกต่างกันออกไปแม้จะเป็นคำว่ารักเหมือนกัน แต่ความรู้สึกและการแสดงออกกลับต่างกัน เด็กสาวที่ได้เรียนรู้แล้วว่าความรักที่เธอมีต่อทุกคนนั้นแตกต่างกัน และแต่ละคนนั้นเป็นความรักแบบไหน
“อาผา...” เสียงเรียกแห่งความตกใจจนไม่อยากเชื่อกับภาพที่เห็นตรงหน้าดังขึ้น
สองเดือนที่เธอไม่เห็นเขากลับบ้านไปเลยแม้แต่วันเดียวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สองเดือนที่แม้แต่โทรศัพท์หรือข้อความเขาก็ไม่ส่งหาเธอเลย สุดท้ายวันนี้เธอก็ได้เจอเขาอีกครั้ง เจอพร้อมกับสภาพที่เธอไม่คิดว่ามันจะหนักหนาได้ขนาดนี้
“ปิดเทอมแล้วใช่ไหม” เสียงของหญิงวัยกลางคนถามเธอขึ้น
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับอย่างที่เป็น
“งั้นก็ดี ช่วงนี้เราไปอยู่เป็นเพื่อนอาเขาหน่อยนะ” แล้วหญิงวัยกลางคนก็บอกจุดประสงค์ออกมา
“เกิดอะไรขึ้นกับอาผาคะ” น้ำเสียงแห่งความร้อนรนดังขึ้นทันทีเมื่อได้ยินชื่อของคนที่เธอห่วงใยที่สุด
“อาเขาพึ่งเลิกกับผู้หญิงคนนั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น...”
“อาผา...” ชัญ หรือ ชัญญา เข้าไปรั้งแขนชายหนุ่มที่กำลังยกแก้วน้ำสีอำพันไว้ทันที แต่สภาพเขาตอนนี้ยังจะดื่มมันอีกเหรอ ทันทีที่เธอเปิดประตูห้องเข้ามาก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งไปทั่วห้องแล้ว ไหนจะกลิ่นเหม็นอับและกลิ่นควันบุหรี่ที่ตีวนกันไปอีก
พรึ่บ! แต่แล้วแขนแกร่งนั้นก็สะบัดมือตัวเองออกจากมือของเธออย่างไม่เบาไม่แรงและไม่ใส่ใจเลยสักนิด สะบัดออกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนพร้อมกับยกแก้วขึ้นกระดกอีกครั้งรวดเดียว
ความน้อยใจและห่วงใยกัดกินใจหญิงสาวในทันที ดวงตารื้นไปด้วยน้ำตาอย่างรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
“อาผาอย่าเป็นแบบนี้เลยนะคะ” เสียงแห่งความตัดพ้อขอร้องดังขึ้นบอกเขาทั้งน้ำตาดึงขวดเหล้าออกจากมือของเขาที่กำลังจะยกรินใส่แก้ว
แต่น่าสงสารที่เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์จะอ่อนไหวกับน้ำตาของเธอ
“อย่ามายุ่งได้ไหม!” เสียงเข้มตะคอกขึ้นก่อนจะผลักหญิงสาวออกห่างตัวเองอย่างไม่สนใจ
ชัญญาได้แต่ยืนมองเขาทั้งน้ำตาที่ร่วงล่นลงมาอย่างเจ็บปวดและตกใจ ความเศร้าเสียใจกัดกินลึกลงไปในใจของเธอจนยากจะรับได้จึงถามเขาออกไป
“ความรักที่อาผามีให้หนูมาตลอด มันไม่เหลือแล้วอย่างนั้นเหรอคะ”
