บทย่อ
สวรรค์มอบโอกาสครั้งที่สองให้เขาในร่างของ ‘เยว่ เฟยหลง’ บุตรชายผู้อ่อนแอ แต่กลับพ่วงด้วยพันธะวิวาห์กับประมุขพรรคอันดับหนึ่ง เขาผู้ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จากชาติก่อนมาพลิกโฉมโลกแห่งเวทมนตร์ จะขอลิขิตชะตาชีวิตใหม่นี้ด้วยมือตนเอง และสั่งสอนให้สวรรค์ได้รู้ว่า...ต่อให้เป็นมังกรหลับใหล...ก็ถึงวันต้องตื่นขึ้นมาผงาดฟ้า!
บทที่ 1
ความเจ็บปวดราวกับถูกทัณฑ์ทรมานแล่นปราดจากปลายประสาทสู่ห้วงสำนึก หมิงหลินรู้สึกราวกับร่างของตนกำลังปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จากภายใน ความรู้สึกเหมือนทุกอณูเซลล์กำลังกรีดร้องโหยหวนอย่างพร้อมเพรียง เปลือกตาหนักอึ้งจนมิอาจฝืนลืมขึ้นได้
สัมผัสแรกที่รับรู้ไม่ใช่ความนุ่มสบายของเตียงในห้องพัก แต่เป็นความเย็นเฉียบของแผ่นไม้เนื้อดีที่เสียดแทงแผ่นหลัง มันคือไม้จันทน์...เขามั่นใจจากกลิ่นหอมสะอาดที่ปะปนมากับกลิ่นกำยานจางๆ ที่ลอยอวลอยู่รอบกายก็ช่างแปลกแยก...แทนที่กลิ่นโอโซนและสารเคมีที่เขาคุ้นชินในห้องทดลองมาตลอดชีวิต
"คุณชาย...ฮือ...คุณชายขอรับ ได้โปรดฟื้นขึ้นมาเถิด...บ่าวผิดไปแล้ว..."
เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นแผ่วเบาดังอยู่ไม่ไกล เสียงนั้นสั่นเครือและเปียกชื้น...สมจริงเกินกว่าจะเป็นเพียงแค่เสียงประกอบในความฝัน ปลุกสติที่เลือนรางของหมิงหลินให้กลับคืนมา เขารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ฝืนเปลือกตาให้เปิดออกช้าๆ
ภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตาพร่ามัว คือเพดานไม้สลักลวดลายเมฆาอันวิจิตรตระการตา หมิงหลินขมวดคิ้วแน่น พยายามกะพริบตาเพื่อปรับสายตาให้คุ้นชิน แสงสลัวจากโคมไฟกระดาษส่องให้เห็นภาพรอบกายชัดเจนขึ้น...เสาไม้ขัดมัน เตียงสี่เสาที่เขานอนอยู่มีม่านผ้าปักลวดลายงดงาม ทุกอย่างล้วนเป็นของโบราณที่ประเมินค่ามิได้ และดูผิดที่ผิดทางไปหมด ราวกับหลุดออกมาจากฉากละครย้อนยุคทุนสร้างสูง
แล้วสายตาของเขาก็หยุดลงที่ร่างของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่คุกเข่าอยู่ข้างเตียง เด็กหนุ่มผู้นั้นสวมอาภรณ์ผ้าไหมเนื้อดี เส้นผมสีดำขลับถูกรวบขึ้นด้วยกวานหยกขาว ใบหน้าขาวซีดเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา กำลังฟุบหน้าร้องไห้จนตัวสั่นเทา เสี่ยวอัน...คือชื่อที่ผุดขึ้นมาในห้วงคำนึงอันเลือนรางของเขา
‘ฝัน...’ หมิงหลินคิดในใจ ‘...คงเป็นผลจากการทำงานหนักเกินไปจนสมองสร้างภาพหลอนที่สมจริงถึงเพียงนี้’ เขาพยายามวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล แม้ร่างกายจะอ่อนแรงจนแทบขยับไม่ได้ ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือการตรวจงานวิจัยของนักศึกษาจนดึกดื่นในคืนฝนตกหนัก เขาคงจะเผลอหลับคาโต๊ะทำงานไปอีกตามเคย
"คุณ...เป็นใคร..." เขาพยายามเปล่งเสียงถาม แต่เสียงที่หลุดออกจากลำคอกลับแหบพร่าและอ่อนแรงจนแทบไม่ได้ยิน มันไม่ใช่โทนเสียงทุ้มต่ำของบุรุษวัยสามสิบห้าเช่นเขา แต่มันกลับเป็นเสียงของเด็กหนุ่มที่ยังไม่แตกพานดี...ใสทว่าไร้เรี่ยวแรง
ความรู้สึกผิดปกติแล่นวาบไปทั่วสรรพางค์กาย หมิงหลินพยายามยันกายลุกขึ้น แต่กลับพบว่าเรี่ยวแรงแทบไม่มีเหลือ เขาจึงทำได้เพียงยกมือขวาขึ้นมาอย่างยากลำบาก...และวินาทีนั้นเองที่โลกทั้งใบของเขาพลันหยุดหมุน
ฝ่ามือคู่นั้นเรียวงาม ขาวผ่องราวกับหยกเนื้อดี ไร้ตำหนิ...มือของเขา...มือของหมิงหลิน...มันควรจะหยาบกร้าน มีรอยแผลเป็นจางๆ จากแก้วบาด และมีคราบเคมีบางชนิดที่ฝังลึกจนล้างไม่ออก...ไม่ใช่ฝ่ามือที่งดงามราวกับงานศิลปะชิ้นเอกเช่นนี้ ปราศจากรอยแผลเป็นหรือคราบสารเคมีที่ฝังลึกจากการทำงานในห้องทดลองมานานนับสิบปี
นี่...ไม่ใช่มือของเขา!
ความตื่นตระหนกแล่นจับขั้วหัวใจ ก่อนที่ความเจ็บปวดระลอกใหม่จะถาโถมเข้าใส่ศีรษะอย่างรุนแรง พลัน...ความทรงจำที่ไม่ใช่ของตนเองก็ไหลบ่าเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์ เสียงหัวเราะเยาะเย้ย...สัมผัสอบอุ่นจากอ้อมกอดของผู้เป็นมารดา...รสขมปร่าของชาถ้วยสุดท้าย...ทุกอย่างถาโถมเข้ามาปะปนกับความทรงจำตลอดสามสิบห้าปีของเขาจนแทบจะฉีกทึ้งสติให้แหลกละเอียด
ภาพของเด็กหนุ่มนาม ‘เยว่ เฟยหลง’ บุตรชายผู้อ่อนแอและถูกดูแคลน...ความน้อยเนื้อต่ำใจจากการถูกพี่น้องต่างมารดารังแก...ความรักอันเปราะบางจากมารดา...และภาพสุดท้ายคือการจิบชาถ้วยหนึ่งในเรือนของตน ก่อนที่สติทั้งหมดจะดับวูบลง...
ความเจ็บปวดจากสองชีวิต สองความทรงจำ กำลังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว หมิงหลินหลับตาลงแน่น ข่มกลั้นเสียงร้องจากความทรมานที่แทบจะฉีกกระชากจิตวิญญาณ
เมื่อทุกอย่างสงบลง เขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทอดสายตามองเสี่ยวอันที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุดด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป...ไม่ใช่ความสับสน แต่เป็นความเข้าใจอันลึกซึ้ง
ร่างกายนี้...ชีวิตนี้...ไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป
‘เยว่ เฟยหลง...’
เขาทวนชื่อนั้นในใจแผ่วเบา
‘มังกรหลับใหล...ถึงเวลาตื่นแล้วสินะ...’ ดวงตาที่เคยสับสนกลับมาสงบนิ่งและเย็นชาดังเดิม ในเมื่อการทดลองในโลกเก่าได้จบสิ้นลงแล้ว เขาก็จะขอเริ่มการทดลองครั้งใหม่ในโลกใบนี้...ด้วยตัวแปรที่ไม่รู้จัก และผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดา ‘นับจากนี้ไป...นี่คือชื่อของข้า’

