บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

.

..

...

งานแต่งเล็ก ๆ ถูกจัดขึ้นตามความต้องการของอิงทัช เขาให้เหตุผลว่ากำลังศึกษาอยู่หากแต่งอย่างเอิกเกริกอาจจะส่งผลต่อการดำรงชีวิตในมหาวิทยาลัย และภารันย์เองก็สนับสนุนอีกเสียง ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งยินยอมและจัดพิธีขึ้นที่บ้านของอิงทัชหนึ่งเดือนหลังจากนั้น

พิธีการมีเพียงผูกข้อต่อแขนเท่านั้น แม้ว่าคู่บ่าวสาวจะมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ทว่าในวันนี้ทั้งสองกลับมีสีหน้ายิ้มแย้มเพื่อเอาใจผู้ใหญ่ในงาน

ชุดแต่งงานเป็นชุดไทยประยุกต์ดีไซน์เรียบโก้ที่อิงทัชเป็นฝ่ายเลือกด้วยตัวเอง โดยที่ภารันย์นั้นแทบจะไม่มีส่วนตัดสินใจ ซึ่งก็รู้ดีว่าเขาแค่ทำตามหน้าที่ให้มันจบ ๆ ไปก็เท่านั้น

“พ่อขอให้ลูกทั้งสองคนรักกันไปจนแก่เฒ่า หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน อิงอย่าดื้อกับพี่เขานะลูก ทำหน้าที่คู่ชีวิตให้ดีอย่าให้มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง” วันนี้ชาญวิทย์สวมชุดสูทเต็มยศ ตั้งใจซื้อมาเพื่องานแต่งลูกชายโดยเฉพาะ ยิ่งนานวันอาการยิ่งทรุดลงเรื่อย ๆ ทว่าเจ้าตัวยังคงฝืนตัวเองนั่งรถเข็นมารดน้ำสังข์ลูกชายให้ได้ โดยมีเพื่อนรักคอยเป็นคนเข็นให้

“ผมจะนำคำสั่งสอนของพ่อไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ผมมั่นใจว่าพ่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แล้วครับ” เขายิ้มให้พร้อมทั้งน้ำตาเมื่อเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขนี้ คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำให้บิดาได้เพื่อตอบแทนบุญคุณท่าน

“ลุงฝากน้องด้วยนะภาม น้องยังเด็กอาจจะทำอะไรไม่ถูกใจบ้าง ยังไงก็อย่าถือสาน้อง ให้อภัยน้องด้วยนะ”

“ครับคุณลุง ผมจะดูแลน้องอิงให้ดีที่สุด คุณลุงไม่ต้องห่วงนะครับ”

“ได้ยินอย่างนี้ลุงก็สบายใจแล้วล่ะ”

แม้ร่างกายจะไม่ไหวเต็มทนแล้ว แต่ชาญวิทย์ยังคงพยายามควบคุมมือที่ถือสังข์รดน้ำต่อไปให้จบ ก่อนที่รณกฤตจะเป็นฝ่ายหยิบมันจากมือเพื่อนไปวางไว้ที่พานวางดังเดิม

ลำดับถัดไปก็คือรินอร วันนี้เธอยิ้มร่าแทบจะทุกวินาที เมื่อได้ลูกสะใภ้ตรงตามความปรารถนาทุกประการ และคิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้จะมาเป็นคู่ครองที่หนุนนำให้ชีวิตลูกชายดีขึ้นอย่างแน่นอน

“ต่อไปนี้อิงทัชคือลูกชายของแม่แล้วนะ ขอให้ลูกทั้งสองคนรักกันจนถึงไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร แม่ฝากดูแลตาภามด้วยนะ ค่อย ๆ ปรับจูนเข้าหากัน อีกไม่นานแม่เชื่อว่าลูกทั้งสองจะต้องรักกันมากแน่ ๆ”

“ขอบคุณครับเอ่อ...คุณแม่ ผมจะเป็นภรรยาและสะใภ้ที่ดี ให้คุณแม่ภูมิใจครับ” เขายิ้มแม้ในใจอยากจะตะโกนบอกว่าภารันย์ต่างหากที่เป็นฝ่ายปฏิเสธความหวังดีจากเขา และนั่นก็ช่วยไม่ได้ เขาจะพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

“ดูแลและรักน้องให้มาก ๆ นะลูก อิงทัชคือคนที่เหมาะกับลูกที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะยังไงแม่ก็มีแค่สะใภ้คนนี้คนเดียวเข้าใจไหม”

“ครับแม่” ภารันย์ตอบสั้น ๆ จากนั้นเหลือบมองคู่สมรสด้วยหางตา อิงทัชรู้ว่าเจ้าบ่าวกำลังเบื่อหน่ายกับพิธีการนี้มากแค่ไหน ภารันย์คนเดียวซะที่ไหนที่ต้องทนเขาเองก็อึดอัดใจไม่น้อย ยิ่งคืนนี้จะต้องเข้าห้องหอ ยังคิดภาพไม่ออกเลย ว่าจะอยู่ในห้องสองต่อสองกันได้อย่างไร

ก่อนพิธีรดน้ำสังข์จะเสร็จสิ้นลง ภารันย์ก็หันไปกระซิบข้างหูเจ้าสาวเบา ๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่ไร้ซึ่งรอยยิ้ม

“ยิ้มบ้างก็ได้ เดี๋ยวคนอื่นจะมองว่าพี่เป็นเจ้าบ่าวที่ไม่ได้เรื่อง ทำให้เจ้าสาวยิ้มไม่ได้”

“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับพี่สักหน่อย ผมอยากยิ้มก็จะยิ้มเองครับ ไม่จำเป็นต้องมีใครบอก” เขากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วเบนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าผู้ชายที่เห็นแก่ตัวอย่างนี้ให้เปลืองลูกตา

พิธีการดำเนินไปเรื่อย ๆ จนเสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์แบบ แขกที่มาร่วมงานซึ่งมีเพียงแค่ญาติสนิทไม่กี่คน ต่างก็ทยอยเดินทางกลับจนหมด คงเหลือเพียงเจ้าบ่าวเท่านั้นที่คืนนี้จะต้องค้างคืนในวันเข้าหอ ก่อนที่พรุ่งนี้จะกลับไปตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาล

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel