2
“มานี่...มาคุยกันดี ๆ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นคว้าแขนเรียวออกแรงดึงเพียงนิดเดียวก็เหวี่ยงร่างบางลงไปบนเตียงนอนอย่างง่ายดายส่วนคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวดิ้นขลุกขลักทุลักทุเล
“จะเรียกเท่าไหร่ก็ว่ามา ฉันไม่มีเวลามาเล่นสนุกกับเธอทั้งคืนหรอกนะ” ชายหนุ่มใช้ร่างหนาหนักของตัวเองกักหล่อนเอาไว้ใต้ร่างเฉย ๆ ไม่ได้พยายามจะลวนลามเพื่อจะได้คุยกันให้รู้เรื่องยังไงคืนนี้เขาต้องได้ปลดปล่อยกับผู้หญิงคนนี้ให้ได้
“ฉันไม่ได้ขายตัวจริง ๆ นะคะ” อันนาอ้อนวอนเสียงสั่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาจริงถึงกับน้ำตาคลอ ประเมินแล้วหมดทางสู้ตัวเขาใหญ่โตราวกับยักษ์ปักหลั่น แค่นอนทับเฉย ๆ ก็จะแบนเป็นกล้วยทับอยู่แล้ว
“ไม่ขายแล้วมาที่นี่ทำไม” มันใช่เวลามานอนซักไซ้อยู่ไหมวะ.....ชายหนุ่มแปลกใจตัวเองเหมือนกันปกติเขาไม่ได้อยากรู้เรื่องใครอยู่แล้ว แค่งานที่รับผิดชอบก็หัวจะระเบิดอยู่แล้ว
“พี่แจงบอกให้ฉันเดินตามคนของคุณมาเพื่อจะคุยกันเรื่องงานพรีเซนเตอร์ค่ะ......” อันนาบอกตามตรง
“ใครคือพี่แจง”
“พี่แจงเป็นญาติห่าง ๆ ของฉันค่ะ เขาชักชวนให้มาทำงานเป็นครั้งแรก แกบอกต้องการพริตตี้รถหรูแต่งตัวไม่โป๊ ฉันจึงตกลงทำงานนี้ ดีกว่าปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่า ๆ ระหว่างรองานที่ส่งใบสมัครไปแล้วหลายแห่ง พอใกล้เลิกงานพี่แจงก็มากระซิบบอกว่ามีคนอยากชวนไปเป็นพรีเซนเตอร์”
“แล้วคุณก็เชื่อเขาง่าย ๆ อายุสิบขวบหรือไง”
“สำหรับคนที่ไม่มีทางเลือกมากนักมีโอกาสก็อยากจะคว้าเอาไว้ก่อน เขาให้รอเดี๋ยวทางบริษัทจะส่งคนมารับไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้ไปได้ แต่ฉันไม่อยากเชื่อว่าพี่แจงจะทำกันได้ลงคอ คงต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ ค่ะ บางทีลูกน้องของคุณอาจจะรับมาผิดคนก็ได้นะคะ” อันนายังไม่อยากปักใจเชื่อว่าคนกันเองจะทำกันได้ลงคอ
“อืม...ปั้นเรื่องได้ดี”
“ฉันพูดจริง ๆ นะคะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ....” ทั้งน้ำเสียงและแววตาบ่งบอกว่าหล่อนกำลังยุ่งยากใจอย่างที่สุด
“เห็นทีจะไม่ได้ บางทีเธออาจจะเป็นคนของฝ่ายตรงข้าม เพราะฉะนั้นถ้าฉันยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เธอต้องอยู่ที่นี่” ออสตินบอกเสียงเรียบ
“โอ๊ยยย...อะไรกันเนี่ยฉันอยากกลับบ้านได้โปรด” ทั้งไม้แข็งไม้อ่อนลูกอ้อนก็ถูกงัดมาใช้จนหมดยังไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
“เอาบัตรประชาชนมา”
“เอาไปทำไมอ่ะ”
“มีสิทธิ์ต่อรอง?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามริมฝีปากเหยียดออกอย่างคนที่มีแต้มต่อทุกประตู
“คุณปล่อยฉันก่อนสิ” อันนาหน้าง้ำหล่อนมาเจอกับคนประเภทไหนกันแน่วะเนี่ย
“ได้...แต่ห้ามตุกติกไม่อย่างนั้นเธอจะถูกโยนให้พวกข้างนอกนั่นรุมทึ้งทันที.....” ออสตินกลิ้งลงจากร่างบางแต่ก็ไม่วายข่มขู่ราวกับสะกดให้หล่อนหวาดกลัวทั้งตัวทั้งวิญญาณ
หญิงสาวเดินกระฟัดกระเฟียดไปหยิบบัตรประชาชนมาส่งให้เขา อยากจะเอาไปเช็คอะไรก็รีบ ๆ เหอะจะได้กลับบ้านเสียทีเพราะไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้วแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง.......หล่อนเห็นเขาเดินถือบัตรไปส่งให้ลูกน้องข้างนอกห้องอีกทีแล้วก็กลับเข้ามาโดยไม่รอฟังผลด้วยซ้ำ
“ไปอาบน้ำสิ” ชายหนุ่มเดินกลับมาบอกก่อนที่ตัวเองจะทิ้งตัวลงนอนอย่างสบายอารมณ์ราวกับอยู่กับคนคุ้นเคย....ฮึ...อีตานี่คงจะชินกับผู้หญิงแปลกหน้าสินะถึงได้ทำตัวตามสบายไม่รู้สึกเคอะเขิน ใครก็ได้เปลี่ยน ๆ กันมา...แหวะ !......อันนาแอบเบ้ปากมองบน
“เอ่อ.......ไม่ดีกว่าค่ะ.....อีกเดี๋ยวฉันก็จะได้กลับแล้วไม่ใช่เหรอคะ” แม้จะขุ่นเคืองแต่ก็พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“ใครบอกเธอล่ะ”
ชายหนุ่มถามด้วยท่าทีสบาย ๆ ในขณะที่สายตาจับจ้องอยู่ที่สมาร์ทโฟนในมือเพราะลูกน้องทยอยส่งข้อมูลเข้ามาให้....แต่มีบางสิ่งสะดุดตาถึงกับต้องเลื่อนกลับมาดูซ้ำก่อนจะยิ้มร้ายออกมา พาให้คนที่มองอยู่ใจคอไม่ค่อยดี.....
“หืม...ว่ายังไงล่ะอันนา ใครบอกเธอ”
“ไม่ต้องให้ใครบอกหรอกค่ะ ในเมื่อทุกอย่างเป็นความเข้าใจผิดและฉันก็แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการให้พวกคุณตรวจเช็คข้อมูลได้ตามสบายยังจะเอาอะไรอีก........หรือว่าคนระดับคุณเชื่อถือไม่ได้คะ” หล่อนมองเขาตาขวางเริ่มเก็บอาการไม่อยู่
“ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า....ผมชอบนะ ไหวพริบใช้ได้” ออสตินระเบิดหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ
“นี่คุณ...กรุณาเถอะค่ะปล่อยฉันไปเถอะนะ รับรองว่าฉันจะไม่เอาเรื่องวันนี้ไปพูดต่อให้คุณต้องเสื่อมเสีย...นะคะได้โปรด...พลีส...” อันนาทำตาปริบ ๆ หล่อนลงทุนขอร้องผู้ชายที่เพียบพร้อมขนาดนี้คงไม่ยินยอมทำตามคนอื่นเพราะคำขู่หรอกถ้าเป็นการขอร้องยังดูจะมีหวังซะกว่า…อันนารู้สึกขอบคุณสมองอันชาญฉลาดของตัวเอง
“ทำไมคุณไม่คิดว่ามันเป็นโอกาสบ้างล่ะที่ได้เจอกับผม.......ผมรวยนะคุณก็เห็น” ชายหนุ่มวางสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าราคามันคงจะแรงสุดแล้ว แล้วหันหน้ามาคุยกับหญิงสาวที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กลางห้อง
