23
“อะไรกัน ถ้าคุณไม่เลือกผมเหมาหมดจริง ๆ นะ แล้วคนในร้านก็จะจำเราได้ อาจจะเป็นที่กล่าวขานไปอีกนานเชียวล่ะ” ชายหนุ่มยกยิ้มดวงตาพราว ราวกับกำลังขบขันสุด ๆ
“ชิ !.....รู้ว่ารวย ไม่ต้องอวด” อันนาชี้นิ้วส่ง ๆ ไปที่ชุดอะไรสักอย่างเพราะหล่อนไม่ได้มอง อย่างน้อยก็ โป๊น้อยกว่าชุดที่อยู่ตรงหน้านี่แน่นอนก่อนจะสะบัดหน้าคอแทบหักเดินออกไปรอหน้าร้าน
หญิงสาวยืนรอไม่นาน ก็เห็นสามีเดินยิ้มหน้าบานพร้อมถุงในมือทั้งสองข้าง
“อันเลือกแค่ชุดเดียวนี่คะ”
“อืมก็ใช่ แต่ผมชอบแบบอื่นด้วยนี่ ก็เลยซื้อเพิ่มมา ขี้เกียจรอให้ทางร้านส่งไปให้ถือไปเองดีกว่า ที่เหลือค่อยให้เขาส่งไป”
“ห๊ะ...ก็ไหนคุณบอกว่าจะไม่เหมาไงคะ ถ้าอันเลือกอ่ะ” หญิงสาวมองคนเจ้าเล่ห์ตาคว่ำ
“ใครเหมา ไม่มี๊...”
“ตกลงว่าเรื่องตื่นเต้นมีแค่นี้ใช่ไหมคะ” อันนาถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง......อุตส่าห์แอบหวังว่าเขาจะพาไปเจอกับอะไรที่ตื่นตาตื่นใจที่ไหนได้ในสมองของอีตาบอสมีแต่เรื่องใต้สะดือ หล่อนเดาได้เลยว่าอีกเดี๋ยวเขาต้องชวนกลับบ้าน แล้วก็ให้หล่อนลองชุดบ้า ๆ พวกนี้แน่
“อื้อ.....ผมคิดไม่ออก…..ถนัดแต่เรื่องบนเตียง” ออสตินสารภาพออกมาเสียงอ่อย เขาอยากทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าหล่อนไม่ได้มีค่าแค่เรื่องเซ็กส์ ....แต่เขาคิดไม่ออกนี่นา ไอ้ไบรอันก็ไม่อยู่เสียด้วย
แค่เห็นหน้าจ๋อย ๆ อันนาก็ใจอ่อนยวบ ยิ่งกว่าเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ใด ๆ เสียอีกที่เห็นท่านประธานมาดเข้มถนัดแต่บริหารธุรกิจมูลค่ามหาศาล พยายามจะหาวิธีปลอบใจผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องราวเหล่านี้ในวงจรชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ
“อันไม่ได้เศร้าหรือน้อยใจเรื่องเก่า ๆ แล้วค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องปลอบใจอันก็ได้” เรื่องราวมันผ่านมานานแล้วมันไม่ได้เศร้าเหมือนแผลใหม่ ๆ มีแค่ร่องรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ที่ไม่เจ็บแต่เตือนให้จำเท่านั้นเอง
“อ้าว ! ก็ไหนว่ากลัวเป็นเศษขยะไร้ค่าไง”
“ก็ใช่ค่ะแต่ไม่เศร้าแล้ว อันไม่ได้กินความเศร้าเป็นอาหารนี่คะ” หญิงสาวฉีกยิ้มจนตาหยียืนยันว่าหล่อนไม่ได้เศร้าจริง ๆ
“โอเค....งั้นเราไปหาอาหารอร่อย ๆ นอกเมืองกันดีกว่าไหม” ชายหนุ่มเสนอไอเดีย เพราะนาน ๆ เขาจะนำซุปเปอร์คาร์คันนี้ออกมาขับสักที ก็เลยอยากจะลองเครื่องยนต์ยาว ๆ เสียหน่อย
“จะรออะไรล่ะคะ”
ขณะที่ซุปเปอร์คาร์คันโก้แล่นเอื่อย ๆ ออกมาตามถนนนอกเมือง ทั้งคู่ก็นั่งคุยกันมาอย่างสนุกสนาน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องในวัยเด็กที่คนเป็นสามีสรรหามาเล่าด้วยความครื้นเครง
“คุณรู้ไหม ตอนเด็ก ๆ ผมร้องห้างแทบแตก จนแด๊ดต้องหิ้วออกจากห้างแทบไม่ทันเพราะความขายหน้า” เขาเล่าเหมือนเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ
“ทำไมล่ะคะ...อย่างบอสเนี่ยนะ อยากได้อะไรแล้วคุณแด๊ดไม่ซื้อให้”
“มีสิ ไม่งั้นจะแหกปากร้องดิ้นอยู่กลางห้างอย่างนั้นเหรอ”
“แล้วอะไรล่ะคะ มันแพงมากเลยเหรอ”
“เด็กผู้หญิง” พูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม
“คะ?”
“ผมร้องอยากได้เด็กผู้หญิงไทย......เธอเหมือนตุ๊กตาน่ารักมากมายเลยอยากจะเอากลับไปบ้านด้วยให้ได้” ชายหนุ่มเล่าไปห็หัวเราะไปไม่คิดว่าตัวเองจะส่อแววแต่เด็ก
“บอส !...ฮ่า ฮ่า ฮ่า...คุณนี่หื่นแต่เด็กเลยนะเนี่ย...” อันนาหัวเราะขำจนน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล
“บ้าฉิบ !....” จู่ ๆ ชายหนุ่มก็สบถเสียงดัง พร้อมกับเหยียบคันเร่งจนแทบมิดไมล์
“เกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวหันมาถามท่าทางเลิ่กลั่ก ทีแรกหล่อนคิดว่าเขาต้องแกล้งทำให้ตื่นเต้นแน่ ๆ เลยแต่พอเห็นหน้าตาเคร่งเครียดกับมือที่จับพวงมาลัย เกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน
“ผมไม่รู้....แต่มีคนตามเรามา ไม่ต้องกลัวนะผมไม่ยอมให้คุณเป็นอะไรแน่นอน” ออสตินตอบหน้าเครียด เขาไม่แน่ใจว่าวัตถุสีดำที่บังเอิญเห็นจากกระจกมองหลังใช่ปืนหรือเปล่าแต่ ไอ้รถคันนั้นมันตามเขามาแน่ ๆ
“ไม่ต้องห่วงค่ะ อันเชื่อคุณ” หญิงสาวตอบรับให้เขาคลายกังวล ในขณะที่อีกฝ่ายเร่งเครื่องหนีจนได้จังหวะไฟแดงจนสามารถสลัดรถคันหลังหลุดไปได้อย่างเฉียดฉิว จากนั้นเขาจึงเลี้ยวเข้าซอยทันที......
อันนาเหลียวหน้าเหลียวหลังหวังช่วยสอดส่องว่ามีรถน่าสงสัยยังตามมาอีกหรือไม่ ทำให้แสงไฟกระพริบของสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดสะดุดตา จนต้องเอื้อมไปคว้ามันขึ้นมาจากพื้นรถด้านหลัง
“มีสายเข้า......รับไหมคะ” อันนาหันหน้าจอให้กับเจ้าของเครื่องดูชัด ๆ...ออสตินคว้ามารับสายทันที
[ว่าไงกามิน] ท่านประธานหนุ่มหน้าเครียด ก่อนจะค่อย ๆ พรูลมออกจากปาก ท่าทางผ่อนคลายลงมากก่อนจะกดตัดสายไป
“มีอะไรหรือคะ หรือว่าคุณกามินตามมาช่วยเรา” อันนาถามอย่างตื่นเต้น พลอยรู้สึกผ่อนคลายลงตามเขาไปด้วย
“เปล่า...ก็พวกมันนั่นแหละที่ตามเรามา เกือบต้องยิงกันเองแล้วไหมล่ะ” ออสตินบ่นด้วยน้ำเสียงแสดงความหงุดหงิดเต็มที่ เขาอุตส่าห์กำชับเอาไว้แล้วเชียวว่าห้ามตาม ไม่รู้ว่าพวกมันเป็นลูกน้องของเขาหรือของแด๊ดกันแน่ ถึงได้ออกติดตาม ตามคำสั่งของบิดา
“ก็ดีแล้วไงคะ อย่าโกรธพวกพี่เขาเลยค่ะ อย่างน้อยก็เพื่อสวัสดิภาพของคุณ...ว่าแต่คุณมีศัตรูมากขนาดนี้เลยหรือคะ”
“อืม.......กลัวหรือเปล่า”ชายหนุ่มยอมรับตามตรงหลังจากผู้เป็น บิดาวางมือจากธุรกิจสีเทาทั้งหมดอย่างเด็ดขาดหลังจากค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนแปลงมาหลายปีเพื่อมาดามเอมิกา ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ที่เมืองไทยและไม่อยากให้ลูกชายคนเดียวต้องเกี่ยวข้องกับความเป็นมาเฟียของตระกูลเก่า แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีบางพวกที่ต้องการอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ต้องการกำจัดฝ่ายอำนาจเก่าให้สิ้นเสี้ยนหนามจะได้ไม่มีวันได้หวนคืนวงการอีก ซึ่งแด๊ดและเขากำลังร่วมมือกันแก้ปัญหาในเรื่องนี้และระหว่างนี้จำเป็นต้องรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
“ต้องทำยังไงคะ ถึงจะมีศัตรูได้มากขนาดนี้” อันนาครุ่นคิด ไม่กล้าซักถามละลาบละล้วงมากเกินไปถึงแม้หล่อนจะได้ชื่อว่าเป็นเมียตีทะเบียน แต่ความรู้สึกของหล่อนยังรู้สึกเกรงเขาเหมือนเขาเป็นบอสอย่างที่หล่อนชอบเรียกนั่นแหละ....... หรือบางทีบอสอาจจะมีเบื้องหลังที่ไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ ซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจสีเทา เอ๊ะ !...ถ้าเขาเป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดล่ะ.....จะทำยังไงยัยอันนาเอ้ย...ไม่ควรเลย...หญิงสาวคิดพลางส่ายหน้าอย่างหมดอะไรตายอยาก....
