บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 คำเชิญของคนสวย

"ปั๊ง!"

ทันทีที่อวี้หยูเฉิน พูดจบ หลินฮ่าวก็หมุนตัวและเตะ ดูเหมือนจะเตะธรรมดา แต่กลับเล็งเข้าที่หน้าอกของชายคนนั้นอย่างจัง แรงมหาศาลนั้นทำให้ชายคนนั้นกระเด็นออกไปและร่วงลงพื้นอย่างหนัก นานกว่าจะยืนขึ้นมาได้

“ไอ้เด็กเลว ไปตายซะ!” ชายร่างผอมบางก็หยิบมีดสั้นออกมาและแทงไปที่หัวใจของหลินฮ่าวด้วยสีหน้าที่น่ากลัว

"หึ!"

หลินฮ่าวสูดลมหายใจลึกๆแล้วคว้าข้อมือของชายร่างผอมเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็ออกแรงเบาๆ เสียกระดูกหักก็ดังขึ้น

“อ๊าก!” ชายร่างผอมร้องด้วยความเจ็บปวด

ปั๊ง!

หลินฮ่าวขมวดคิ้วและฟันลงด้วยมีด เสียงกรีดร้องของชายร่างผอมหยุดลงอย่างกะทันหัน ร่างของเขาล้มลงกับพื้น และไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

หลินฮ่าว สะบัดมือและเดินเข้าไปหาอวี้หยูเฉินซึ่งนอนอยู่บนพื้น จากนั้นเอื้อมมือออกไปดึงเธอขึ้นมาและถามอย่างเป็นห่วงว่า "คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้” อวี้หยูเฉินลุกขึ้นยืนและดึงมือของตนกลับมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อย

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเป็นการแก้เขินและกล่าวว่า "เดี๋ยวก่อน ฉันจะแจ้งตำรวจก่อน"

เมื่อได้ยินอวี้หยูเฉิน บอกว่าจะแจ้งความ หลินฮ่าวขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร

เวลานี้ โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นเช่นกัน

“อาเหยา...” หลินฮ่าวก้าวออกไปและกดรับสาย

“เสี่ยวฮ่าว ประเดี๋ยวเสี่ยวหย่าจะกลับมา นายและเธอไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ประเดี๋ยวนายรีบกลับบ้านก่อนเถอะดีไหม?” เสียงของชายวัยกลางคนดังมาจากฝั่งตรงข้าม

“เพิ่งจะสามทุ่มเอง ยังไม่ดึกเลย” หลินฮ่าวยังอยากรับงานอีกสักสองชั่วโมง เพื่อหาเงินเพิ่ม

“เฮ้อ นายไม่ต้องทำงานต่อแล้ว สองปีที่ผ่านมานายทั้งออกเงินและแรงงานเพื่อที่จะรักษาฉันและสนับสนุนให้เสี่ยวหย่าได้เรียนหนังสือ มักจะไม่ได้พักผ่อนเท่าไหร่ คราวนี้เสี่ยวหย่ากลับมาทั้งที นายต้องพักผ่อนและมาเจอกับเสี่ยวหย่าสักหน่อย เอาล่ะ ตามนี้นะ นายคงยังไม่ได้กินอาหารเย็น ประเดี๋ยวฉันจะไปทำเกี๊ยวให้นาย” ชายวัยกลางคนวางสายหลังจากที่พูดจบ ไม่ให้โอกาสหลินฮ่าว ในการปฏิเสธเลย

หลินฮ่าวอดไม่ได้ที่จะยิ้มแหย ๆ แม้ว่าเขากับอาเหยาจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่อาเหยาก็ปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นลูกชายของตนเอง เพียงแต่คุณน้าของเขาจะไม่พอใจทุกครั้งที่เห็นว่าเขาอยู่ใกล้เสี่ยวหย่า ซึ่งทำให้หลินฮ่าวไม่อยากจะมีความสัมพันธ์กับเสี่ยวหย่าในบ้านของอาเหยามากเท่าไหร่ แต่ช่วยไม่ได้ อาเหยาอยากจะให้ทั้งสองคนคบกันอย่างมาก

“ตำรวจจะมาเร็ว ๆ นี้ ตอนนี้คุณคงไม่ยุ่งใช่หรือไม่?” อวี้หยูเฉินเดินไปข้างหลินฮ่าว

“ผมขอไปก่อนได้ไหม?” แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วไปจะไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาคือใคร แต่เขาไม่อยากเข้าใกล้ตำรวจมากเกินไป

อวี้หยูเฉินยิ้ม " คุณไม่อยากรู้เลยเหรอว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงอยากจะจู่โจมฉัน?”

“คราวนี้คุณโดนทำร้าย คราวหน้าคุณจ้างบอดี้การ์ดสักสองสามคน ก็น่าจะไม่มีเรื่องอะไร” หลินฮ่าวตอบไม่ตรงคำถาม

“ฉันมีบอดี้การ์ด แต่ฉันไม่ชอบถูกล้อมรอบไปด้วยคนมากมาย” อวี้หยูเฉิน ส่ายหัวแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ฉันคิดว่าทักษะการต่อสู้ของคุณดีมาก ไม่ทราบว่าคุณสนใจที่จะเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉันไหม?”

“ผมเป็นเหมือนคุณนั่นแหละ ผมชอบทำงานที่ง่ายๆสบายๆ สำหรับผมแล้ว การขับแท็กซี่นั้นดีมากแล้ว” หลินฮ่าวปฏิเสธอย่างสุภาพ

อวี้หยูเฉิน เริ่มสนใจในตัว หลินฮ่าวมากขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกว่าถ้าเปลี่ยนเป็นผู้ชายธรรมดา เวลานี้คงจะห่วงใยเธออย่างมาก และเสนอตนมาปกป้องเธอเอง แต่ชายที่อยู่ตรงหน้ากลับพยายามหลีกหนี และดูเหมือนจะไม่สนใจเธอคนนี้ที่เป็นคนสวยอย่างมากเลย

ผู้ชายคนนี้น่าสนใจจริงๆ!

ไม่ต้องการที่จะเป็นบอดี้การ์ดของฉันเหรอ?

ผู้ชายที่อวี้หยูเฉินถูกอยากได้มา ไม่มีทางหนีไปไหนได้

“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องเสียใจที่ต้องบอกคุณว่า หลังจากที่คุณกลับมาเพื่อช่วยฉันและจัดการพวกเขาสองคนแล้ว คุณก็อย่าคิดที่จะเป็นคนขับแท็กซี่อย่างสบายใจเลย ในเมื่อคนเหล่านี้ลงมือแล้ว เช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีทางปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน” อวี้หยูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เป็นไปตามคาด ทันทีที่เธอพูดแบบนี้ หลินฮ่าวก็ขมวดคิ้วและมองไปที่ อวี้หยูเฉิน

อวี้หยูเฉินยักไหล่แล้วพูดว่า “คุณเองก็ไม่ต้องโทษฉัน จะโทษก็โทษคนที่มาจัดการฉันแล้วกัน”

หลินฮ่าวนิ่งเงียบ ต้องยอมรับว่า อวี้หยูเฉินเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เธอใช้เพียงหนึ่งถึงสองประโยคก็ชี้ให้เห็นถึงจุดสำคัญของปัญหา แต่เรื่องนี้โทษคนอื่นไม่ได้จริงๆ เพราะเขาเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้เอง

อย่างไรก็ตาม หากว่าย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง เขาก็ยังคงเลือกที่จะช่วยอวี้หยูเฉิน เขาไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงที่สวยงามเช่นนี้ถูกคนร้ายย่ำยีอย่างแน่นอน

“ผมขอเวลาคิดเรื่องนี้สักหนึ่งวัน พรุ่งนี้ผมจะให้คำตอบคุณ” หลินฮ่าวกล่าว

“ได้ ฉันจะรอข่าวดีจากคุณ วันนี้ฉันไม่ได้นำโทรศัพท์มาด้วย คุณบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของฉันเอาไว้แล้วกัน หากคิดดีแล้วโทรมาหาฉันได้ทุกเมื่อ” อวี้หยูเฉินไม่ได้เร่งเขา แต่เธอยืนมือออกไปขอโทรศัพท์ของ หลินฮ่าวมา

หลินฮ่าวส่งโทรศัพท์ที่เขาซื้อมาในราคา 300 หยวนไปให้ อวี้หยูเฉินตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็รับโทรศัพท์มาและกดหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองและโทรออก ไม่นานโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

“หวังว่าคุณจะไม่ปล่อยให้ฉันรอนาน!” อวี้หยูเฉินเขียนชื่อตัวเองลงในโทรศัพท์ของหลินฮ่าวก่อนจะคืนโทรศัพท์ให้เขาและพูดด้วยรอยยิ้ม

“อืม!” หลินฮ่าวพยักหน้าและไม่พูดอะไร

ไม่นานหลังจากนั้น รถตำรวจสามคันก็ขับเข้ามาในชุมชน มาจับตัวชายสวมหน้ากากสองคนออกไป และขอให้ หลินฮ่าวและ อวี้หยูเฉิน ทำการบันทึกคดี

เมื่อเห็นว่ารถตำรวจปกป้อง อวี้หยูเฉินอยู่นอกบ้าน หลินฮ่าวก็ขับรถกลับไป

เมื่อมองดู หลินฮ่าวขับรถออกไป อวี้หยูเฉินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรออก "ไปตรวจสอบคนคนหนึ่งให้ฉัน...... "

ชื่อจริงของอาเหยาคือเหยาซื่อจง เขาเป็นช่างปูน เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อของเขา เมื่อตอนเขาอายุได้สิบห้าปี พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหยาซื่อจงซึ่งเดิมฐานะทางครอบครัวของเขาลำบากอยู่แล้วได้รับหลินฮ่าวมาเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งทำให้ภรรยาของเหยาซื่อจงไม่พอใจอย่างมาก พวกเขาทะเลาะกันบ่อยและทุบข้าวของเป็นประจำ หลินฮ่าวไม่อยากทำให้อาเหยา ลำบากใจ จึงทิ้งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของตัวเองในคืนหนึ่ง จากนั้นก็ออกจากเมืองปินเจียงไป ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา หลินฮ่าวได้ลิ้มรสความอบอุ่นและความหนาวเย็นของโลกใบนี้ และเขาได้ผ่านสงครามที่โหดร้ายในต่างประเทศมาแล้ว เขาเดินอยู่บนเส้นด้ายแห่งความตาย และในที่สุดก็ค่อยๆ เติบโตเป็นผู้มีอำนาจในวงการใต้ดิน

เมื่อสองปีที่แล้ว หลินฮ่าวผู้ซึ่งเดิมเป็นคนที่อารมณ์ร้ายไม่เชื่อฟังใคร ได้เปลี่ยนนิสัยไปอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ไปจากทีมทหารรับจ้างระดับตำนานที่ตนสร้างมากับมือ แล้วกลับมาที่หัวเซี่ย มาหาอาเหยา และมาเป็นคนขับแท็กซี่ธรรมดาคนหนึ่ง

รถแท็กซี่จอดอยู่ชั้นล่างของบ้านหลังในเมืองเก่าซินวานแห่งเมืองปินเจียง หลินฮ่าวยืนพิงรถ จุดบุหรี่ และจ้องมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอย่างเงียบ ๆ

ในความมืดนั้น ความเกลียดชัง ความคิดถึง และความเจ็บปวด ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา...

รูม่านตาทั้งสองของเขา แดงจางๆ!

"ฉันจะล้างแค้นนี้อย่างแน่นอน ล้างแค้นแน่นอน!"

ผ่านไปอยู่นานหลินฮ่าวก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ โยนก้นบุหรี่ลงบนพื้นแล้วหยิบให้ไฟดับ จากนั้นมองดูรถอาวดี้ a4 สีขาวที่อยู่ไม่ไกล แล้วจึงเดินขึ้นไปบนตึก

เขาอาศัยอยู่กับสองสามีภรรยาเหยาซื่อจง พวกเขาอาศัยอยู่ชั้นสาม เพราะตอนนี้เขามีรายได้จากการขับแท็กซี่เล็กน้อย ฉะนั้นน้าเหยาก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขาเหมือนเมื่อสิบปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้แสดงสีหน้าดีๆต่อเขาเลย

ประตูปิดอยู่ แต่ภายในห้องนั้นดูค่อนข้างมีชีวิตชีวา และได้ยินเสียงหัวเราะของน้าเหยา ดังมาเป็นครั้งคราว \

หลินฮ่าวเดินไปเคาะประตู

“หลินฮ่าวกลับมาแล้วแน่ๆเลย เสี่ยวหย่า ไปเปิดประตู” เสียงของอาเหยาดังมาจากห้อง

“โอ้ย เสี่ยวหย่าไปทำไม เธออยู่เป็นเพื่อนซ่งเย่ก็พอ เดี๋ยวฉันไปเอง” หญิงวัยกลางคนพูดอย่างไม่พอใจและเดินไปเปิดประตู

หลังจากเปิดประตู น้าเหยาเหลือบมองหลินฮ่าว แววตาของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ เธอหันกลับไปโดยไม่พูดอะไร

หลินฮ่าวเองก็ไม่ได้สนใจ เขาเดินตามหลังเข้าไป และปิดประตู

ปีนี้อาเหยาอายุยังไม่ถึง 50 ปี แต่เนื่องจากทำงานหนักมาหลายปี และขาหักจากอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขาดูแก่กว่าอายุอย่างมาก ดูเหมือนคนแก่อายุ 60 ปี เมื่อเขาเห็นหลินฮ่าว กลับมา เขายิ้มด้วยสีหน้าที่ขอโทษเล็กน้อย “เสี่ยวฮ่าว กลับมาแล้วเหรอ? คงจะหิวมากแล้ว รีบมากินเกี๊ยวเร็ว เพิ่มต้มเสร็จ เสี่ยวหย่า ไปเอาเกี๊ยวมาให้พี่เสี่ยวฮ่าวหน่อยเร็ว"

คนที่นั่งถัดจากอาเหยาเป็นหญิงสาวและชายหนุ่ม ชายหนุ่มดูอายุ 26ถึง27 ปี เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ดูสดใส มีนาฬิกาสีทองแวววาวอยู่ในข้อมือ เขาดูหล่อและมีบุคลิกที่ดี ทันทีที่หลินฮ่าว เข้ามา เขาก็มองไปที่เขา หลังจากที่มองดูสักพักแล้ว แววตาที่ดูถูกเหยียดหยามก็ปรากฏในดวงตาของเขา

ผู้หญิงคนนั้นสวมกางเกงยีนรัดรูป เสื้อเชิ้ตทรงโลว์คัทสีน้ำเงินเผยให้เห็นเนินอกที่ขาวราวหิมะ สรีระร่างกายของเธอดูสูงเพรียว เมื่อสวมเสื้อที่พอรัดตัวแล้วก็ยิ่งทำให้เห็นส่วนนูนเว้าของร่างหายอย่างชัดเจน คิวของนางที่โค้งสวย ฟันที่ขาวสวย ภายใต้จนตาที่สวยงามนั้นเผยความงามราวกับนางฟ้าของเธอออกมาทันที

เธอคือเหยาซือหย่า อายุน้อยกว่าหลินฮ่าว1 ปี ปีนี้เธออายุ 24 ปี เธอโตมากับหลินฮ่าว และทั้งสองสนิทกันอย่างมาก

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เสี่ยวหย่า เชื่อฟังเธอมาก

น้าเหยา พูดอย่างไม่พอใจว่า “เอาเกี๊ยวมให้อะไรกัน ให้หลินฮ่าว ไปเอามากินเองสิ เสี่ยวหย่า เทซอสให้ซ่งเย่บ้าง กินแบบนี้เกี๊ยวได้รสชาติยิ่งกว่า”

อาเหยาขมวดคิ้ว แต่เขากลับไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งยิ้มให้หลินฮ่าวด้วยความรู้สึกผิด

“โอ้... หนูรู้แล้วค่ะแม่ เสี่ยวหย่าไม่อยากทำเท่าไหร่ เธอมองหลินฮ่าวอย่างขอโทษ และไปเทซอสให้ซ่งเย่

หลินฮ่าวไม่ถือสาอะไร เขาหยิบถ้วยและตะเกียบไปหยิบเกี๊ยวเอง

หลินฮ่าวเคยได้ยินน้าเหยาพูดถึงซ่งเย่มาบ้าง เขาและเหยาซือหย่าเรียนที่มหาวิทยาลัยปินเจียงเหมือนกัน แต่ว่าเขาเป็นรุ่นพี่สองรุ่น เมื่อก่อนตอนอยู่มหาลัยเคยจีบเหยาซือหย่ามาก่อน แต่ไม่สำเร็จ แต่ตอนนี้เหยาซือหย่าเรียนจบแล้ว ไม่รู้เพราะอะไรเขาก็กลับมาตามจีบเหยาซือหย่าอีกครั้ง และมาถึงบ้านของเหยาซือหย่าด้วยซ้ำ

ซ่งเย่มองหลินฮ่าวด้วยความท้าทาย จากนั้นก็พูดอย่างเสียงดังว่า “เสี่ยวฮ่าว ใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าคุณทำงานเป็นคนขับแท็กซี่เหรอ วันนี้เป็นไงบ้าง? รับลูกค้ามาได้กี่คนแล้ว?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel