ตอนที่6 กลับมา
ตอนที่6 กลับมา
สองปีผ่านไป
บริษัท
“คุณธาราคะเพื่อนคุณพลอยใสที่แจ้งว่าจะมาเรียนรู้งาน ตอนนี้เธอนั่งรออยู่ด้านในแล้วนะคะ” ผู้ช่วยเลขาสาวบอกกับชายหนุ่มเมื่อธาราเดินมาหยุดหน้าประตูห้องในตอนเช้า
“ทำไมจัดโต๊ะให้เธอนั่งข้างใน ทำไมไม่ให้เธอเรียนรู้งานกับคุณ”
“คุณชาร์วีสั่งว่าให้คุณธาราเป็นคนสอนงานเธอค่ะ เลยจัดโต๊ะให้เธอในห้อง”
“ไอ้ชาร์ แม่งโยนภาระให้กูอีกแล้ว”
หลายวันก่อน
“พี่ธาราคะ มีเพื่อนพลอยที่พึ่งเรียนจบจากต่างประเทศอยากมาเรียนรู้งานที่บริษัทเรา พลอยฝากพี่ธาราช่วยสอนงานให้เธอหน่อยนะคะ”
ในห้อง
“มุกดา” คิ้วดกดำขมวดเข้าหากันอัตโนมัติเมื่อหญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้องนั้นเป็นคนที่เขาคาดไม่ถึง
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ชายหนุ่มที่อายุเยอะกว่าอย่างมีมารยาท
“โต๊ะทำงานของคุณอยู่ตรงนั้น อ่านเอกสารที่ผมเตรียมไว้ให้ที่วางอยู่บนโต๊ะถ้าไม่เข้าใจตรงไหนให้ถามคุณษา วันนี้ผมมีไปพบลูกค้าสำคัญ” ธาราพูดจบก็หยิบแฟ้มเอกสารและเปิดประตูห้องออกไปทันที ไม่มีการกล่าวทักทายทั้งที่ทั้งสองพึ่งกลับมาเจอกันครั้งแรกในรอบสองปี
“หึ..ยังเย็นชากับฉันเหมือนเดิมนะ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะเย็นชาแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่” เสียงหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าเรียวสวยฉายแววเด่นชัดว่ากำลังวางแผนอะไรสักอย่างภายในใจ
“คุณธาราให้เอาเอกสารมาเพิ่มให้ค่ะ และยังฝากบอกว่าให้อ่านให้จบวันนี้ด้วยค่ะ” แฟ้มเอกสารเกี่ยวกับการตลาดระหว่างประเทศที่พอจะเปิดเผยข้อมูลได้ถูกวางลงตรงหน้าหญิงสาว มุกดาถอนหายใจยาวพรืดเมื่อมองกองแฟ้มเอกสารตรงหน้าที่มีมากกว่าห้าแฟ้ม และแต่ละแฟ้มยังหนาเตอะอีกต่างหาก
“ขอบคุณค่ะ ไม่ทราบว่าวันนี้คุณธาราออกไปพบลูกค้าแถวไหนเหรอคะ”
“น่าจะนัดพบกันที่โรงแรมใกล้ ๆ นี่แหละค่ะ และมีนัดทานข้าวเที่ยงต่อด้วย กว่าจะเสร็จและกลับเข้ามาบริษัทอีกครั้งก็น่าจะช่วงบ่ายค่ะ คุณมุกดามีธุระอะไรกับคุณธาราหรือเปล่าคะ” เลขาสาวให้คำตอบ
“เปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ”
มุกดานั่งอ่านเอกสารอย่างละเอียดทุกตัวอักษรทุกบรรทัด และทำความเข้าใจหลักการทำตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ เผื่อจะเอาไปปรับใช้กับบริษัทของพ่อเธอได้บ้าง เพราะตอนนี้ผู้เป็นแม่เริ่มส่งสัญญาณเตือนมาบ่อยครั้งแล้วว่าบริษัทเริ่มมีปัญหา
มื้อเที่ยง
“ฉันออกไปทานข้าวข้างนอกนะคะ แล้วจะขอแวะทำธุระด้วยนิดหน่อยอาจจะเข้ามาช้า คุณษาจะเอาอะไรหรือเปล่าคะเดี๋ยวฉันซื้อมาฝาก” มุกดาเปิดประตูห้องออกไปหยุดที่โต๊ะเลขาหน้าห้องและเอ่ยถามด้วยถ้อยคำสุภาพ
“เอ่อ..ถ้าไม่เป็นการรบกวน ฉันขอฝากซื้อผ้าอนามัยหน่อยได้ไหมคะ พอดีฉันลืมหยิบติดกระเป๋ามาด้วย ยังมีงานที่ต้องเคลียร์เพราะช่วงบ่ายมีประชุมด่วนค่ะ”
“ได้ค่ะ ฉันไปก่อนนะคะ”
รถยนต์คันเล็กทะยานออกจากลานจอดรถของบริษัทเข้าสู่ถนนหลักใจกลางเมือง มุกดาขับรถด้วยความเร็วเพราะกลัวว่าจะไปไม่ทันมื้อเที่ยงที่เธอตั้งใจไว้ว่าจะต้องได้ทานอาหารร่วมโต๊ะกับชายหนุ่ม
ห้องอาหารโรงแรมชื่อดัง
ร่างบางในชุดเดรสสีดำเหนือเข่ารัดรูป ถือกระเป๋าใบเล็กคู่ใจ
แบรนด์โปรดสีเดียวกันกับชุด สวมรองเท้าส้นสูงสีดำ สาวเท้าเดินด้วยท่าทางสวยสง่าเข้าไปด้านในซึ่งเป็นห้องอาหารหรูของโรงแรม มุกดาไม่มัวเสียเวลากวาดสายตาหาว่าเป้าหมายของเธออยู่ที่ไหน ใช้เส้นสายที่เธอพอมีอยู่บ้างเดินตรงดิ่งเข้าไปถามพนักงานทันที
“สวัสดีค่ะ”
“อ้าว! สวัสดีค่ะคุณมุกดาไม่เจอนานเลยนะคะ สบายดีนะคะ” ผู้จัดการแผนกที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี รีบกล่าวทักทายหญิงสาวที่เคยเป็นลูกค้าVIPของที่นี่ทันที
“สบายดีค่ะ”
“วันนี้มาทานข้าวคนเดียวเหรอคะ หรือนัดเพื่อนไว้ ได้จองโต๊ะไว้ไหมคะ”
“นัดเพื่อนไว้ค่ะแต่ลืมถามว่าจองห้องไหนไว้ บังเอิญแบตเตอรี่โทรศัพท์หมดด้วยค่ะ ช่วยเช็กให้หน่อยได้ไหมคะว่าคนที่ชื่อธาราทานอาหารอยู่ห้องไหน”
“สักครู่นะคะ..คุณธาราจองห้องริมสุดฝั่งซ้ายมือไว้ค่ะ เชิญคุณมุกดาที่ห้องได้เลยค่ะอาหารกำลังนำไปเสิร์ฟพอดีค่ะ” ผู้จัดการสาวเดินนำหญิงสาวไปยังห้องที่ชายหนุ่มอยู่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก แอ๊ด….
“ขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีว่าตอนเที่ยงรถติดมากค่ะ” ทันทีที่ประตูห้องเปิดออกมุกดาก็ชิงพูดขึ้นก่อนที่คนในห้องจะมีโอกาสเอ่ยถาม
“ไม่เป็นไรครับ เชิญนั่งครับ นาน ๆ ทีจะมีสาวสวยมาร่วมโต๊ะทั้งที” มงคลคู่ค้ารายใหม่ของบริษัทHPที่พึ่งเซนต์สัญญากันไปหมาด ๆ กล่าวต้อนรับหญิงสาวด้วยความยินดี ทั้งที่ทั้งคู่ไม่รู้จักกันมาก่อน
“คุณมาได้ยังไง” เสียงเรียบหันไปถามหญิงสาวขณะที่กำลังหย่อนสะโพกลงนั่งเก้าอี้ตำแหน่งข้าง ๆ ชายหนุ่ม
“ขับรถมา” มุกดาตอบกลับพร้อมหันไปยิ้มให้มงคลที่กำลังจ้องเธออยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องนี้
“อย่ามากวนผมนะมุกดา”
“ฉันแค่มาทานข้าวค่ะ รีบทานเถอะค่ะคุณมีประชุมต่อช่วงบ่ายไม่ใช่เหรอคะ”
ทั้งสองนั่งทานข้าวกันอย่างเงียบ ๆ รู้สึกว่ามื้อนี้มุกดาจะเจริญอาหารเป็นพิเศษในรอบสองปี ไม่ใช่เพียงเป็นอาหารไทยมื้อแรกที่เธอได้ทานหลังจากกลับมาเมืองไทย แต่มันเป็นอาหารมื้อแรกที่เธอได้ทานกับชายหนุ่มที่เธอหลงรักและยังรู้สึกแบบนั้นมาจนถึงทุกวันนี้
“อาหารที่นี่ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคะ อาจจะอร่อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ คุณมงคลว่าไหมคะ” หลังจากที่วางแก้วน้ำในมือลงหลังดื่มเสร็จมุกดาก็หันไปถามมงคลที่เป็นเพียงเพื่อนสนทนาของเธอคนเดียวตอนนี้ เพราะตั้งแต่ที่เธอมานั่งอยู่ตรงนี้นอกจากคำถามสองประโยคนั้นธาราก็ไม่พูดกับเธออีกเลย
“อร่อยมากครับ ยิ่งวันนี้มีสาวสวยอย่างคุณมุกดามาร่วมโต๊ะด้วยอาหารยิ่งอร่อยเข้าไปอีก”
“ชมเกินไปแล้วค่ะ อย่างนี้ฉันก็เขินแย่สิคะ”
“ผมต้องขอตัวกลับก่อน ช่วงบ่ายผมมีประชุมด่วน” เสียงเรียบดังแทรกขึ้นขณะที่สองคนกำลังคุยกันอย่างเป็นมิตร
บนรถ
“ลงไปครับ” เสียงเรียบหันมาบอกหญิงสาวที่ตอนนี้ขึ้นไปนั่งบนรถยนต์คันหรูของบอดี้การ์ดหนุ่มตรงตำแหน่งข้างคนขับ
“ไหน ๆ เราก็จะกลับบริษัทเหมือนกันฉันขอติดรถกลับไปด้วยนะคะ พอดีรถฉันแบตหมดถ้าจะรอชาร์จไฟก็นานกว่าจะเต็ม ฉันกลัวกลับไปทำงานไม่ทันเดี๋ยวคนอื่นจะว่าฉันได้ว่ามาทำงานวันแรกก็เข้างานสายซะแล้ว” เสียงหวานชักเหตุผลร้อยแปดมาพูดกับบอดี้การ์ดหนุ่ม ธาราถอนหายใจอยู่สองสามครั้งก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดูเวลาที่ข้อมือปรากฏว่าใกล้ถึงเวลาที่เขานัดประชุมแล้ว ก่อนจะสตาร์ตรถและขับออกไปโดยมีมุกดานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ และเป็นผู้หญิงคนที่สองที่ได้นั่งบนรถคันโปรดของชายหนุ่ม
“คุณคะ ช่วยจอดร้านสะดวกซื้อข้างหน้านี้หน่อยได้ไหมคะ พอดีคุณษาฝากซื้อของน่ะค่ะ”
เอี๊ยด ๆ ๆ ๆ เสียงล้อรถครูดกับพื้นถนนเมื่อรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วพอประมาณหักพวงมาลัยเข้าจอดลานด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีรถจอดขวางอยู่สักคัน
ฝ่ามือเล็กแบมือออกและยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่ม พร้อมกับทำตาปริบ ๆ
“อะไร”
“ขอยืมตังค์หน่อยค่ะ พอดีฉันลืมหยิบกระเป๋าตังค์มาด้วย” (ข้อที่หนึ่งขอยืมเงินและยืมของเพื่อจะได้มีข้ออ้างในการไปเจอเขาอีก) มุกดาเริ่มทำตามข้อแรกที่ตำราเขียนไว้ทันทีที่มีโอกาส
“ไม่รอบคอบ” ธาราล้วงกระเป๋าตังค์ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะควักแบงก์สีเทาออกมาหนึ่งใบ วางลงบนมือของหญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวฉันคืนนะคะ”
ไม่นานมุกดาก็กลับขึ้นมาบนรถพร้อมกับถุงของสองใบ
“นี่ค่ะ ฉันซื้อมาฝาก” ลูกอมรสสตรอว์เบอร์รีถูกยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่ม
“ผมไม่ทานของพวกนี้ รัดเข็มขัดด้วยครับ” เสียงเรียบปฏิเสธทันควันพร้อมกับเหยียบคันเร่งถอยหลังหักพวงมาลัยเปลี่ยนเกียร์พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว
“เก็บไว้ทานตอนที่คุณเครียด ๆ นะคะ มันช่วยได้เยอะทีเดียว” มุกดายัดลูกอมเม็ดเล็กใส่กระเป๋าเสื้อสูทชายหนุ่ม โดยไม่สนใจสายตาดุที่เหล่มองเธอด้วยหางตา ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้สายตาเขาต้องจดจ่อกับการจราจรข้างหน้ามุกดาคงเจอคำด่าทางสายตาไปแล้ว
บริษัท
ทั้งสองกลับมาถึงบริษัทในช่วงบ่ายโมงครึ่งซึ่งเลยเวลาเข้างานช่วงบ่ายของพนักงานปกติทั่วไป มุกดารีบสาวเท้าวิ่งตามชายหนุ่มที่แทบจะกระโดดลงรถทันทีที่จอดสนิท ท่ามกลางสายตาของพนักงานที่ทำงานอยู่บริเวณนั้น ขายาวหุ่นนายแบบสาวเท้ายาวเดินตรงไปยังลิฟต์ที่จอดรออยู่โดยไม่สนใจว่าคนตัวเล็กจะเดินตามมาทันหรือไม่
ติ๊ง!
เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของตึกซึ่งเป็นชั้นสำหรับผู้บริหารระดับสูงและอีกโซนแบ่งเป็นห้องประชุมใหญ่ซึ่งจะใช้เป็นที่จะประชุมด่วนบ่ายวันนี้
“เอกสารเตรียมพร้อมแล้วค่ะ” เลขาสาวเอ่ยบอกทันทีที่ธาราเดินมาถึงบริเวณหน้าห้อง
“อีกสิบห้านาทีเริ่มประชุมครับ”
“นี่ค่ะของที่คุณษาฝากซื้อ ฉันขอตัวเข้าไปทำงานก่อนนะคะ” ถุงพลาสติกโลโก้ร้านสะดวกซื้อชื่อดังวางลงบนโต๊ะผู้ช่วยเลขาสาว ก่อนจะสาวเท้าเดินตามชายหนุ่มเข้าไปด้านในห้อง
“ทีหลังอย่าตามผมไปอีก อย่าทำตามอำเภอใจตัวเองจนเกินไป” เสียงเรียบพูดขึ้นทันทีที่อยู่ในห้องกันสองคน
“ฉันแค่ไปทานข้าวแล้วบังเอิญเจอคุณก็เท่านั้นค่ะ” มุกดาปฏิเสธเสียงแข็ง ขณะที่เดินไปหย่อนสะโพกกลมมนนั่งลงพะนักด้านข้างเก้าอี้ที่ชายหนุ่มนั่งอยู่
“อย่ามาทำตัวรุ่มร่ามมุกดา เตรียมตัวเข้าประชุมด้วยอีกห้านาที” ธาราดุกลับไปพร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารที่อุษาวางไว้ให้ขึ้นมาเปิดอ่าน
ก๊อก ~ก๊อก ~ก๊อก ~
“เอ่อ..ขออนุญาตครับ เอกสารพี่ลุคค์ให้เอามาให้ครับ” แทนไทบอดี้การ์ดรุ่นน้องเปิดประตูเข้ามาก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าทันทีเมื่อเห็นภาพมือขวาคนสนิทของเจ้านายอยู่ใกล้ผู้หญิงในระยะล่อแหลม
“วางไว้” แทนไทเดินถือแฟ้มเอกสารสีดำมาวางลงตรงโต๊ะของธาราและยืนอยู่ตรงนั้นไม่กลับออกไป
“พี่แทนมีธุระที่ไหนต่อหรือเปล่าคะ” มุกดาหันไปถามบอดี้การ์ดหนุ่มที่ค่อนข้างสนิทคุ้นชินกันเป็นอย่างดี
“ไม่มีครับ เสร็จจากนี่ก็มีแวะซื้อของให้นายหญิงนิดหน่อยครับ คุณมุกดามีอะไรหรือเปล่าคะ”
“จะวานพี่แทนไปเอารถที่โรงแรมWKให้หน่อยได้ไหมคะ นี่ค่ะกุญแจ” มุกดาส่งกุญแจรถคันโปรดที่หยิบออกจากกระเป๋าให้บอดี้การ์ดหนุ่ม ต่อหน้าต่อตาธารา
“ได้ครับ”
“ยัยเด็กเลี้ยงแกะ” เสียงเรียบบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อรู้ว่าโดนหญิงสาวหลอกเข้าให้แล้ว มิหนำซ้ำยังไม่เกรงกลัวหรือเกรงใจที่จะโดนเขาดุเมื่อเขาจับได้ว่าเธอโกหก
“ลูกพี่ว่าอะไรนะครับ อยากได้เนื้อแกะเหรอครับ เดี๋ยวผมซื้อไปให้นะครับ จะให้ป้าณีทำสเต๊กให้เลยไหมครับเย็นนี้” แทนไทที่กำลังหันหลังเดินกลับออกไปก็รีบหันกลับมาถามชายหนุ่มทันที
“ไม่ต้องเสือกเรื่องท้องกูว่าอยากกินอะไร กลับไปได้แล้ว”
“ส่วนคุณ ผมขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าทำเรื่องแบบนี้อีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน”
