บทที่ 5
คนใจร้ายกลับมาแล้ว
“มีอะไรกันน่ะ ผมก็ออกคำสั่งง่าย ๆ นะครับ ว่าผมขอขึ้นไปอาบน้ำเอนหลัง แล้วเดี๋ยวจะกลับมากินอาหารฝีมือของพี่อิ่มกับพี่อุ่น” เขาจ้องหน้าทั้งสองคน
“ค่ะ แต่ว่าตอนนี้ห้องของคุณปี คุณธรรมท่านให้คุณหนูฟางเธอพักแล้วค่ะ”
“ฮะ อะไรนะครับ ใคร... ใครคือคุณหนูฟาง” เขาทำสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
สองศรีพี่น้องถึงกับไปยืนรวมกัน ฝ่ามือประสานกันอยู่ที่หน้าขาของตัวเอง จ้องหน้าเจ้านายหนุ่มที่เพิ่งมีรอยยิ้มฉาบใบหน้าเมื่อกี้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีหน้าเข้ม ทั้งอิ่มและอุ่นได้แต่กลืนน้ำลาย
“ค่ะ คุณปีฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ห้องของคุณปี คุณธรรมท่านจัดให้คุณหนูฟางพักค่ะ”
“แต่นั่นมันห้องนอนของผมนะครับ ไม่มีใคร มีสิทธิ์ได้ไปใช้ห้องนั้น มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย คุณพ่อก็ยังเป็นคุณพ่อคนเดิม ที่เผด็จการเหมือนเดิมใช่ไหมครับ ชอบทำร้ายจิตใจของผมนัก” เขาหัวฟัดหัวเหวี่ยง เดินขึ้นบันไดบ้านไป
“เดี๋ยว ๆ ค่ะคุณปี คุณปีขา มันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” สองพี่น้องหันหน้ามาหากันโดยอัตโนมัติ ก่อนจะจับมือกัน แล้ววิ่งตามหลังขุนพลไปติด ๆ
“เดี๋ยว เดี๋ยวค่ะคุณปี คะ... คือ คือว่า...”
“พี่อิ่ม พี่อุ่นไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นครับ” เขาส่งเสียงมาบอกพร้อมกับสายตาดุ ทั้งอิ่มและอุ่นจึงได้แต่เงียบ
เมื่อไปถึงหน้าห้องของตัวเอง เขาก็กระชากประตูเปิดออกไปในทันที ในห้องของขุนพลตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกอย่างถูกจัดวางใหม่ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ ชุดเครื่องนอนต่าง ๆ ด้วย
เขาสีหน้าบึ้งตึง เดินไปถึงเตียงได้ ก็ใช้มือรื้อดึงเอาผ้าปูที่นอนและทุกอย่างออกมาจากเตียง รวมถึงตุ๊กตาพวกนั้นด้วย
ทันใดนั้น เขาก็หยิบรูปที่หัวเตียงขึ้นมาดู ขุนพลเห็นใบหน้าของสาวน้อยที่อยู่ในนั้น ตรงกับใบหน้าเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงบันไดบ้านเมื่อตะกี้นี้ เขาก็ขว้างรูปนั้นลงไปที่พื้นในทันที
เพล้ง... เสียงกระจกแตก และทุกอย่างก็กระจัดกระจาย
“ว้าย”
“คุณปี อย่าค่ะ”
อิ่มอุ่นส่งเสียงร้องห้าม และเสียงที่บอกถึงความตกใจ ทั้งคู่หน้าซีดลงไปแล้ว
แก้วที่แตกกระทบกระจัดกระจายเต็มพื้น เป็นจังหวะที่หนูฟาง ชะเลง และลุงขาบกำลังช่วยกันลำเลียงกระเป๋าขึ้นมาถึงที่หน้าห้องพอดี
“ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาใช้ห้องของผม ถึงคุณพ่อจะรักใครชอบใคร อยากจะยกเป็นลูก เป็นเมีย ก็ได้ทั้งนั้น อยากให้มาอยู่ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ห้องนี้ เพราะห้องนี้คือห้องของผม” น้ำเสียงที่ฟังดูโกรธอย่างชัดเจน
ภูมิใจถึงกับยืนตัวสั่น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย คุณปีที่หน้าตาสดใสเมื่อกี้ ตอนนี้เปลี่ยนหน้าเป็นยักษ์ พลางส่งเสียงเปล่งวาจาว่าร้ายออกมาอยู่ในตอนนี้
เมื่อขุนพลหันมามองหน้าของภูมิใจ เขาก็แสยะยิ้ม แล้วก้าวเดินเข้ามาหาอย่างฉับ ๆ
“อ้อ นี่เหรอ คุณหนูฟางของคุณพ่อ และก็พี่ ๆ หึ...”
ภูมิใจหน้าซีดเผือด ขยับตัวถอยหลังหนี เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้อีก เธอก็ถอยหนี เด็กสาวเห็นและรับรู้ด้วยสัญชาตญาณของเธอ ว่าเขาไม่ได้ญาติดีหรือคิดดีกับเธอ ขุนพลจ้องมองเธอเหมือนเธอจะเป็นเหยื่อสำหรับเขา
“เธอชื่ออะไร” เขาจ้องมองใบหน้าของเธอแบบไม่วางตา
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเกิดอาการสั่นกลัวไปหมด เวลาผ่านไปตั้งหกปี ขุนพลไม่คิดจะเปลี่ยนนิสัยบ้างหรือ เขายังแสดงอารมณ์ร้าย ๆ เวลาที่ไม่พอใจอะไรออกมาอีก
ภูมิใจไม่ตอบ เธอยังตกตะลึงกับสิ่งที่กำลังเจอ
“ฉันถามว่า เธอชื่ออะไร” เขาตะคอกใส่หน้าเธอ
ภูมิใจถึงกับสะดุ้ง หน้ายิ่งซีดลงไปอีก
“ชื่อภูมิใจค่ะ ชื่อเล่นชื่อฟาง” เอ่ยออกมาด้วยปากคอสั่น ๆ และสุ้มเสียงที่แสนเบา
“อ้อ... ฟาง หรือว่า คุณหนูฟางของทุกคนที่นี่เหรอ ฮา... พ่อฉันไปเก็บเธอมาจากที่ไหนล่ะ หื้อ... แม่สาวน้อย ดูท่าทางแล้ว พ่อฉันคงจะขุนเธอให้อ้วน แล้วหลังจากนั้น ก็คง... เห่อ ๆ อีกหน่อยเธอก็คงประเคนตัวเอง แล้วคลานขึ้นเตียงของพ่อฉันสินะ ฮ่า ๆ เหมือนกับใครนะ พี่อิ่ม พี่อุ่น ฮะ ชะเลง ลุงขาบ” เขากวาดสายตาไปยังทุกคน ที่ตอนนี้ยืนอึ้ง นิ่งงัน ไม่กล้าเอ่ยปาก
น้ำตาของสาวน้อยร่วงริน เธอไม่คิดว่า จะได้ยินคำร้าย ๆ ออกมาจากปากของผู้ชายคนนี้ เขาทั้งดูถูก และคำพูดจาของเขาที่พ่นออกมาช่างน่าขยะแขยงที่สุด
“เอ่อ คุณปีคะ มันไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คุณปีกำลังเข้าใจผิด”
“คุณปี...” ทั้งอิ่มทั้งอุ่นปรี่เข้ามาขวาง
ตอนนี้ใบหน้าของภูมิใจน้ำตาไหลอาบแก้ม
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอคิดยังไง หรือว่าคิดได้แค่นี้ ถึงตกลงใจมาเป็นเมียน้อยของพ่อฉัน มาให้พ่อฉันเลี้ยงต้อยอีกคน” เขายังกล่าวหาเธอออกมาอีก
“คุณปีคะ”
“คุณปี...” ทั้งพี่อุ่นและพี่อิ่มอุทานขึ้นมาพร้อมกันเพราะคำกล่าวหาที่รุนแรงเหลือเกิน
ขาบและชะเลงได้แต่มองหนูฟางอย่างสงสาร
ภูมิใจได้ยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้โฮ ก่อนจะวิ่งลงไปทางบันได
“คุณฟางคะ” พี่อิ่มวิ่งตามหลังหนูน้อยไปในทันที
ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
“โอ๊ะ...”
“ว้าย!” ทั้งอิ่มและอุ่นอุทานขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
ร่างของภูมิใจลอยละลิ่ว หล่นลงไปจากบันได เสียงดังตึงตัง ๆ ก่อนจะตกลงไปแน่นิ่งอยู่กับพื้น
ชะเลงกับลุงขาบหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ
ขุนพลเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน
อิ่มกับอุ่นรีบวิ่งลงจากบันไดตรงไปยังร่างที่ไร้สติของภูมิใจ
“คุณฟางเป็นยังไงบ้างคะ” อุ่นยกร่างของสาวน้อยขึ้นมาวางบนตัก ตรงหัวตอนนี้มีรอยแตกมีเลือดไหลอาบ
“ฮือ... ตายแล้วคุณหนูฟาง” อิ่มร่ำไห้ออกมา เพราะเลือดที่อาบไปทั้งหัว ชะเลงและขาบก็ลงมายืนมองร่างที่ไร้สติของภูมิใจอยู่แล้ว
