บรรณาการรักหัวใจซาตาน

68.0K · จบแล้ว
คุณธิดา
44
บท
5.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

พี่ปี ผู้ชายแสนร้าย นิสัยไม่ดีฟาง เธอน่าสงสาร และเธอตกหลุมรักเขาคำโปรย----“โอ๊ย อะ อย่าค่ะ พี่ปี” เธอร้องออกมาด้วยความตกใจอีกครั้ง เมื่อร่างใหญ่ของเขาโถมทับลงมาทับเธอทั้งร่างเขาพูดและกระซิบข้างใบหู“นี่น้องหนูฟางคนสวย พี่จะสอน และพี่จะทำเหมือนที่พ่อทำกับเธอ และมาตัดสินใจกันนะว่า ใคร? ฉันหรือพ่อที่เอากับเธอแล้วมันแน่และดีกว่ากัน ฮ่า... ” พูดแล้วเขาก็ฉกใบหน้าลงไปบนเนื้อตัวของเธอ“อย่าค่ะ คุณปี อย่าค่ะ อย่าทำ อย่าทำฟาง ไม่… ไม่เอา อ๊าย...” เธอตกใจร้องกรี๊ด เมื่อเขากระชากเสื้อผ้าของเธอออกไป หัวใจของเด็กสาวเต้นแรงไปหมด เธอกลัวเหลือเกินร่างกายใหญ่โถมทับ และกระทำกับร่างกายของเธอเหมือนกับเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง เขาไม่ฟังเสียงร้องห้าม และเสียงร้องบอกว่าเจ็บของเธอเลยแม้แต่น้อยฝ่ามือหนาขย้ำและบีบเคล้นไปบนร่างกายของเธอในทุกส่วน ริมฝีปากร้อนแรงกระทำกับเธอเพื่อปลุกเร้าอารมณ์สาวน้อยที่ไม่เคยต้องสัมผัสกายชายรู้สึกตกใจและหวาดกลัวที่สุด น้ำตาของเธอไหลริน

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันคนรับใช้พลิกชีวิตแก้แค้นรักหวานๆดราม่าโรแมนติก

บทที่ 1

สงสารเด็ก

คุณธรรม ชลเนตร ได้เห็นแก่ความสัมพันธ์อันดี และสิ่งที่เขาสำนึกอยู่เสมอ คือ บุญคุณของวารีและอมร ที่ได้ช่วยชีวิตของเขาเมื่อยี่สิบปีก่อน

พอคุณธรรมได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของทั้งคู่ คุณธรรมจึงได้เดินทางไปเคารพศพของทั้งสองคนเป็นครั้งสุดท้าย

แต่สิ่งที่เขาได้เจอ คุณธรรมได้พบกับ นางสาวภูมิใจ หรือ น้องฟาง ลูกสาวเพียงคนเดียวของวารีกับอมร อยู่ท่ามกลางวงล้อมของเจ้าหนี้ที่เข้ามาทวงถามถึงเงินที่พ่อกับแม่ของเธอได้ยืมไป เป็นอะไรที่น่าสลดใจยิ่งนัก

เสียงเอะอะโวยวายของกลุ่มคนที่กำลังห้อมล้อมเด็กสาวคนหนึ่งอยู่ ต่างแย่งกันพูดเรื่องของตัวเองแบบที่ไม่มีใครฟังใคร

ภูมิใจ เด็กสาวร่างเล็ก ๆ ตัวขาว ๆ หน้ายิ่งซีดราวกระดาษเข้าไปอีก เมื่อถูกรุมทวงถามถึงหนี้สินที่เธอไม่ได้ก่อ ถึงกับนั่งปิดหน้าแล้วร้องไห้ ข้างศพของคุณพ่ออมร และคุณแม่วารีของเธอยังตั้งโลงเคียงคู่กันอยู่ในศาลานั้น ไม่มีใครคิดจะเห็นใจเด็กสาวตัวน้อย ๆ คนนี้เลย

“มาชิงตายไปเสียก่อน ยังไม่ใช้หนี้ที่ยืมฉันไป สามหมื่นเลย นี่ดูสัญญาเงินกู้เสียก่อน โธ่เอ๊ย ถ้ารู้แบบนี้ ว่าจะอายุสั้น จะไม่ให้ยืมหรอก”

“นั่นนะสิ แล้วถ้าไม่ตายไปเสีย จะมีใครรู้ไหมเนี่ยว่า เป็นหนี้ใครต่อใครเต็มไปหมด”

“โธ่เว้ย ของฉันก็ตั้งสี่หมื่น แล้วแบบนี้ ใครจะมาชดใช้ให้ ฮึ...”

และอีกหลายประโยคที่ต่างคนต่างพูด ไม่ให้โอกาสภูมิใจได้คิดหาคำตอบเลยแม้แต่น้อย

คุณธรรมนั่งมองจ้องหน้ากับคุณอมรและคุณวารีในรูปที่ตั้งอยู่หน้าโลงศพสองโลงนั้น แล้วนึกสงสาร

“คุณสองคนลำบากถึงขนาดนี้ ทำไมไม่เอ่ยปากบอกผมสักคำ ถ้าเอ่ยปากบอกผม ผมคงได้ยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่ต้องให้ลูกสาวของคุณสองคนตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ท่านได้แต่พูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะก้มลงไปกราบเคารพศพของทั้งสองคนเป็นครั้งสุดท้าย

“ชะเลง” คุณธรรมหันมาพูดกับคนขับรถของท่าน

“ครับ คุณธรรม”

“ไปจัดการบอกคนพวกนั้นสิ ว่าฉันจะเป็นคนจ่ายหนี้สินที่คุณอมรและคุณวารีได้หยิบยืมมาทั้งหมด และต้องมีหนังสือสัญญาที่ลงลายมือชื่อเท่านั้นนะ”

“ครับท่าน”

ชะเลงรับคำ ก่อนจะลุกขึ้นไปพูดคุยกับคนกลุ่มนั้น

“พวกคุณหยุดส่งเสียงดังจะดีกว่านะครับ ผมเป็นตัวแทนของคุณธรรม ที่นั่งอยู่ทางด้านนั้น คุณธรรมจะรับผิดชอบหนี้สินที่คุณวารีและคุณอมรหยิบยืมมาจากพวกคุณ ให้เตรียมเอกสารการกู้ยืมเงินมา แล้วมาส่งเรื่องกับผมครับ”

ทุกคนพากันมองผู้ชายแปลกหน้า แต่พอเห็นท่าทางและการแต่งเนื้อแต่งตัวเลย จึงรู้ว่า พวกเขามีสิทธิ์จะได้เงินคืน

“นี่คุณจะมารับหนี้ของสองผัวเมียนี่หรือ”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีนะสิ”

“ใช่ ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันมีเอกสารการกู้ยืมทุกอย่าง”

“เอาเลยครับ เชิญไปรวบรวมมา แล้วมายื่นที่ผม ผมรับประกันว่า พวกคุณจะได้เงินของพวกคุณคืนทุกบาททุกสตางค์”

ภูมิใจเอามือที่ปิดหน้าลง เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านั้น ก่อนจะหันไปมองคุณธรรม ท่านส่งยิ้มมาให้เธอแบบเอ็นดู

ผู้ชายวัยหกสิบห้าปี ผมสีดอกเลาเกือบขาวโพลนไปทั้งศีรษะ สีหน้าและแววตาดูอ่อนโยน และส่งยิ้มอย่างคนสุดแสนใจดีมาให้

“คุณหนูครับ ท่านเชิญให้ไปหาครับ” ชะเลงพูดกับภูมิใจอย่างนอบน้อม

“คะ” เธอยกหน้าขึ้นมองชะเลง รอยยิ้มที่ชะเลงส่งมาให้ เธอรับรู้ได้ถึงความจริงใจ ภูมิใจลุกตามหลังชะเลงไปอย่างไม่ลังเล

“หนูฟาง หนูเป็นลูกของคุณวารีกับคุณอมรสินะ”

“ค่ะ” นั่งทำหน้าตาแดง ๆ ยังคงสะอื้นในอกนิด ๆ

“คือ คุณลุงเป็นใครคะ” เธอไม่เคยเห็นหน้าของคุณธรรมมาก่อน สาวน้อยนึกแปลกใจ ขนาดญาติพี่น้องของพ่อกับแม่แท้ ๆ ยังหนีหาย

“เรื่องมันยาวนะ ที่จริง ลุงเคยเจอหนูตอนที่หนูตัวเล็ก ๆ นะ แต่หลัง ๆ มาลุงวุ่นวายเรื่องธุรกิจจึงไม่ได้มาเยี่ยมเยือนกันอีกเลย”

ภูมิใจได้แต่พยักหน้าน้อย ๆ นั่งเช็ดน้ำตาที่ยังซึมเอ่อ

แล้วคุณธรรมก็ย้อนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับท่านเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ท่านได้ขับรถมาเที่ยวทางใต้เพียงลำพัง ด้วยความไม่คุ้นชินกับเส้นทาง ตอนที่ถึงทางโค้ง รถยนต์ของท่านได้เสียหลักทำให้รถของท่านพลิกคว่ำ ตัวของท่านเองกระเด็นออกมา โชคดีที่ตกลงไปตรงร่องน้ำ ซึ่งตอนนั้นฝนเพิ่งตกใหม่ ๆ ร่างของท่านกระแทกไปกับพื้นดินทำให้สลบคาที่

คุณธรรมเล่าว่าท่านได้รับความช่วยเหลือจากคุณอมรและคุณวารีเป็นอย่างดี กว่าที่ท่านจะฟื้น และจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ ก็เป็นเวลานานนับเดือน คุณอมรและคุณวารียังเป็นธุระมาดูแลประหนึ่งเป็นญาติ ทำให้ท่านซาบซึ้งและถือว่าเป็นบุญเป็นคุณ และหาทางที่จะตอบแทนทั้งคู่มาตลอด แต่คุณอมรและคุณวารีไม่เคยร้องขออะไรเลย ให้ก็ไม่เอา

เรื่องที่คุณธรรมเล่าทำให้สาวน้อยน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง

“ไม่ต้องห่วงอะไรนะหนูฟาง ลุงจะจัดการเรื่องงานศพของคุณพ่อคุณแม่ของหนูเอง และอีกเรื่อง คือ เรื่องหนี้สินต่าง ๆ ของคุณพ่อกับคุณแม่ของหนู ลุงก็จะจัดการเคลียร์ให้ด้วย” ภูมิใจรีบลงไปนั่งคุกเข่าต่อหน้าท่าน ก่อนจะก้มลงไปกราบ แทบไม่มีคำพูดใด ๆ นอกจากคำว่า “ขอบพระคุณค่ะ” เท่านั้นที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากจิ้มลิ้มคู่นั้น

คุณธรรมจึงได้ตัดสินใจยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ และจัดการเคลียร์หนี้สินทั้งหมดให้